ปีที่ 2 ฉบับที่ 766 ประจำวันพุธที่ 18 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2542 |
กัลยาณมิตรด่าลั่น พิภพ กาญจนะ ขวางบุญทอดผ้าป่า ร่อนจดหมายห้ามพระทั่วประเทศมาวัดพระธรรมกาย 22 ส.ค. ด้าน "สมศักดิ์" ได้คืบเอาศอก บีบคอ "พระพรหมโมลี" ครบ 2 วันแล้ว ยังไม่มีหนังสือมติมส.ออกมา เตรียมใช้อำนาจรมต. สั่งให้พระสุเมธาภรณ์ ดำเนินคดีเอง แถมตั้งคณะทำงานติดตามมติมหาเถรสมาคม และคณะทำงานแก้ไข กฎนิคห กรรม เสียง "ยี้" ดังกระหึ่ม ตั้งได้ไง ฆราวาสแก้ไขกฎพระ ผิดพุทธบัญญัติ "มหาเถียน" ใหญ่คับฟ้า ควบ 2 เก้าอี้ "ตาเถร" ฉะตำรวจเอาเวลาจับยาบ้าดีกว่าราวีพระ เตือนรัฐบาลแก้ปัญหา คอรัปชั่นของรัฐบาลให้ได้ก่อน ค่อยทำงานอื่น ตอนนี้เหม็นไปทั่วโลกแล้ว
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังหารือกับ นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนา นายจรวย หนูคง ผู้ตรวจราชการ กระทรวง ศึกษาธิกา รและนายเริงฤทธิ์ เบ้านุวงศ์ หัวหน้าฝ่ายสังฆการว่า ทางมหาเถรสมาคม ได้มีการประชุม และได้มติให้กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการ 2-3 ประเด็นได้แก่ ประเด็นที่ 1 ขอให้ ตนช่วยพิจารณากฎหมายมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 ให้เกิดผลดีในทางปฏิบัติ ซึ่งในรายละเอียดนั้น ทาง นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนา ได้เข้าร่วมหารือด้วย
นายพิภพได้ขยายความว่า เจตนาของมหาเถรสมาคม ต้องการให้ดูข้อบกพร่องของกฎนิคหกรรมในด้านการปฏิบัติ อย่างที่ตนเคยยกตัวอย่างว่า กรณีที่มีผู้กล่าวหาแล้ว ไม่ได้ มีการกำหนดช่วงระยะเวลาไว้ว่า หลังจาก ผู้กล่าวหาได้ยื่นคำกล่าวหาต่อเจ้าคณะจังหวัด หรือผู้รับพิจารณา ควรจะมีการกำหนดระยะเวลากี่วัน ที่จะต้องดำเนินการพิจารณา เริ่มตั้งแต่ การพิจารณาว่า ผู้ที่กล่าวหานั้น มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ แล้วขั้นตอนต่อไปคือ การใช้ช่วงระยะเวลากี่วัน จึงจะดำเนินการนิมนต์ ผู้ถูกกล่าวหามารับข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดซึ่งต้องดูว่า มีข้อบกพร่องตรงส่วนใด ก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณา ซึ่งเรียกว่า "คณะกรรมการพิจารณา แนวทางส่งเสริม การใช้กฎมหาเถร สมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2521 ว่าด้วยการลงนิคหกรรม) และ มติมส. ยังได้ให้ตนมี คณะกรรมการติดตามประสานงาน อย่างใกล้ชิด และได้ตั้ง คณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดคือ "คณะ กรรมการ ติดตามประสานงาน การดำเนินงานตามมติมส." คณะกรรมการทั้ง 2 ชุดนี้ เป็นไปตามที่ มส.ได้มีมติ และเป็นสิ่งที่ทางกระทรวงศึกษาธิการ จะต้องดำเนินการ ให้เป็นไป ตามมติต่อไป
นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้นายพิภพ ไปกราบนมัสการ พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ในวันนี้ (18 ส.ค.) เพื่อให้มีบัญชาไปยัง พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เพื่อจะได้ออกหนังสือเรียก เจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ไปรับแจ้งข้อกล่าวหาเป็นครั้งที่ 2 หลังจากพระพรหมโมลีรับปากว่า ขอเวลา 2 วันก็จะครบในวันนี้แล้ว ถ้า พระพรหมโมลี ยังยืนยัน ที่จะไม่มีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร เรื่องกฎนิคหกรรมอีก ก็จะให้เขียนเป็น จดหมายสั่งการ เพื่อให้ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้ดำเนินการ ตามขั้นตอน ต่อไปได้ เพราะเจ้าคณะจังหวัดฯ แจ้งกับอธิบดีกรมการศาสนาว่า จะดำเนินการต่อไปต่อเมื่อได้รับหนังสือจากพระพรหมโมลีเท่านั้น
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า การดำเนินคดีในทางโลกกับพระธัมมชโยนั้น จะได้ข้อสรุปโดยเร็ว ก่อนสิ้นเดือนนี้ เพราะได้ประสานงานกับ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องของคดีนี้ เพื่อกระบวนการทางโลก จะได้ยุติลง
ด้านกองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสอบสวนคดีทุจริตของเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกายว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้(17 ส.ค.) นายผ่อง เล่งอี้ อดีตอธิบดี กรมป่าไม้ และลูกศิษย์เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศุภพล อรุณสิทธิ์ รองผู้กำกับการ 3 กองปราบปราม ตามหมายเรียกตัวในฐานะพยานของพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำนายผ่อง ในฐานะที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ดิน ที่ยกให้เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
สำหรับในการเดินทางมาให้ปากคำในครั้งนี้ นายผ่อง เปิดเผยว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ถึงรายละเอียดต่าง ๆ ในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นมารยาท และอยู่ในขั้นตอนกระบวน การยุติธรรม และสำหรับการฟ้องร้อง ทางคณะพนักงานสอบสวนนั้น เป็นเหตุผลของตน และที่ต้องไปฟ้องร้องถึง จังหวัดพัทลุงนั้น ก็เพราะว่าตนเกิดที่นั่น
ต่อข้อถามว่า การเรียกพยานของพนักงานสอบสวน ฝ่ายวัดพระธรรมกาย ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร เป็นเพราะไม่มั่นใจในเรื่องอะไรหรือไม่ นายผ่อง กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ควรจะมาถามตน เรียกไปก็มา ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร ส่วนสำหรับตนเอง เรื่องการยกที่ดินให้ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนั้น เป็นเพราะเคารพเลื่อมใส ศรัทธาในตัว ท่าน และเคารพเหมือนกับเป็นพ่อคนของตนอีกด้วย
สำหรับรายชื่อคณะทำงานติดตามและประสานการดำเนินงาน ตามมติมหาเถรสมาคม
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ปรึกษา
2. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ปรึกษา
3. นายไพบูลย์ เสียงก้อง รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประธานคณะทำงาน
4. นายจรวย หนูคง รองประธาน
5. นายเสฐียรพงษ์ วรรณปก คณะทำงาน
6. นายจรัล ภักดีธนากุล ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ คณะทำงาน
7. นายวีรศักดิ์ โค้วสุรัตน์ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ คณะทำงาน
8. นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมศาสนา คณะทำงาน
9. นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ รองอธิบดีฯ คณะทำงาน
10.นางศิริวรรณ กุลโพธิ์ ผอ.กองนิติการ คณะทำงานและเลขานุการ
นายพิภพ กาญจนะ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า การจัดทอดผ้าป่าของวัดพระธรรมกาย จำนวน 1 หมื่นวัดนั้น กรมการศาสนา เคยมีหนังสือไปยังเจ้าคณะจังหวัด ทุกจังหวัด แล้ว ขอความร่วมมือ อย่าเข้าร่วมงาน แต่เพื่อความหนักแน่น กรมการศาสนาได้เสนอเรื่องนี้ต่อ ที่ประชุมมหาเถรสมาคม ซึ่งได้รับทราบ และเน้นว่า ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่ควรมี การจัดทอดผ้าป่า กรมการศาสนาจึงมีหนังสือแจ้งให้ทุกวัดทราบแล้ว
ภายหลังจากข่าวทีวีได้เผยแพร่คำพูดของนายพิภพออกไป ปรากฏว่า เหล่ากัลยาณมิตร ได้โทรศัพท์มาสาปแช่งนายนิภพ ต่อ "พิมพ์ไทย" จนสายแทบไหม้ ส่วนใหญ่ให้ความ เห็นว่า ทำไมต้องห้ามคนทำบุญด้วย ไม่ทราบว่า กรมการศาสนาเปลี่ยนหน้าที่ไปแล้วหรืออย่างไร กรมศาสนาก็รู้ดีว่า พระในชนบทขาดแคลนทั่วประเทศ ไม่มีปัจจัย มือไม่พาย อย่าเอา เท้าราน้ำจะดีกว่า
พร้อมกันนี้ ผู้ใช้นามปากกาว่า "ตาเถร" ได้ส่งแฟ็กซ์มายังกองบก.พิมพ์ไทย มีความว่า จริงๆ แล้ว ตำรวจมีเรื่องที่ต้องทำอยู่มากมาย ในโรงเรียนมียาบ้าระบาด แก้ไขได้มาก น้อยแค่ไหน ตนเองมีลูกสาว ก็กังวลมากกว่าคนอื่น เพราะนอกจากจะกังวลกับปัญหายาบ้าแล้ว ยังต้องกังวลว่า นักเรียนชายในโรงเรียนเดียวกัน หรือ ครู ลวนลามลูกสาวตนอีก ตำรวจ ควรจะตื่นตัวกับเรื่องเหล่านี้ มากกว่า ไม่ควรจะมาตั้งหน้าตั้งตาหาเรื่องกับพระ
"ลูกของผมไปวัด ผมไม่เคยห่วง สบายใจตลอด ดังนั้น จึงอยากถามตำรวจว่า ระหว่างวัดพระธรรมกาย กับโรงเรียนที่มียาบ้า ตำรวจควรจะจัดการกับปัญหาใดมากกว่ากัน"
นอกจากนี้ "ตาเถร" ยังฝากคำถามไปถึงรัฐบาลด้วยว่า ทำไมเรื่องผักสวนครัวรั้วกินได้ จึงเงียบไป ทุจริตยาก็ยังเห็นนิ่งเฉย คดีโกงแบงก์บีบีซี ได้เงินคืนมากี่บาท ข่าวนักการ เมืองพัวพันค้ายาเสพติด 20 คน ที่หนังสือพิมพ์ต่างประเทศระบุ เข้าไปดูแลบ้างหรือยัง รัฐบาลควรเอาเวลาไปดูแลปัญหาเหล่านี้มากว่าพระ พระท่านดึงคนเข้าวัด อยากถามเหมือนกันว่า ควรสนับสนุนหรือทำลาย?