![]() |
||||||||||||||
สมุนไพร |
||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||
การเก็บรักษาพืชสมุนไพรและการแปรสภาพ |
||||||||||||||
ในการใช้"พืชสมุนไพร"
มาทำเป็นยารักษาโรคต่างๆนั้น แพทย์แผนโบราณใช้ "พืชสมุนไพร" นี้ได้ทั้งสดๆและตากแห้งแล้วในการใช้
"พืชสมุนไพร"ขณะที่ยังสดอยู่ เป็นวิธีการ ที่สะดวก มาก ใช้ก็ง่ายแต่ฤทธ์ของตัวยาที่มีอยู่ในพืชสมนุไพร
อาจจะไม่คงที่ ในบางครั้ง การออกฤทธื์ ิ์อาจจะดี แต่บางครั้งก็ออกฤทธิ์ไม่ดีนัก
"พืชสมุนไพร" ที่ใช้สดๆนั้นมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน เช่น ว่านหาง จระเข้รากหญ้าคาแต่การใช้สมุนไพรส่วนมากนิยมใช้แห้งเพราะจะได้
คุณค่าของยาคง ที่โดย เลือกเก็บสมุนไพรที่ต้องการตามฤดูกาลเก็บของพืชแล้วนำเอา
มาแปรสภาพ โดยผ่าน ขบวน การที่เหมาะสมเพื่อเก็บยาเอาไว้ได้เป็นเวลานานในการแปรสภาพยา
ที่เหมาะสมนั้น โดย ทั่วไป ก็จะต้องนำส่วนที่ใช้เป็นยามาผ่านการคัดเลือก ผ่านการล้าง
การตัดเป็นชิ้นที่ ี่เหมาะสม แล้วใช้ ความร้อนทำให้แห้งเพื่อสะดวกในการเก็บรักษาวิธี
การแปรสภาพ ยาสมุนไพร นั้นจะแตกต่างไป ตามชนิดของ"พืชสมุนไพร"ส่วนที่ใช้เป็นยาและความเคยชินของแต่ละท้องที่วิธีการที่ใช้
้บ่อย และจะเอาส่วนไหนของพืชที่เป็นยามาใช้ คือ รากและส่วนที่อยู่ในใต้ดิน ก่อนอื่นจะต้องคัดเอาขนาดที่พอๆกันเอาไว้ด้วยกันเพื่อจะได้สะดวก ในการแปรสภาพต่อไปนั้น ต่อจากนั้นก็ล้างดินและสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ให้สะอาดเสีย ก่อน เอาราก ฝอยออกไปให้หมดถ้าเป็นพืชที่ไม่แข็งนำมาผ่านขบวนการ ให้ความร้อนตามแต่ ชนิดของพืชนั้นๆ พืชที่ใช้หัวและรากประกอบด้วยโปรตีน แป้ง เอนไซม์หากผ่านความร้อนตามแบบ ต้มหรือนึ่งจะ ทำให้สะดวกในการเอาไปทำให้แห้งหลังจากผ่านขบวนการ ความร้อนแล้วนำเอามาตัด เป็นชิ้นๆ แล้วอบให้แห้งในอุณหภูมิที่เหมาะสม การเก็บรักษาพืชสมุนไพร การเก็บรักษาพืชสมุนไพรเอาไว้เป็นระยะเวลานาน มักจะเกิดการ ขึ้นรา หรือเกิดมีหนอน เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะของสี กลิ่นทำให้ยาสมุนไพร เสื่อมคุณภาพ ลงได้ ทำให้ไม่ออกฤทธิ์ในการบำบัดรักษาโรคได ้ เกิดการสูญเสียฤทธิ์ของยาไปเลย ได้วยเหต ุนี้เองจะต้องมีการเก็บรักษา ที่ดีเพื่อประกันคุณภาพและฤทธิ์การรักษาของยาสมุนไพร |
||||||||||||||
![]() |
||||||||||||||
![]() |
1 | 2 | 3 | |||||||||||