ปีที่ 2 ฉบับที่ 839 ประจำวันเสาร์ที่ 30 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2542 |
เมื่อกระสอบทรายถูกสำคัญเป็นบันไดก้าวไปสู่ตำแหน่งแชมเปี้ยน
วันนี้ต้องขออนุญาตใช้สิทธิ์พาดพิงอีกครั้ง
กรณีหนังสือพิมพ์ดี
วิเคราะห์ข่าวในวงการเลขานุการ
เจ้าคณะจังหวัด และสหธรรมมิก
เพื่อการศาสนาสากล For All Thought กันยายน
- ตุลาคม 2542
หนังสือดังกล่าว
เป็นหนังสือที่ผลิตขึ้น
โดยวัดพุทธาราม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ
คอลัมน์ประชาธิปไตยสงฆ์ หน้าที่
54-61
มีเนื้อหาโดนรวมถึงปัญหาวัดพระธรรมกายสอนผิดเพี้ยน
สอนให้ผู้คนยึดถืออัตตา
มีตัวมีตน
จึงเกิดความเห็นแก่ตัว
นำมาซึ่งปัญหาต่างๆ มากมาย
อย่างที่เห็นๆ กันอยู่
ประเด็นหลักของคอลัมน์ประธาธิปไตยสงฆ์
จั่วหัวว่า "จะปฏิรูปการปกครองสงฆ์ไปทำไม
ปัญหาวัดพระธรรมกาย
กับการปฏิรูประบบสงฆ์"
พร้อมกับบทวิเคราะห์
ที่มาที่ไปของ หนังสือพิมพ์ไทย
และบทบาทหน้าที่ของ "พิมพ์ไทย"
ต่อการปกป้องพระพุทธศาสนา
แบบไร้ทิศทาง
ไร้ภูมิรู้ภูมิธรรม
พระมีครูบาอาจารย์แบบพระธัมมชโย
ที่มีมิจฉาทิฏฐิ
เสียดายคอลัมน์ดังกล่าวไม่ได้ระบุชัดว่า
ใครคือคนเขียนบทวิเคราะห์
แต่คงเป็นพระภิกษุ
เพราะเกริ่นนำว่า ได้รับหนังสือ
"พิมพ์ไทย" ฉบับพิเศษ
ผ่าแผนพิฆาตธรรมกาย พิชิตมาร 300,000
เล่ม เพื่อพระพุทธศาสนา
จากโยมท่านหนึ่ง นำมาถวาย
คำติติงเสมือนหนึ่งคำชี้แนะ
ผมขอน้อมรับความเห็นที่แตกต่างไว้ด้วย
ความเคารพ
แต่การหยิบยกบทวิเคราะห์
ของหนังสือดังกล่าวมาชี้แจง
ยืนยันว่า
ไม่ใช่เรื่องของการยอมแพ้ไม่ได้
หรือไม่รับฟังความเห็นของผู้อื่น
หากแต่บางมุมมองคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอยู่มาก
ไม่แน่ใจว่า
ผู้เขียนใช้หลักเกณฑ์
หรือข้อมูลฐานใดตีความ
จนอาจทำให้ผู้คนเข้าใจบทบาทของหนังสือพิมพ์พิมพ์ไทยไร้อุดมการณ์
ไร้จุดยืน
คงเป็นเรื่องที่ผมจะปล่อยผ่านไป
เหมือนคลื่นกระทบฝั่งไม่ได้
ต้องชี้แจงต้นสายปลายเหตุ
ให้สาธุชนได้เข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของเรา
ในฐานะสื่อมวลชนเพียงฉบับเดียว
ที่มีความเห็นแตกต่างจากเพื่อนพี่น้องสื่อมวลชนอื่นๆ
การเสนอข่าวสวนกระแสกรณีธรรมกาย
ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
หรือที่ใครนึกอยากจะทำก็ทำตามตัณหาแห่งตนหรือหมู่คณะ
แต่จุดยืนเราชัดเจน
อุดมการณ์เรามั่นคง
สามารถชี้แจงได้ทุกเวที
ว่าทำไมเราถึงนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการศาสนา
ลักษณะดังกล่าว เพื่ออะไร
เพื่อใคร??
ต้องยอมรับซิครับว่า
ก่อนหน้านี้
สื่อมวลชนเล่นบทชกกระสอบทราย
ผมก็สุดจะ "ทุเรศ" นัยน์ลูกตา
มันสนุกตรงไหนกับการประเคนหมัด
ซอก เข่า ใส่กระสอบทราย
บังเอิญสังคมนี้
มิได้มีแต่กระสอบทรายอย่างที่หลายฝ่ายคิด
"พิมพ์ไทย"
ที่มีความเห็นที่ต่างออกไป
จึงตกบันไดกลายเป็นคู่ชกของสังคมไปพร้อมๆ
กับวัดพระธรรมกาย
จนถูกรวบหัวรวบหางเหมารวมว่า
เราคือกระบอกเสียงของวัดพระธรรมกายไปโน้น
ยอมรับหรือไม่ ว่าก่อนหน้านี้
สื่อมวลชนเสนอข่าวบิดเบือน
คาดเคลื่อน
หลายเรื่องหลายกรณีเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย
และจุดนี้นี่เอง
ได้นำมาซึ่งการทำงาน
และการตัดสินใจที่จะ เสนอข่าว
ที่ถูกต้อง
แต่ตรงประเด็นยิ่งขึ้น
หมาเฝ้าบ้าน
สัตว์ผู้มีเขี้ยวเล็บงาม
โลโก้แห่งความสัตย์ซื่อต่อผู้เป็นเจ้านาย
หลายบทบาท
หลายอารมณ์ลึกที่มนุษย์เทิดทูน
สุนัข หรือเจ้าหมาเป็นวีรบุรุษ
เป็นยอดแห่งข้าทาสผู้สัตย์ซื่อ
ถ้าเธอจะมีสายตาแห่งการเอื้อเฟื้อ
ห่วงหาอาทร
โปรดจงเผื่อแผ่สายตาแห่งความหวังดี
(รัก) ต่อเจ้าตัวน้อยขนฟู หางตก
หูตั้งด้วยเถิด
รับรองรักเราไม่อับปาง
รักฉันโปรดรักหมาฉันด้วยเถิด
นั่นคือบทเทิดทูนสัตว์ผู้มีเล็บงาม...
กรณีนี้ ไม่เกี่ยวกับ "หมาบ้า"
หางตก น้ำลายฟูมปาก
ไม่เชื่อฟังเจ้าของ "ทรยศ"
ไม่เลือกหน้า
กัดแม้แต่เจ้านายผู้มีบุญคุณ
มีตัวอย่างให้เห็นที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
จนมีคำคมที่ว่า "น้ำลายหมาหยดเดียว
ทำให้รัฐบาลพัง"
สำนักพิมพ์ที่ผลิตงานสื่อมวลชน
พึงสังวรกับหน้าที่และบทบาทของหมาเฝ้าบ้าน
หากพลั้งเผลอลืมฉีดวัคซีนป้องกันโรคกลัวน้ำเมื่อใด
สัตว์ที่ได้ชื่อว่า
เจ้าแห่งความซื่อสัตย์
อาจกลายเป็น
สัตว์หน้าขนปากเปราะ
กัดผู้คนไม่เลือกหน้า
และก็มีนิสัย "อดอาจม" ไม่ได้
วันนี้เนื้อที่หมดแล้ว
ยังไม่ได้ลงลึกถึงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อพิพาท
หนังสือ "ดี"
ผมมีคำตอบแน่
หลายเรื่องที่หนังสือดังกล่าวพาดพิง
เป็นข้อมูลเท็จส่วนใหญ่ อาทิ
กรณีพิมพ์ไทย
จ้วงจาบสมเด็จพระสังฆราช
กรณีทีมงานกองบรรณาธิการ
มีความรู้ต้อยต่ำ มีครูบา
อาจารย์ แบบ พระธัมมชโย
ล้วนแต่เป็นความเห็นที่คาดเคลื่อนและมีมิจฉาทิฏฐิเป็นสรณะทั้งสิ้น
พรุ่งนี้ว่ากันต่อ
ขอจบบทบาทของสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นหมาเฝ้าไว้
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
โซตัส