ปีที่ 2 ฉบับที่ 847 ประจำวันอาทิตย์ที่ 7 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542

วิวาทะ

จริงหรือที่มูลนิธิธรรมกายทุ่มเงินรุกที่ป่าสงวนบนเกาะยาว?

กระแสข่าวมูลนิธิธรรมกายใช้เม็ดเงินกว้านซื้อที่ดิน ที่ต.เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา ส่งผลให้ชาวบ้านเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ตามที่ไอทีวีเสนอข่าว

ผมได้รับข้อมูลชี้แจงจากข่าวเกาะยาวยืนยันว่า ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นไปตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าว

ซึ่งมีการอ้างว่า ชาวบ้านเกาะยาวร้องเรียนว่า มูลนิธิธรรมกายเรียกร้อง ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินบางส่วนใน อ.เกาะยาว ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่ง ชาติ ให้แก่วัดพระธรรมกาย

ทั้งนี้ข้อมูลที่กล่าวหามูลนิธิธรรมกายเป็นข้อมูลของนายโชติ ทองย้อย ชาวบ้านคนหนึ่งในเกาะยาว

โดยมีการปลูกสิ่งก่อสร้างบนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ มีนายเพชร แก่นทรัพย์ กว้านซื้อจากชาวบ้านท่าเขา หมู่ 4 ต.เกาะยาวน้อย ในนามมูลนิธิธรรมกาย

ขณะเดียวกันยังได้ขุดปะการัง กักเก็บน้ำจืด และสร้างแท็งก์น้ำขนาดใหญ่ ทำให้ชาวบ้านขาดแคลนน้ำใช้ รวมถึงการตัดถนนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

คณะกรรมการหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ชี้แจงว่า คำกล่าวหาของ นายโชติ ทองย้อย เป็นเรื่องเท็จทั้งสิ้น

1) การขุดปะการังของมูลนิธิธรรมกายนั้น ได้รับความเห็นชอบจากอำเภอ และจังหวัด ยืนยันว่าไม่มีการทำลายปะการังอย่างแน่นอน
2) ส่วนการกักเก็บน้ำจืด และสร้างแท็งก์น้ำ ก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนใดแก่ชาวบ้าน กลับกัน ชาวบ้านทุกคนต่างให้ความสนับสนุน

เพราะช่วงฤดูแล้งชาวบ้านก็สามารถใช้ประโยชน์จากน้ำในแท็งก์ได้ โดยประสานกับองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะยาวน้อย ปัจจุบันนี้ ปัญหาการขาดแคลนน้ำหมดสิ้นแล้ว

กรรมการหมู่บ้าน หมู่ที่ 4 ยืนยันว่า สาเหตุที่นายโชติ ทองย้อย ออกมาเคลื่อนไหวให้ข้อมูลบิดเบือนกับสื่อมวลชน แท้จริงแล้ว นายโชติต้องการเรียกร้องผลประโยชน์ของตัวเอง

คณะกรรมการยืนยันมาด้วยว่า นายโชติ ไม่ได้เป็นกรรมการวัฒนธรรมระดับอำเภอ ตามที่แอบอ้าง เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยเฉพาะธุรกิจที่ขัดแย้งกับ คุณสมบัติ ของ การเป็นกรรมการวัฒนธรรมอำเภอ

ข้อมูลดังกล่าว เป็นเพียงประเด็นหนึ่งในอีกหลายประเด็น ที่วัดพระธรรมกาย และมูลนิธิธรรมกายถูกกล่าวหา จนเป็นเรื่องฟ้องร้องกันอยู่ในขณะนี้

สื่อมวลชนควรทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เก็บแต่ข้อมูลที่นำไปใช้เพื่อชัยชนะในการเสนอข่าวแบบคาดหวังอนาคตไว้แล้ว โดยเฉพาะความเห็นที่ว่า วัด พระธรรมกาย ต้องเจ๊ง หรือมีอันเป็นไป โดยเฉพาะตัวเจ้าสำนัก

หากข้อมูลที่นำมาเสนอข่าว จนเป็นเรื่องราวใหญ่โต เป็นข้อมูลเท็จ สื่อมวลชนจะรับผิดชอบต่อความเสียหายอย่างไร?

ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องโรงเรื่องศาล

แต่อยากให้ทุกฝ่ายอาศัยสามัญสำนึกในการพิจารณาแหล่งข่าว และตรรกะแห่งความเป็นจริง สุดท้ายทุกสิ่งหนีไม่พ้นคำว่า "คุณธรรม"

สื่อบางสำนักเกิดจากการสร้างภาพที่น่าเชื่อถือในเบื้องแรก เมื่อได้รับความไว้วางใจจากมวลชนแล้ว นึกอยากจะปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ เสนอข่าวหมกเม็ด เท็จบ้าง จริงบ้าง

อย่าคิดว่าประชาชนกินแกลบ "โง่"

ความจริงก็คือความจริง

วัดพระธรรมกายถูกโจมตีมาเกือบ 1 ปีแล้ว

เจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส กำลังถูกดำเนินคดี ทั้งทางโลก และทางธรรม

ก็ยังแปลกใจอยู่ตรงที่ยังมีผู้คนจำนวนมากหลายหมื่นคน แห่แหนไปร่วมงานบุญกฐินที่วัดพระธรรมกายกันอย่างคับคั่ง

คนเหล่านั้นจะโง่ หรือว่าแกล้งโง่ อย่างไรผมไม่ขอวิจารณ์

แต่ที่แน่ๆ คนเหล่านี้มีศรัทธาต่อวัดของเขา และพระของเขาเกิน 100 %

งั้นวัดพระธรรมกาย ต้องมีของดีบ้างซิ หากชั่วช้าจริงดังข้อกล่าวหาของสื่อมวลชนและสังคม คนที่แห่แหนไปทำบุญที่วัดพระธรรมกาย เขากินแกลบกันหรือไร

อย่าบอกนะครับว่า คนเหล่านี้ถูกล้องสมอง อย่าพูดเลยครับว่าคนเล่านี้ ติดสมาธิพอๆ กับฝิ่น

เพราะเป็นข้อสังเกตที่เขลาเอาการทีเดียว!

โซตัส


[หน้าหลัก][หน้า1][วิวาทะ]