Hide Last Interview 1998.4.4
บทสัมภาสครั้งสุดท้ายก่อนการเสียชีวิตของฮิเดะ ซึ่งเป็นการสัมภาสทางโทรศัพท์ระหว่างประเทศกับฮิเดะ ซึ่งกําลัง Recording Album อยู่ที่ L.A. ตรงกับวันที่ 4 เมษายน 1998 ซึ่งถูกนําลงตีพิมพ์ในนิตยาสาร Arena 37'C ประจําเดือนมิถุนายน 1998
ซิงเกิ้ล 2 แผ่นต่อจาก Rocket Dive คือ Pink Spider และ Ever Free ได้มาถึงแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมากแต่ยังงัยก็ตามทุกคนยังคงเฝ้ารอการกลับมาญี่ปุ่นของเขา เขาบอกด้วยว่าในระหว่างสัมภาสครั้งนี้ กําลังเมาค้างอยู่ แต่จากนํ้าเสียงของฮิเดะมันฟังดูดีมากเลยหล่ะ
ปฎิกิริยาจากแฟนเพลงหลังจาก Release Rocket Dive แล้วเป็นยังงัยมั้ง
อือ ก็ดีนะ สิ่งที่ใส่ลงไปในเพลง ก็รู้สึกดีนะ
ถ้าฟังแล้วจะทําให้มีพลัง กระปรี้กระเปร่าอย่างนั้นเหรอ
ครับ แบบนั้นก็มี ยิ่งกว่านั้นจนถึงตอนนี้ยังไม่ค่อยได้ทัาการโปรโมรชั่นแปลกใหม่อย่างนั้นในการออกซิงเกิ้ลคนที่ฟังครั้งแรกก็จะรู้สึกวิเศษด้วย
โปรโมรชั่นก็เป็นการลองทําดู
ก็เป็นการลองทําดูน่ะนะ เพราะในช่วงที่ Release ซิงเกิ้ลที่แปลกใหม่จะได้ออกทีวีด้วย คงจะเพราะอย่างนั้นจึงลองทําดู
ทีวีก็ได้ออกค่อนข้างมากนะ
ในตอนนี้คิดว่าค่อนข้างดีแล้ว
ในรายการ Music Station ก็เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะ
บ้าใช่มั้ย (หัวเราะ)
รู้สึกว่าเป็นการทําอะไรสักอย่าง
แย่แล้ว หวังว่าคงจะไม่ได้ทําอะไรที่แย่ๆลงไปนะ พอได้ยินคนของสถานีโทรทัศน์ถามว่า เพลงนี้จะแสดงอะไร..เอ๊ะ..ถ้าเป็นอย่างนั้นหล่ะ? แล้วก็ค่อยๆกลายเป็น Jury ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปท่าทางจะแน่นะ ถ้ามันสูงมากขึ้นไม่ช้าก็จะขาดแล้ว ถึงไม่ทําอะไรก็จะตกลงมาได้ พูดไปอย่างนั้นหน่ะ
แต่การทําอย่างนั้นการจัดการแสดงก็ประสบความสําเร็จนี่นา รู้สึกว่าเป็นวงเดียวในญี่ปุ่นที่กล้าทํา หลังจากนั้นก็จะแสดงในทีวีกับ Spread Beaver ด้วยใน เครดิตของซีดีที่ใส่ชื่อวงลงไปด้วยสินะ
ใช่แล้ว เนื้อหาในการแสดงจนถึงตอนนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยนะ ใน Live ก็จะออกมาในรูปแบบนั้น แม้จะออกมาคนเดียวก็จะทักทายว่าเป็น Hide แห่งวง Spread Beaver ด้วย
ในการ Recording สมาชิกไม่ได้เข้าร่วมทุกคน ตอนให้ข่าวตอนนี้ก็ทําคนเดียว แล้ววงของฮิเดะ คืออะไรกันล่ะ?
จะเป็นยังงัยก็ได้นะ ปกติไม่ว่าทําอะไรจะคิดว่าทําเรื่องที่เกี่ยวกับวงด้วยอย่างการแก้ไขในการพูดถึงตัวเองอะไรนิดอะไรหน่อยก็ ฮิเดะ ทําให้น่าเบื่อใช่มั้ย คิดว่าเป็นการผ่อนคลายด้วย
Homeground ที่ยิ่งใหญ่คือ X-JAPAN เมื่อไม่มีแล้วจากนี้ไปความยิ่งใหญ่นั้นจากนี้ไปก็ไม่ได้ใช้แล้วใช่มั้ย Homeground แล้วที่จะเปลี่ยนไปได้ทําด้วยตัวเองแล้วที่นั่นก็รู้สึกว่าเป็นที่อยู่ด้วยใช่มั้ย?
ความรู้สึกนั้นมีนะ เพราะว่าผมไม่ชอบการลบ ชอบการบวกมากกว่าเพราะตอนเป้นมือกีต้าร์ของ X-JAPAN ก็ได้ทํา โซโล่ไปด้วย ฉะนั้นการลบคงจะไม่นะ
ความจริงถ้าดูแล้วการทํา Spread Beaver ทําให้ฮิเดะมีเสน่าห์มากกว่านะ
อาจจะเป็นอย่างงั้นก็ได้ จากนี้ไป Spread Beaver จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่เพราะเป็นสิ่งที่ตัวเองทําจึงรู้สึกว่ามันสนุกมากเลย
ตั้งแต่สักครู่ที่รัวคําถามเกี่ยวกับเรื่องวง มันเหมือนคําพูดที่พูดก่อนลูกสาวจะออกเรื่อนยังงัยก็ไม่รู้นะ
นั่นสิ ไม่ดีนะครับ โดยเฉพาะขอบเขตภาษาอังกฤษถือเป็นข้อห้ามนะ ในภาพถ่าย PV เมื่อสักครู่นี้ สมาชิกได้มาที่นี่ถ้าขนเครื่องดนตรีที่มีชื่อนี้เขียนอยู่จะสามารถหยุดที่สนามบินได้ ผมเองก็ไม่ได้คิดว่าจะใช้ชื่อนั้นนะ เพราะยังไม่ได้กําหนดอย่างเป็นทางการ
ตอนนี้มีสมาชิกบางคนอยู่ที่ L.A. ด้วยใช่มั้ย?
ตั้งแต่เมื่อวานนี้ Joe มาเพื่อจะทํา Recording เมื่อไม่นานมานี้ Chirolyn ก็มาถึง หลังเสร็จจากการถ่ายรูปสมาชิกคนอื่น ทุกคนจะกลับประมาณ 3 คืน 4 วัน ผมคนเดียวจะอยู่ประมาณ 3 อาทิตย์
ในครั้งนี้ซิงเกิ้ลที่มีเพลง 1 เพลงภายใน 1 เดือนจะ Release ออกมาต่อเนื่องกัน 2 แผ่น พอออกอัลบั้มในเดือนมิถุนายนทันทีหลังจากกลับญี่ปุ่น การ Release ของ ฮิเดะร่วมกับ Spread Beaver ก็จะเริ่มขึ้นทันที
คราวนี้ทํามัยจึงมีวิธีการ Release แบบนั้น?
สำหรับตัวผมเองทีแรกตั้งใจจะส่ง CD 1 แผ่นไปญี่ปุ่น (Pink Spider) รู้สึกจะไปได้ด้วยดี หลังจากนั้นคิดว่าอยากจะทาอะไรที่ให้ความรู้สึกเหมือนว่า Double Push ที่ไม่ใช่ Coupling จึงได้ทำ Ever Free ออกมาเมื่อทาแบบนั้นจึงอยากทำให้แยกออกมาจากทางฝ่ายบริษัท
ตัวเองก็คิดว่าอย่างงั้นดีเหรอ?
ในตอนแรกสุดก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ที่ในแผ่น CD ใส่ลงไปแค่เพลงเดียว
แต่การ์ดรูปคนแปลกๆ ที่ได้เริ่มทำตั้งแต่ก่อนแล้วจะใส่ลงไปใน CD ด้วยใช่มั้ย?
จะแนบติดไป ไม่อย่างงั้นก็คงจะไม่ยอม
ถ้าแบบนั้นการใส่ลงไปแค่หนึ่งเพลงก็คงจะไม่เป็นอะไรนะ ถ้าเพิ่มการ์ดคนแปลกให้มากขึ้นอีกจะดีใจมากเลย
ก็คงจะเป็นอย่างงั้นหล่ะนะ เพราะการ์ดรูปคนแปลกๆ นั้นแม้แต่ตัวผมยังรู้สึกตลกเลย ทางด้าน การ์ดอัลบั้ม จะมีการได้รับรางวัลจากการจับฉลาก ลักกี้การ์ด ก็กำลังทำ 123 อยู่อย่างคืบหน้าไปด้วยดี อันนี้ก็กำลังตั้งตาคอยอยู่นอกจากนั้น ซิงเกิ้ล 2 แผ่นนี้ได้ใส่ Voiceless เพิ่มเข่ไป 1 เพลง
แน่นอนว่าต้องเป็นเพลงอะไรสักอย่างใช่มั้ย ?
อืม แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญใช่มั้ยแค่เพิ่มเข้าไปเท่านั้น นอกจากนี้ ซีดีซิงเกิ้ลตามธรรมดาจะไม่ค่อยใส่ดีไซน์ลงไป แต่ครั้งนี้ได้ใส่ลงไปด้วยรูปที่วาดด้วยตัวเองได้กลายเป็นความคิดออกมา ถ้าเปรียบเทียบซิงเกิ้ล 2 แผ่นกับภาพวาดแล้ว ความเด่นสะดุดตาจะประมาณเดบิวต์ซิงเกิ้ลเลยหล่ะ ในครั้งนี้ที่ทําขนาดนั้นไม่ใช่จะโอเวอร์นะ แค่อยากลองใส่อะไรออกตลกๆ แบบผู้ใหญ่ดูดังนั้นหน้าปกคราวนี้ ตัวเองก็ถูกใจมากเลย ธรรมดาเวลาพูดถึงหน้าปกซิงเกิ้ลจะรู้สึกว่า อืม.......? เสมอ
หน้าปก Rocket Dive ก็เทห์ใบหน้าที่ปรากฏออกมาก็ดูเด่นมากเลย
อันนั้นดีด้วยตัวของมันเองนะ เป็นสิ่งที่อยากทำอยู่แล้วหลังจากนี้จะได้ไม่รู้สึกเสียใจภายหลัง
Pink Spider และ Ever Free จะเป้นเพลงตัวอย่างที่น่าตกใจ โดยเฉพาะ Pink Spider ภายใน Rock n Roll ที่มองดูเหมือนลูกบอลนั้นความจริงแล้วมีสิ่งที่ล้าค่าแอบซ่อนอยู่มากมายทีเดียว
2 เพลงนี้เขียนที่ L.A. ใช่มั้ย?
เนื้อร้องเขียนที่ L.A. Pink Spider เขียนตอนที่เก็บตัวเดือน มกราคม รวมทั้งทำการ Arrange ส่วน Ever Free ตัวของเพลงมีอยู่แล้วแต่ทำการ Arrange ทาไป 2-3 รอบ ตอนแรกมีส่วนที่เป็นบาลลาดด้วย แต่หลังจากเรียบเรียงทั้งหมดแล้วก็กลายมาเป็นรูปแบบแบบที่ได้ยินในตอนนี้
แต่ละเพลงใครเป็นคนเล่นกลอง?
Ever Free เป็น Joe แต่ Pink Spider สนุกมากเลยนะ มี 2 คน แต่กลองที่ทาให้สมบูรณ์มีคนเดียว สำหรับผมสิ่งนี้ได้กลายเป็น Cyborg และ Grow จึงเรียกรวมกันว่า Cyborgrow ดังนั้น Pink Spider จึงได้เรียกว่า Cyborg Rock ถึงแม้คนที่ได้ฟังที่ไม่ได้เล่นเครื่องดนตรี แต่ก็จะรู้สึกว่าเป็นกลองสดๆ หรือจังหวะจากอุปกรณ์พิเศษ สิ่งนี้ผมรู้สึกว่าสนุกมากดังนั้นแม้จะไม่เข้าใจก็ไม่เป็นรัย
แต่รู้สึกได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร?
ในช่วงเวลาที่เล่นกลองในการแสดงสดอย่างทุ่มเทเต้มที่นั้น สำหรับตัวผมเหมือนได้ผ่านช่วงเวลาพิเศษ เช่น Terminater ที่เรียกว่า Cyborg ลักษณะท่าทางมองเห้นเป้นคน แต่ถ้าเปิดดูข้างในก็จะเป็นเครื่องจักรกล ในทางกลับกันมองเห้นเป็นเครื่องจักร แต่ความจริงแล้วเป้นคน Grow แบบนั้นช่วงนี้กำลังน่าสนใจ Yanagita และ Joe ตีกลองเหมือนกันทั้งหมด แต่ถ้าเป้นการแสดงสดๆ อารมณ์จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งสองคนนามาผสมกันได้เหมาะพอดีอย่างอุปกรณ์พิเศษที่คนตีและวิธีเล่นเครื่องมือในจังหวะสี่เหลี่ยมจัตุรัสเคยเล่นตั้งแต่ตอนอัลบั้ม Psyche แต่จะลองทาที่ตรงข้ามกับสิ่งนั้นดู จังหว่ะสี่เหลี่ยมจัตุรัสถ้าคนเล่นได้พวกอุปกรณ์พิเศษก็เล่นได้ การเรียบเรียง Edit เป็นหน้าที่ของ Ikeda แต่ท่าทางจะสนุกสนานมากเพราะ ทั้งสองคนส่งเสียง อุวะๆ ไปด้วยทาไปด้วย
ว่าแต่ว่า 2 เพลงนี้ Rocket Dive กับ Doubt ดูเหมือนผู้ชายที่อ่อนโยนกับลูกชายที่สำมะเลเทเมา คิดว่าแยกออกอย่างนี้ได้ไหม?
พูดถึงเสียงร้องใช่มั้ย ในด้านของ Sound ถ้ายึดอย่างนั้นก็สามารถคิดได้ Pink Spider อาจจะเกี่ยวข้องกับ Doubt เพราะเนื้อร้องของ 2 เพลงนี้เขียนด้วย Theme เดียวกัน
Theme ที่เป็น รูปธรรมชัดเจนนั้นคืออะไร ?
ทั้ง 2 เพลงได้พูดว่าถ้าเข้าถ้าเสือก็จะได้ลูกเสือมา เป้นการดำเนินต่อมาของ Rocket Dive ในตอนนั้นไม่ว่าจะไปถึงที่ไหนก็ขอให้บินไปยังโลกใหม่ ถ้าบินไปก็จะดีไม่ใช่เหรอ เป็นเรื่องราวหลังจากร้องเพลงแล้ว ในสังคมความสามารถแบบนั้นไม่มีใช่มั้ย การใช้ชีวิตในสังคมแบบปีศาจ อาจจะนะ ในด้านนั้นก็เขียนโดยที่คิดว่า ไม่เขียนก็คงไม่เป็นรัย Pink Spider ความจริงแล้วมีเนื้อร้องยาวกว่าที่ใส่ใน ซีดีและยังมีต่อไปอีก แต่ไม่ได้ใส่ลงไปทั้งหมด ดังนั้นจะมี Pink Spider 2 ในอัลบั้มอื่นหรือจะเป็นเพลงพิเศษก็ไม่รู้ แต่หวังว่าจะใส่ลงไปแน่นอน เพราะอย่างนั้นในการ์ดเนื้อร้องจึงได้เขียนไว้ว่า To be continue
บรรทัดสุดท่ายรุนแรงจังเลยนะ แมงมุมบินไปแล้วหรือแมงมุมตกลงมา แล้วกลายเป้นเมฆ ได้จินตนาการได้ต่างๆนานาทั้งดีใจและเสียใจ เขย่าขวัญคนฟังแบบนี้ทาให้รู้สึกว่าคุณคือ สปิลเบร์กหรือเปล่า ?
ลำบากนะเพราะใช้ตัวอักษรฮิรากานะ ในคำว่า Kumo แปลว่าเมฆก็ได้ แมงมุมก็ได้ ออกเสียงเหมือนกันแต่ตัวคันจิไม่เหมือนกัน สิ่งที่มีอยู่ในตอนจบคือ1.ครั้งที่แมงมุมบินไปแล้วกลายเป้นเมฆ ตัวของเมฆเป้นสัญลักษณ์ของอิสระ ความจริงแล้วปัจจัยที่ประกอบเข้าด้วยกันเป็น ท้องฟ้าอาจจะสิ้นสุดลงโดยเป็นตัวตนที่ไม่มีอิสระน่ะ
ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นการเทศนา แต่ค่อนข้างจะเป็นคำสอน ที่มารวมเข้าด้วยกันเป้นเนื้อร้องที่เหมือนเทพนิยายนะ
ค่อนข้างจะเป้นนามธรรม ดังนั้นส่วนที่สื่อออกมาไม่ได้ ก็จะร้องไว้อย่างเป็นรูปธรรมใน Ever Free นอกจากนี้ตามธรรมดาไม่ได้อยากทําเนื้อร้องแบบนี้หรอกนะ การที่ได้ตัดซิงเกิ้ลออกมาจนถึงตอนนี้ตัวเองยังคิดไม่ถึงเลย ความจริงแล้วเป้นการทำตามนิสัยตัวเองที่สุดนะ สิ่งนี้เป็นการยากลำบากที่จะตัดซิงเกิ้ลจึงคิดว่าจะทำแบบไม่ใส่ใจไม่ได้
เนื้อร้องในครั้งนี้ได้ถูกเขียนไว้ก่อนแล้วใช่มั้ย?
ตอนแรกสุดได้เขียนเค้าโครงเรื่องไว้ทั้งหมดแล้ว แล้วก็เอาแต่ละหัวข้อเป็นคำสั้นๆ รวมเข้าด้วยกันเขียนเป็นเนื้อร้องออกมา ตอนนั้นสุดท้ายยังมีเนื้อหาเหลืออยู่ แต่อันนั้นไม่ได้ใส่ลงไปด้วย
ยิ่งกว่านั้น ถ้าทำให้ตอนท้ายหักมุม ก็จะกลายเป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปเลยนะ
เพราะว่าเป้นเพลง ร็อคแอนด์โรล มีตอนเทศนาก็ไม่ได้ด้วย
แต่ถึงอย่างงั้นก็เป็นเพลงที่เด่นนะ ยิ่งกว่านั้นแค่มองตรงๆไม่กี่ครั้งก็รู้สึกมีอะไรมากมายที่ออกมาให้สัมผัส เนื้อหาก็เป็นอะไรที่ระเอียดเข้มข้นนะ
ความจริงมีองค์ประกอบต่างๆที่ใส่เข้าไปในเหล้า 1 แก้ว ผมเองก็ได้บรรจุเหล่านั้นลงไปใน ร็อค แอนด์ โรล เพลงนี้อย่างยากลำบากมาก เลยเริ่มทำจาก ไตเติ้ล และปัจจัยต่างๆแรกสุด Pink เป็นสัญลักษณ์ของการคิดฝัน Spider ความหมายของคำไม่ซ้าซ้อนดี และมีคำว่า ใยแมงมุม จะเรียกว่า Web ใน Website หมายถึงการแผ่ขยายของข้อมูลข่าวสาร สิ่งที่ชื่นชอบของผมมากที่สุดนอกเหนือจากดนตรีก็คือการทำ Web นี่หล่ะ และทาให้ข่าวสารข้อมูลกว้างออกไป สถานที่ไม่เคยไปเห้นจริงๆ ก็จะสามารถเห้นได้เหมือนอยู่ใกล้ๆตัวเอง นอกจากนั้นคาว่า Spi ในSpider สาหรับตัวเอง ไม่ว่ายังงัยก็จะได้ยินคำว่า Spy ฉะนั้นในด้านของ ซาวในเพลงจึง อยากให้มีองค์ประกอบของ Spy ก็เลยอยากได้เสียงพูดของ Mine Fujiko นางเอกในการ์ตูนเรื่อง Rupansei ใส่ลงไปเป็นเสียงพูดในเพลง
อ๊ะ ในบทพูดผีเสื้ออันนั้น คือ Mine Fujiko เหรอ?
ก็เพราะเป็น L.A. เสียงพูดอันนั้นเลยไม่ใช่เสียงของ Mine Fujiko จริงๆ มันช่วยไม่ได้นะผมก็เลยต้องทาเองในเครดิต จึงเป็น Hide Fujiko
นั่นสินะ ค่อนข้างจะคลั่งไคล้เลยทีเดียว เพลงนี้สำหรับฮิเดะเองเป็นเพลงยังงัย
Doubt ที่ออกไปแล้วในอดีต สิ่งนั้นสำหรับผมเป็นอะไรที่มันไม่เหมือนกันถ้าถามว่าทำมัย ก็เพราะเป็นเพลงที่ได้เรียนรู้ว่า จะไม่ทำให้เป็นเพลง ไม่ใช่ว่าจะตกต่าลง แต่เพลงที่มีวิธีให้กำเนิดแบบนั้น เนื้อร้องจะเป็นสิ่งที่ออกมาจากความคิดโดยตรง เมือนของเสียที่ขับออกมาจากร่างกายเกี่ยวกับเครื่องดนตรี เมโลดี้ไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ครั้งนี้คาศัพท์ที่ได้ออกมาแต่ละครั้งได้วางเรียงโครงเรื่องใหม่ เนื้อร้องที่ได้เพิ่มไปเป็นสิ่งที่ตัวเองไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่
เมื่อตกลงมามือสามารถรับไว้ได้ ในทางกลับกันก็ได้ศึกษาการทาเพลงด้วย
ใช่แล้วหล่ะ เนื้อร้องในขั้นตอนของเดโมที่ทำไม่ได้ ถ้าปล่อยให้เป็นเสียงตะโกนอย่างนั้น คิดว่าจะกลายเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป
ซิงเกิ้ล 2 แผ่นในครั้งนี้เป็นการทำ 3 ส่วนตั้งแต่ Rocket Dive สินะ?
น่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าฟัง Rocket Dive ที่นี่ก็จะหายไป การพูดอย่างนั้นรู้สึกว่าจะเกินไป แน่นอนว่า ถ้ายื่นมือเข้าไปในถ้าเสือมาแต่ก็อาจจะโดนแม่เสือกัดเอาเองก็ได้
ความเจ็บปวดนั้นอยู่ใน Pink Spider?
ทั้ง 2เพลง Ever Free อาจจะมี Positive แต่การร้องแบบ Positive Single ไม่มีอยู่ในทั้งส่วนย่อยของทั้ง 2เพลง แต่ละเพลงจะถูกเรียกว่าความฝันกับอิสระ แต่ละเพลงได้ร้องว่า ถ้าใฝ่หาความอิสระจะถูกพันธนาการ ถ้าใฝ่หาอิสระความฝันจะถูกขาย ถ้าอย่างนั้นความอิสระที่เป็นสากลอยู่ไหนกัน ? เพราะเหตุนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ร้องแบบนั้น แต่ความฝันกับอิสระที่ได้ยกตัวอย่างเพิ่มเติมก็คือ Every Free นั่นเอง
ถ้าคิดด้วยอารมณ์ที่อิสระภายใน 1 เพลง ส่วนที่ลึกซึ้งอย่างนี้ที่ตัวเองได้บรรจุลงไป เป็นการทำงานที่ยอดเยี่ยมมากเลยนะ
เพราะเป็นงาน
ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ต้องทำจะไม่อยากทำอย่างนั้นเหรอ ?
อืม...ถ้าเป้นสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำงานก็จะเปลี่ยนไปนะ
ถึงแม้จะมีความเจ็บปวดควบคู่ไปกับการทำงานก็จะทำเหรอ ?
ความเจ็บปวดก็เหมือนกันโดยทั่วไป ว่ากันว่าความเจ็บปวดทำให้เกิดสิ่งต่างๆได้ทั้งหมดไม่ใช่ว่าจะสนุกแต่ ต้องสนุกแน่นอน
เพลงนี้ได้ทำ Arrange 2-3 ครั้ง เหตุผลสำคัญที่สุดคืออะไร ?
สำหรับผมถ้าคิดว่าใช้ไม่ได้ เมื่อออกมาแล้วก็จะเก็บเข้าห้อง เก็บของทันทีเลย แต่เมโลดี้เป็นสิ่งที่ทิ้งไม่ได้เลยนะ สำหรับผมบทเพลงที่นำเอาความดีของเมโลดี้นั้นมาในที่สุดก็เอามารวมไว้ด้วยอย่างช่วยไม่ได้ วิธีนี้จะดีกว่าทำให้ฉูดฉาดด้วย
อัลบั้มนี้มีกำหนด Release ในเดือนมิถุนายน และจะมีทัวร์ในเดือน กรกฏาคม ซิงเกิ้ลได้ทำการผลิตแล้ว 3 ส่วน และการคาดหวังในผลงานชิ้นนี้กลายเป็นสิ่งที่จู่โจมอย่างรวดเร็ว อา...ในปีนี้คงจะเป็นหน้าร้อนที่ยุ่งยากอีกแล้วสินะ
ท้ายสุดมีอะไรจะถามอีกหน่อย การแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เกี่ยวกับอัลบั้มได้ทําไปแล้วหรือยัง ?
ไม่ต้องทำก็ได้ก็เลยไม่มีการแจ้งให้ทราบ ผมก็เป็นอย่างนี้เหมือนทุกครั้งเพราะเป็นผมน่ะ สถานที่ใหม่ก็มีเหมือนกัน ถ้าได้ฟังซิงเกิ้ลทั้ง 3 แผ่นเปรียบเทียบกัน การที่ไม่ได้เป็นดังที่คาดการณ์ไว้คงจะได้รับการเข้าใจนะ
ความรู้สึกของปีนี้คือสิ่งนี้หรือไม่มี ?
ในที่สุดจะกลาอยเป็นเรื่องราว จากการทำเพลงอย่างตั้งอกตั้งใจ ตอนที่ทำการจัดลำดับเพลงในอัลบั้มตอนสุดท้าย จะมองเห็นสีสันของทุกส่วนและทำทุกส่วน
งั้น ในระหว่างที่ทำเพลงนั้นอะไรเป็นต้นเหตุที่สำคัญที่สุด
ชื่อที่สมมุติขึ้นชั่วคราวของอัลบั้มได้ทำด้วยตัวเอง ตอนอัลบั้ม Psyche ชื่อนี้ได้คิดไว้ชั่วคราวจนกลายเป็นชื่ออัลบั้มจริง ในสมุดโน้ตที่เกี่ยวกับชื่อชั่วคราว ได้เขียนไว้มากมายเต็มหมดเลยหล่ะ
ชื่อสมมุตินั้นมาจากไหน ?
อยู่ๆวันหนึ่งก็คิดขึ้นมา เป็นความปรวนแปรที่เกิดขึ้นนะ เรื่องแบบนั้นมาจากที่ ที่ไม่มีชีวิต เพราะกลัวจะลืมว่าคิดขึ้นเมื่อไหร่เลยเขียนบันทึกไว้ ถ้าเห็นอะไรนิดหน่อยก็จะคิดเกี่ยวกับสิ่งนั้น แล้วเอามาเขียนแล้วเขียนอีกทิ้งไว้ ในเวลาทำเพลงที่วิเศษแตกต่างออกไปเมื่อดูชื่อนั้น ก็สามารถนำออกมาใช้ให้เหมาะได้ อัลบั้มก็จะก้าวหน้าไปโดยธรรมชาติ ความจริงแล้วจะต้องมี คอนเซปบางอย่างที่กำหนดไว้ใช่มั้ย แต่นี่ผมทําคนเดียวรูปแบบที่ต้องมีคัยรู้ก็ไม่มีความจำเป็น
เป็นการสร้างใช่มั้ย ?
เพราะเป็นตอนนี้หน่ะน่ะ สิ่งที่คิดอยู่ในใจการจะแสดงออกมาเป็นคำพูด ของตัวเองมันยากนะ โดยเฉพาะกรณีที่จะทําให้กลายเป็นตัวอักษร การทำดนตรีเสียงกับคำจะต้องทำให้เข้ากันในขั้นตอนการทำงานส่วนนี้จะต้องอธิบายด้วย ยิ่งกว่านั้นการจะแสดงสิ่งที่อยู่ภายในใจออกมา ให้ถึงที่สุดนั้นในความเป็นจริงกลายเป็นว่าทําให้มีช่องว่างมากขึ้นใช่มั้ย บันทึกอันนี้ไดทำการร้อยเรียงทุกส่วนออกมาในสภาพที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างก่อนจะสัมผัสกับอากาศที่หายใจของสิ่งที่อยู่ข้างในหัวก็มักจะเป็นอย่างนั้นหล่ะน่ะ การสร้างคำจากการสัมผัสอากาศที่หายใจกลายเป็นเรื่องพื้นฐาน
ชื่อสมมุตินั้นอยู่ภายในหัวโดยไม่ได้จัดให้เรียบร้อยเป็นหมวดหมู่ ทำอย่างไรจะจะให้มารวมเข้าด้วยกัน
เป็นสิ่งที่ดูเหมือน Color Chart แม้จะเรียกว่าสีแดงแต่สีแดงที่ออกมานั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน ชื่อสมมุติที่เอามาเขียนนั้นเป็นการอธิบายสีแดงที่เป็นตัวอย่าง รู้สึกเหมือนว่าเป็นความคิดน่ะ แต่เพราะว่าทาให้ผู้อื่นฟังดังนั้นสิ่งที่ถ่ายทอดออกไปก็เป็นสิ่งที่สำคัญด้วยเพื่อสิ่งนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ได้สร้างคำตามขั้นตอนและนำมาประกอบรวมกันให้สอดคล้องกัน
อัลบั้มท่าทางน่าสนุกน่ะ แต่ยังงัยก็แล้วแต่พอซิงเกิ้ลนี้ถูก Release ออกมาทั้ง 2 เพลงคงจะขึ้นชาร์ทแน่นอนเลยล่ะ
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ โดยเฉพาะเพลงที่มีลักษณะเป็นเนื้อแท้อย่างผมอย่าง Pink Spider จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยถูกทำออกมาเป็นซิงเกิ้ลเลย เพลงอย่างนี้สำหรับผู้ฟังเป็นเพลงเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว แต่ช่วงเวลาแบบนั้นคงจะจบแล้ว จะพูดอย่างนี้ได้หรือเปล่า เพลงที่ยอดเยี่ยมในรูปแบบอย่างนี้ การที่สามารถทำได้ในช่วงเวลานี้เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำออกมาได้ เพลงนี้ถ้าอยู่ในชาร์ตละก็ จะดีใจมากเลย
การที่ได้ทัวร์ได้กำหนดไว้ในเดือน กรกฎาคม อัลบั้มก็คงจะออกเดือนมิถุนายนสิน่ะ ?
อืม...ถ้าในระหว่างที่ยังไม่ได้นำมาประกอบกัน เพลงใหม่ทั้ง 3 เพลงจะนำออกมาแสดงใน Live ด้วยนะ
ถ้าตั้งใจล่ะก็ฟังจากอัลบั้มดีกว่าไหม ?
ถ้ารออันนั้นก็จะกำหนด Schedule ไม่ได้นี่นา
ไม่ได้งั้นเหรอ ?
ถ้านำออกมาแสดงในคอนเสิร์ตด้วยงานที่ทำอย่างหยาบๆ จะไม่สามารถทำได้
ทำอย่างหยาบๆไม่ดีเลยนะ
ใช่ไหมหล่ะ ไม่ว่าจะช้าแค่ไหนแต่ในปีนี้จะต้องออกมาแน่นอน แต่ถ้าได้นำออกมาแสดงในระหว่างที่ทัวร์ด้วยก็คงจะดี แล้วก็ในเดือนสิงหาคมก็จะจัด Event พิเศษ Zilch ก็จะจัด ไลฟ์ด้วย
หลังจาก Event เหรอ ?
อาจจะนะ คิดว่า Schedule ยังไม่ได้ใส่ลงไปให้เรียบร้อย คิดว่า Spread Beaver จะแสดง 2 วันและ Zilch จะแสดง 2 วันอะไรประมาณนั้น
แสดงเยอะขนาดนั้นไม่เป็นไรเหรอ ?
เป็นสิเหนื่อยแย่เลยหล่ะ
ก็คิดว่าเป็นส่วนเล็กๆไม่ใช่เหรอจากการที่มีคนธรรมดาฟังอยู่
อย่างนั้นเหรอ ตอนเด็กๆไม่ได้ฟังแค่วิทยุเท่านั้น ผมไม่ค่อยจะได้ฟังก็เลย....
ก็เลยพูดว่า เย้ ด้วยความตื่นเต้นใช่มั้ย ?
ไม่ได้พูด ไม่ได้พูดตอน Opening ไม่ได้พูด เย้...นะ รู้สึกจะพูดว่า Hide Allnight Nippon อ๊า...หนาว
แต่คิดว่าทุกคนสนุกน่ะ
เพราะว่าเป็นแขกรับเชิญก็เลยพูดน่ะ เป็นโปรโมชั่นด้วย
ถ้าเป็น Personality คงสนุกนะ
เพราะว่านิ่งเงียบ ก็เลยเป็นอุบัติเหตุในการกระจายเสียงไป อืม...การอัดเสียงก็เลยน่าเบื่อ อัดเสียง 4 อาทิตย์หลังจากนั้นก็กลับญี่ปุ่น แต่ก็คิดอยู่ว่าพูดอะไรออกไปน้า ?
Tsubasa Hirogete Kimi Ga Fly
Matteru Dake No Kinou Ni Adios
Atarashii Hoshi Ga Matataku Sekai E Sail Away
เธอกางปีกออกบินไป
ลาก่อนวันวานที่ได้แต่เฝ้ารอ
ดาวดวงใหม่ที่กระพริบมายังโลกค่อยๆ ล่องลอยไกลออกไป
(Rocket Dive)