ปีที่ 2 ฉบับที่ 589 วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 แรม 2 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ
บ่อนกับวัด ไปไหนดี |
สิ่งที่เรียกว่า สัจธรรม ย่อมไม่มีสิ่งใดมาแปรเปลี่ยนความหมายในตัวของมันได้
เฉกเช่นกับ กรณีบวชอุบาสกแก้ว ของวัดพระธรรมกาย ที่มีชายไทยเข้าร่วมบวชกว่า 1 แสนคน ซึ่งถ้าหากรวมอุบาสิกา ญาติสนิทมิตรสหาย ของผู้ที่บวชอุบาสกแก้ว ตัวเลข 2 แสนคน ไม่น่าจะหนีไปไหน
แค่ทีวีพูลช่อง 5 ช่อง 11 ถ่ายทอดสด ออกไปทั่วโลก นาน 4 ชม. ยืนยันให้หนักแน่น ด้วยสถานีโทรทัศน์ อินเตอร์ CNN ที่เสนอข่าวบวช เพื่อพ่อของเรา เช่นกัน เรื่องนี้ จึงไม่จำเป็นต้องไปอธิบาย ให้มากความ
ทะลุแสนแล้วจ้า .!
การนำเสนอข่าวสวนกระแสกับเพื่อนบ้าน เป็นผลทำให้เรารู้สึกโดดเดี่ยว เพราะพรรคพวกมองเรา อย่างไม่เป็นมิตร หาว่า เรารับเงินวัด มาเขียนเชียร์บ้าง วัดเทคโอเวอร์เราไปแล้วบ้าง ทั้งๆ ที่เรายืนอยู่บนขาของเราเองแท้ๆ โรงพิมพ์ แท่นพิมพ์ ก็ใหญ่กว่า มีมากกว่า น.ส.พ.รายวัน หลายฉบับ เพื่อนสื่อมวลชนหลายๆ คน ก็รู้ความจริง แต่ก็ยังใส่สี สถาบันของเรา จนได้รับความเสียหาย ขนาดเรา มีกระบอกเสียงของตัวเอง ยังเจ็บปวดขนาดนี้ แล้ววัดพระธรรมกาย ที่ไม่มีสื่ออยู่ในมือ จะไม่เจ็บปวดยิ่งกว่าเรา หลายเท่าเชียวหรือ
อย่างไรก็ตาม การทำหน้าที่ของเราชาว พิมพ์ไทย ที่เสนอข่าว ผิดแปลกไปจากสื่ออื่นๆ ซึ่งเราเน้นมาโดยตลอด เพราะไม่อยากเห็น การสร้างสถานการณ์ ให้คนในพุทธศาสนา ต้องมาฆ่าฟันกันเอง
ประการสำคัญ เราไม่ต้องการเห็น ฐานันดร 4 ด้วยกัน บิดเบือนข้อเท็จจริง จนน่าเกลียด พยายามใส่สีตีไข่ กล่าวหา สถานปิฏิบัติธรรม แห่งนี้ โดยปราศจากข้อเท็จจริง ซึ่งเราก็ไปพิสูจน์ เห็นมากับตาตัวเอง
มันไม่ใช่อย่างที่นั่งเทียนกัน
ผู้สื่อข่าวทุกแขนง ที่แห่แหนไปทำข่าว ก็เห็นมากับตา มีผู้ที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา แห่แหนมามากมายเพียงใด แต่ข่าวที่ออกมา กลับเป็นคนละด้าน
ก่อนบวชก็รวมหัวกันถล่ม นั่งเทียนตัวเลขมีไม่ถึง 5 พันบ้าง ครั้นถึงวันบวช ก็ใช้แฟกซ์ข่าวสำนวนเดียวกัน บอกว่าโหรงเหรง ไม่เข้าเป้า หรือมีแค่ 6 หมื่นคน ราวกับนัดกันเล่นข่าว ทั้งๆ ที่สื่อบางสื่อ เป็นคู่ต่อสู้ทางการค้า เรื่องราวจึงไม่ต่างกับเกิดเทศกาล
ฝนตกขี้หมูไหล คนมีน้ำใจมารวมกัน (ทำกิจกรรมเฉพาะกิจ)
ในฐานะคนในวงการเดียวกัน ทำไมเราจะไม่รู้ถึง พฤติกรรมของพวกสื่อน้ำเน่า การโจมตี ให้ร้าย ทำลายคน นั้นมันง่ายมาก เมื่อขอตังค์เขา แต่เขาไม่ให้ นักข่าวในพื้นที่ส่งตัวเลขมา 1 แสน หัวหน้าข่าวที่มี มิจฉาทิฏฐิ ก็ทำตัวเป็นช่างทาสี เอาสองหาร ผลลัพธ์ก็เหลือแค่ 5 หมื่น
วิชามารกล้วยๆ แบบนี้ นักหนังสือพิมพ์รุ่นจูลาสสิคปาร์ค ประพฤติจนเคยชิน
สรุปแล้ว จากการที่ได้เข้าวัดพระธรรมกาย ไปพิสูจน์ทราบมากับตาตัวเอง ก็อยากจะขอให้ใช้มันสมอง ตรึกตรองดู
ระหว่างการดึงคนเข้าวัดปฏิบัติธรรม บำรุงพระพุทธศาสนา กับ การตีไก่กัดปลา เข้าบ่อน เข้าซ่อง เข้าเล้าจ์ เข้าผับ อย่างไหน น่าสรรเสริญยกย่องกว่ากัน
กรุณาช่วยตอบที