ปีที่ 2 ฉบับที่ 589 วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ
ศิษย์ธรรมกายผิดหวังสื่อวอนเลิกบิดเบือนข่าวสาร |
ลูกศิษย์ วัดพระธรรมกาย ร่อนหนังสือพิมพ์ไทย ผิดหวังอาชีพสื่อมวลชน ที่บิดเบือนข่าว ให้ร้ายวัด เตือนชาวไทย-ชาวพุทธ อย่าขาดสำนึก ผิดชอบชั่วดี ร่วมมือต่างชาติ ทำลายชาติตนเอง โดยเฉพาะ มหามิตรอเมริกา ที่มองเห็นคนไทย เป็นทาสมาตลอด
นางมนสิกา มนัสวงศ์ ลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้เขียนหนังสือระบายความในใจ กรณีที่สื่อมวลชน โจมตีวัดพระธรรมกายว่า ก่อนหน้านี้ มีความใฝ่ฝัน อยากเป็น นักหนังสือพิมพ์ แต่เสียดายที่สอบไม่ติด และมีทัศนคติที่ดี ต่ออาชีพนี้มาโดยตลอด เพิ่งจะมารู้ว่า ตัวเองเข้าใจผิด เมื่อมาพบเหตุการณ์ ที่วัดพระธรรมกาย ถูกสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อมวลชนอื่นๆ (ทีวีบางช่อง) ให้ร้าย บิดเบือนความจริง อย่างน่าละอายใจที่สุด เมื่อตนได้อ่านข่าวที่เกิดขึ้น รู้สึกเสียใจไปว่า ตัวเองไม่น่าหลงใหล ได้ปลื้มกับอาชีพนี้ มากมายขนาดนี้
ตอนนี้นักสื่อสารมวลชน ถูกมองว่า ทำตัวเหมือนขอทาน ทำได้ทุกอย่าง เพื่อแลกกับเศษเงิน เศษสิ่งของ และเศษอะไรอีกมากมาย ที่เราไม่ทราบ จนสงสัยว่า สถาบันต่างๆ ที่สอนคนออกมาทำอาชีพนี้ อยู่เฉยได้อย่างไร ไม่เห็นออกมาปรามลูกศิษย์ ที่ผิดจรรยาบรรณ เหล่านี้ ตนไม่เชื่อว่า ทุกสถาบันที่ผลิตนักสื่อสารมวลชน จะสอนให้ทุกคน ทำตัวเป็นจิ้งจก ตามสถานการณ์อย่างแน่นอน
นอกจากนี้การที่หนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย เสนอข่าวอย่างต่อเนื่อง ถึงองค์กรต่างชาติ ต่างศาสนา ที่มีเจตนาทำลายชาติไทย และศาสนาพุทธ โดยเสนอข่าวให้เห็นว่า เป็นการกระทำย่ำยี จิตใจของชาวไทย ทั้งที่เราไม่เคยรุกรานใคร
ชาวพุทธไม่เคยปิดกั้นหรือใจดำกับใคร แถมยังเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีเมตตา จนขาดปัญญา เพราะคนในบ้านเราเอง บางพวกบางกลุ่ม กลับยื่นมีด ยื่นดาบ เอาตัวเข้าเป็นทาส ให้พวกที่มาอาศัยแผ่นดินของเรา ฟาดฟันทำลายคนไทยด้วยกันเอง อย่างไร้สำนึก อย่างนี้จะเรียกว่า อกตัญญูหรือ เนรคุณได้ไหม
จิตสำนึกของความเป็นคน ที่ไม่น่าเบียดเบียน ทำลายแผ่นดิน ที่มีคุณ หายไปไหนกันหมด ทั้งคนที่อยู่ในแผ่นดินไทย ทั้งคนนอก ที่มาอาศัย โดยเอาศาสนา เอามูลนิธิ (ที่อ้างว่ามาช่วยนั่นช่วยนี่ หรือช่วย 10 เอา 100) มาบังหน้า สมกับคำโบราณว่าไว้ว่า ช้างสารงูเห่า ข้าเก่าเมีย (เพื่อน) รัก ท่านเปรียบไว้นัก อย่าได้วางใจ
เราเห็นอเมริกันชนเป็นเพื่อน โอบอ้อมอารีต่อเขา เหมือนผู้มาเยือน ต้อนรับขับสู้อย่างดี มาหลายสิบปี แต่เพื่อนเก่ารายนี้ กลับเห็นเราเป็นทาส เอาจุดอ่อนคือความใจดี มีเมตตาของเรา กลับมาฆ่าเราเอง แล้วไปหัวเราะลับหลังว่า เราโง่ที่เปิดประตู รับเขาเข้ามา ตอนนี้ บ้านเรากำลังเดือดร้อน ระส่ำระสาย ด้วยสถานการณ์ เศรษฐกิจ แล้วยังมาย่ำยีจิตใจ ชาวพุทธไทยซ้ำเติมไปอีก
แต่กระนั้น ยังไม่น่าสมเพชเท่า คนไทยพุทธด้วยกัน ที่กินบนเรือน ถ่ายบนหลังคา มาตกเป็นทาสเขา ทั้งชีวิตและวิญญาณ เพียงแค่เศษเงิน ที่เขาโปรยมา ก็ตาลุกหน้ามืดลืมตัว ลืมความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ขาดหิริโอตตัปปะ มาผสมกับความไม่พอใจส่วนตัว ทำลายล้างชาวพุทธด้วยกัน อย่างขาดความรู้สึก ผิดชอบชั่วดี
ขอให้ พิมพ์ไทย ต่อสู้ปกป้อง พระศาสนา อย่าท้อ สามารถกระชากหน้ากาก พวกผีบุญใจบาป ออกมาให้ชาวโลกได้เห็น อย่างน้อย จะได้เป็นวิทยาทาน เป็นการเตือน ให้เพื่อนบ้านของเรา ที่อาจตกเป็นเป้าหมาย ของอมนุษย์ เหล่านี้ ให้ระวังตัว ไม่ชักศึกเข้าบ้าน เหมือนเก่า
บรรดานักการเมืองผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย ที่คิดว่าตัวเองฉลาด น่าจะกลับไปนั่งคิดนอนคิด ได้แล้วว่า ตัวเองโง่หรือฉลาดกว่า บ้านพี่เมืองน้องของเรา (ชอบดูถูกว่า เขาล้าหลัง) อย่างประเทศลาวแน่ ส.ส.ก็คือ ตัวแทนของประชาชน เรามาคอยดูกันดีกว่าว่า ตัวแทนทั้งสองกลุ่มนี้ ใครจะจริงใจกว่ากัน