ปีที่ 2 ฉบับที่ 843 ประจำวันพุธที่ 3 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542 |
ฟ้องข้อหาเพิ่ม พระธรรมปิฎก
ฟ้องนิคหกรรม พระธรรมปิฎก
เพิ่มเติม เล่นข้อหาหนัก
ปลอมปนพระไตรปิฎกฉบับ CD-ROM
จัดทำโดยมหาวิทยาลัยมหิดล
โดยอ้างเอกสารของมหาวิทยาลัย HANAZONO
ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ท้วงติง
พระไตรปิฎกฉบับดังกล่าวมาตั้งแต่ปี
2536 ด้านเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม
ย้ำคำเดิม
จะดำเนินการให้ถึงที่สุด
ไม่หวั่นเกรงภัย
ขออุทิศชีวิตเพื่อพระศาสนา
โดยไม่ยอมให้ใครมาบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างเด็ดขาด
เมื่อวานนี้ (2พ.ย.) เวลาประมาณ 10.00 น.
ที่วัดวังตากู จ.นครปฐม นายชาญชัย
บศปวนิช อายุ 43 ปี อาชีพนักข่าว
ได้นำเอกสารเพื่อยื่นฟ้องนิคหกรรม
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตโต)
เพิ่มเติมใหม่อีก
โดยตั้งข้อหาปลอมปน ตัดแต่ง
ต่อเติมพระพุทธวจนะ
ในพระไตรปิฎก
และประเด็นการนำพระสัทธรรมปฎิรูป
มาบิดเบือนหลักพระพุทธศาสนา
ในการนี้ นายชาญชัย
ได้นำเอกสารหลักฐานดังกล่าว
เข้ายื่นต่อ พระเทพคุณาภรณ์
เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม
เจ้าอาวาสวัดวังตะกู
โดยเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม
ได้รับเอกสารหลักฐานดังกล่าวไว้พิจารณาดำเนินการต่อไป
สำหรับหลักฐานที่ใช้ประกอบคำฟ้องดังกล่าว
เป็นรายงานจากมหาวิทยาลัย HANAZONO
ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งได้ท้วงติงเรื่องพระไตรปิฎกฉบับ
CD-ROM มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2536
ซึ่งจัดทำโดยมหาวิทยาลัยมหิดล
และพระธรรมปิฎก โดยระบุว่า
เป็นการแต่งพระไตรปิฎกเถรวาทขึ้นใหม่
ทำให้พระไตรปิฎกดังกล่าวขาดความน่าเชื่อถือทางวิชาการ
แม้จะมีการทักท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว
แต่ผู้จัดทำ
ก็ไม่ได้แก้ไขให้ถูกต้อง
พระเทพคุณาภรณ์กล่าวว่า
หากเรื่องการบิดเบือนพระไตรปิฎกตามที่กล่าวหาเป็นความจริง
พระภิกษุที่กระทำเช่นนั้น
ถือว่า อกตัญญูต่อพระพุทธเจ้า
ต้องการตั้งศาสนาขึ้นใหม่
อาตมาจะดำเนินการเรื่องนี้
โดยด่วนที่สุด เพราะถือว่า
เป็นอันตรายต่อพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง
ทั้งนี้
อาตมาไม่ได้เกรงกลัวต่ออำนาจอิทธิพลใด
ที่บวชมานี้
ก็อุทิศชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว
การปลอมปนพระไตรปิฎก
อันเป็นที่สิงสถิตย์ของพระธรรมวินัย
เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้
แต่เนื่องจากอาตมา
ฐานะเป็นพระราชาคณะชั้นเทพ
จึงไม่สามารถดำเนินการกับพระราชาคณะชั้นธรรมได้
จึงแนะนำให้ไปยื่นเรื่องต่อสมเด็จพระพุฒาจารย์
วัดสระเกศ
ในฐานะผู้ปกครองสูงสุดฝ่ายมหานิกาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
หลังจากมีการยื่นนิคหกรรมแล้ว
ชาวบ้านได้พากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์
ในเรื่องดังกล่าว
โดยส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า
การปลอมปนพระไตรปิฎก
คือการจาบจ้วงพระพุทธเจ้า
ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อม
ถ้าเป็นตามที่กล่าวหาจริง
ก็ควรจะมีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เพื่อไม่ให้พระพุทธศาสนาแปดเปื้อน
และเกิดความเข้าใจผิดต่ออนุชนรุ่นหลังต่อไป
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
กล่าวว่า มั่นใจว่าในวันที่ 10
พฤศจิกายนนี้ พระธัมมชโย
เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
และพระทัตตชีโว
รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
จะเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาแน่นอน
ตามกระบวนการนิคหกรรม
ถ้าไม่มาครั้งแรก จะเรียกอีก 1
ครั้ง
และถ้ายังไม่มาอีกจะส่งเรื่องเข้าสู่กระบวนการทางสงฆ์ทันที
ด้านนายไพบูลย์ เสียงก้อง
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า
กำลังติดต่อขอข้อมูลด้านคดีกับ
พระธัมมชโย จากพนักงานสอบสวน
เพื่อส่งเป็นข้อมูลเพิ่มเติม
ให้กับพระปทุมกิจโกศล
เจ้าคณะตำบลคลอง 1 อำเภอคลองหลวง
จังหวัดปทุมธานี
เพื่อทบทวนการสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
ของพระธัมมชโยอีกครั้ง
นายพันธ์ สุริยพร
รองอัยการสูงสุด
ผู้ดูแลคดีวัดพระธรรมกาย
เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาสั่งคดี
2 คนสนิทของพระธัมมชโย คือ
นายเทิดชาติ ศรีนพรัตน์
และนายมัยฤทธิ์ ปิตวนิค
ผู้ต้องหาคดีปลอมแปลงเอกสาร
และสนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่
โดยมิชอบ
ในการกว้านซื้อที่ดินย่านต่าง ๆ
แล้วใส่ชื่อพระธัมมชโย ว่า
ขณะนี้คณะทำงานอัยการยังไม่ได้รับผลสอบเพิ่มเติม
จากพนักงานสอบสวนครบถ้วน
จึงยังไม่สามารถพิจารณาสั่งคดีได้ในวันที่
3 พฤศจิกายน
คงต้องเลื่อนการสั่งคดีออกไปก่อน
แต่จะเป็นวัน เวลาใดนั้น
ต้องรอให้ผู้ต้องหาพบนายอำพล
เหมาคม อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5
ผู้รับผิดชอบ
เพื่อกำหนดวันอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนการพิจารณาข้อกฎหมาย
เพื่อขออายัดทรัพย์ของพระธัมมชโยนั้น
ยังไม่ได้ข้อยุติ
เนื่องจากเป็นเรื่องที่ยังไม่เคยปรากฎมาก่อน
จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบที่สุด
ซึ่งคณะทำงานได้ประชุมปรึกษาอย่างต่อเนื่อง
และรายงานให้นายสุชาติ
ไตรประสิทธิ์
อัยการสูงสุดทราบโดยตลอด
[หน้าหลัก][หน้า1] |