ปีที่ 2 ฉบับที่ 596 วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 แรม 10 ค่ำ เดือน 3 ปีเถาะ
"อาคม" ตามบี้ "ธมฺมชโย" สั่งเลิกวิชชาธรรมกาย |
"ตูมตาม" รับลูกฝ่ายตามล้างวัดพระธรรมกาย ตีปลาหน้าไซ เผยพระพรหมโมลี เตรียม 3 ทางออก สำหรับวัดพระธรรมกาย ได้แล้ว ลักไก่ระบุ วัดจะยอมรับนำไปปฏิบัติได้ คือให้วัดเปลี่ยนชื่อ "วิชชาธรรมกาย" เป็นสำนักวิปัสสนา เหมือนกับวัดอื่นๆ พร้อมสั่งทุบทิ้ง พระนิพพานเป็น "อัตตา" กล่าวหา วัดมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ในการมอบทุนการศึกษา แก่ภิกษุสามเณรในโรงเรียน พระปริยัติธรรม 50,000 รูป ในวันมาฆบูชา ด้านลูกศิษย์วัดพระธรรมกายชี้ 3 ทางออก คงเป็นไปไม่ได้แน่ พร้อมผจญมารร้ายทุกรูปแบบ เผยกองปราบฯ เตรียมจัดฉาก บุกค้นวัด
นายอาคม เอ่งฉ้วน รมช.ศึกษาธิการเปิดเผยเมื่อวันที่ 9 ก.พ.ว่า จากการที่ตนได้นำเอกสาร ที่คณะกรรมการรวบรวมข้อมูล กรณีวัดพระธรรมกาย ของกระทรวงศึกษาธิการ ไปมอบให้แก่ พระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดยานนาวา เจ้าคณะภาค 1 นั้น ได้สอบถามความคืบหน้า จากพระพรหมโมลี ทราบว่า ท่านได้อ่านเอกสารทั้งหมดแล้ว และสามารถหาวิธีแก้ปัญหา ของวัดพระธรรมกาย ได้แล้ว 3 แนวทาง ได้แก่
การเปลี่ยนวิชชาธรรมกาย เป็นสำนักวิปัสสนา เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน ที่ถูกต้อง เหมือนวัดทั่วไป ที่มีการจัดตั้งสำนักวิปัสสนา
แนวทางที่สอง ให้มีการจัดตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกธรรม เนื่องจากวัดพระธรรมกาย มีการเผยแผ่พระธรรมคำสอนอยู่แล้ว ดังนั้น ก็ควรทำให้เป็นไปตามกรอบที่ถูกต้อง
ส่วนแนวทางสุดท้าย จะให้มีการปรับคำสอนของวัด ที่ระบุว่า นิพพานเป็นอัตตา ซึ่งพระพรหมโมลีเห็นว่า ผิดจากพระไตรปิฎก โดยพระพรหมโมลีจะเป็นผู้ไปสอบถาม กับพระธัมมชโยและพระทัตตชีโว ด้วยตนเองว่า ยังมีความเชื่อตามคำสอนดังกล่าว อยู่อีกหรือไม่
เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีหลักฐานที่ชัดเจน สามารถยืนยันว่า เจ้าอาวาสเป็นผู้พูดเอง แต่หลักฐานที่มีอยู่ในขณะนี้ ส่วนใหญ่จะได้มาจาก เอกสารของ มูลนิธิวัดพระธรรมกาย ซึ่งเจ้าอาวาสก็เป็น ประธานมูลนิธิ นายอาคม กล่าวต่อว่า เชื่อว่า แนวทางที่ พระพรหมโมลี เตรียมการไว้ เจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย คงจะยินดีรับไป ปฏิบัติตาม เพราะที่ผ่านมา วัดพระธรรมกายยังเชื่อฟัง มหาเถรสมาคม และยังอยู่ใน การปกครอง ของคณะสงฆ์ อย่างไรก็ตาม หากไม่เชื่อฟัง หรือไม่ปฏิบัติตาม ก็เชื่อว่า พระพรหมโมลีคงมีแนวทางที่จะจัดการ ในรูปแบบอื่นอีก
นอกจากนี้ ในส่วนที่วัดพระธรรมกาย จะให้ทุนการศึกษา แก่ภิกษุสามเณรใน โรงเรียนพระปริยัติธรรม จำนวน 50,000 รูปนั้น เท่าที่ได้รับรายงานจาก นายบุรี แก้วเล็ก ผู้อำนวยการกองศาสนศึกษา กรมการศาสนา ทราบว่า ขณะนี้ประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม กลุ่มที่ 7-8-9 และ 10 ยืนยันแล้วว่า จะไม่รับอย่างแน่นอน
หากทางวัดพระธรรมกายไม่มีเจตนาอื่นใด แอบแฝง โดยเฉพาะการให้พระภิกษุสามเณร มารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ในวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งทางวัดจัดงานมาฆบูชา ก็ควรมอบเงินผ่านมาทาง กองศาสนศึกษา แต่ถ้าหากไม่มั่นใจว่า ทางกองศึกษาจะสามารถ จัดสรรเงินเกือบ 80 ล้านบาท ให้เป็นไปอย่างทั่วถึง ก็อาจจะนิมนต์ ประธานกลุ่มทั้งหมด เป็นตัวแทน มารับและนำไปจัดสรรต่อก็ได้
"ถ้าทางวัดมีเจตนาบริสุทธิ์ ก็น่าจะรับข้อเสนอของผมไปพิจารณา แต่ถ้ามีเจตนาอื่น ในช่วงที่ทางวัดกำลังถูกตรวจสอบ ผมก็รู้สึกเสียใจ และไม่อยากใช้คำว่า ทางวัดใช้ภิกษุสามเณรเป็นเครื่องมือ" นายอาคม กล่าว และว่า สำหรับกรณีการสืบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบวชสามเณรีนั้น ตนได้มอบหมายให้กองศาสนศึกษาไปหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วว่า ทางวัดพระธรรมกายมีการบวชจริงหรือไม่ มีใครเป็นอุปัชฌาย์ และหากไม่มีการบวช ทำไมจึงเรียกสามเณรี รวมทั้งให้ตรวจสอบด้วยว่า สามเณรีถือเป็นนักบวชในพระพุทธศาสนาหรือไม่ ทั้งนี้ให้รายงานภายในวันที่ 15 ก.พ.
พระผู้เปิดเผยถึงข้อเสนอของพระพรหมโมลี ที่เสนอทางออกให้กับ วัดพระธรรมกายว่า การปรับเปลี่ยนชื่อ สำนักพระธรรมกาย คงเป็นไปไม่ได้ เพราะวิชชาธรรมกาย ได้รับการตรวจสอบจากพระผู้ใหญ่ มาหลายครั้งแล้ว ซึ่งต่างก็ยืนยันว่า เป็นทางที่ก้าวไปสู่พระนิพพาน ซึ่งวิชชาธรรมกายก็ยังปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกด้วย ขณะเดียวกันเรื่องพระนิพพานเป็นอัตตาหรืออนัตตา ก็คงไม่สามารถหาข้อสรุปได้เช่นกัน
ด้านผู้ปฏิบัติธรรมวัดพระธรรมกาย เห็นว่า การปรับเปลี่ยน "วิชชาธรรมกาย" ซึ่งได้รับการตรวจสอบและรับรองว่า เป็นวิชชาชั้นสูง ทางพระพุทธศาสนา คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย ตนไม่เข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีความรู้ทางพุทธศาสนาเพียงใด อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ผู้ที่มีความศรัทธาต่อวัด จะไม่ตื่นตระหนกกับข่าวดังกล่าว
มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.อดิศร นนทรีย์ ผบก.ป. มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิเชียร สมานพงษ์ รอง ผบก.ป. ขออนุมัติหมายค้นจากศาล และนำกำลังส่วนหนึ่ง พร้อมด้วยการนัดแนะกับ ผู้สื่อข่าวประจำ กองปราบปราม เข้าตรวจค้น วัดพระธรรมกายเร็วๆ นี้ โดยอ้างว่า เพื่อหาหลักฐาน ประกอบ การสืบสวนสอบสวน ในคดีที่เกี่ยวข้อง
แหล่งข่าวตั้งข้อสังเกตว่า การขอตรวจค้นวัดครั้งนี้ มีการตระเตรียมนัดแนะกับผู้สื่อข่าว ซึ่งเป็นการจัดฉาก ระหว่างตำรวจกับผู้สื่อข่าว ที่พุ่งเป้าโจมตี วัดพระธรรมกาย