ปีที่ 2 ฉบับที่ 863 ประจำวันอังคารที่ 23 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542 |
กฎนิคหกรรมล่มอีก "ธัมมชโย" ยันจบแล้ว
ศิษย์วัดเผย วันที่ 30 พ.ย. พระธัมมชโย และพระทัตตชีโว จะไม่เดินทางไปตามหนังสือเรียกตัวของพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี นักกฎหมายระบุชัด
กฎนิคหกรรม จบไปแล้ว ต้องเคารพตามกฎ ด้านกระทรวงศึกษาธิการมาวิธีแปลก เตรียมเลียนแบบสมัยพุทธกาล ประชุมสงฆ์เอาผิดเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ดอดปรึกษาพระมหาระแบบ
ดร.วิชัย ตันศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่เคยพูดว่า จะมีมาตรการใหม่ ดำเนินการกับพระธัมมชโย และพระทัตตชีโว เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และรองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นั้น เป็นวิธีที่เคยมีการดำเนินการในสมัยพุทธกาล โดยจะมีการประชุมพระสงฆ์จังหวัดต่างๆ เพื่อพิจารณาตัดสินความขัดแย้งในหมู่สงฆ์ โดยในวันนี้ (23พ.ย.) ตนจะเข้านมัสการพระราชธรรมนิเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อปรึกษาเรื่องวิธีการนี้
ดร.วิชัยกล่าวด้วยว่า ตนไม่กลัวเรื่องระเบิด เพราะทำตามหน้าที่ไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อ ทุกคนต้องตายทุกคน หากจากไปด้วยการทำความดี ก็คุ้มค่า ซึ่งรัฐมนตรีศึกษาฯ ก็เตือนให้ระวัง และไม่เคยมีโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ และที่มีนักการเมืองบอกว่า รัฐมนตรีไม่ดูแล ก็ไม่เป็นความจริง เพราะเข้าไปดูแลโดยตลอด
ด้านพระราชธรรมนิเทศ กล่าวว่า จะใช้วิธีการดังกล่าวได้หรือไม่ อยู่ที่เหตุของเรื่องดังกล่าวนั้น จะลุกลามเป็นเรื่องใหญ่โตหรือไม่ หากเห็นว่า
เป็นเรื่องใหญ่
ก็สามารถนำมาใช้
ดำเนินการได้
ส่วนเรื่องในวันที่ 30 พ.ย. หากพระธัมมชโย และพระทัตตชีโว ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ตามที่พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้มีหนังสือเรียกตัวไปนั้น
หากไม่เดินทาง มาตามนัด ก็จะต้องพิจารณาไปตามหลักการบริหาร และการปกครองที่ให้เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง และเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง สั่งปลดออกจากตำแหน่ง จากนั้น
จะประมวล
เรื่องเสนอให้พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ในฐานะหัวหน้าคณะผู้พิจารณาชั้นต้น แต่ถ้าเจ้าคณะภาค 1 ไม่รับ ก็จะเสนอให้สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง พิจารณา เนื่องจากขณะนี้ ท่านพร้อมจะเข้ามาดูแลในเรื่องนี้อย่างเต็มตัวแล้ว
เมื่อเวลา 15.30 น. นายวิชัย ตันศิริ รมช.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายพิภพ กาญจนะ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางไปตรวจดูสถานที่เกิดเหตุ บริเวณชั้น 2
ของอาคาร
สำนักงานการศึกษาเอกชน และกองนโยบายพิเศษที่ชั้น 4 ของสำนักงานสช. รวมทั้งกองนิติการกองการศาสนา ที่ถูกคนร้ายงัดแงะ เพื่อเข้าไปขโมยทรัพย์สิน
นายวิชัยกล่าวว่า คนร้ายที่เข้ามางัดแงะ คงไม่ใช่มืออาชีพ และไม่ใช่คนในกระทรวงศึกษาธิการ คงเป็นพวกลักเล็กขโมยน้อย เพราะไม่ได้เอาทรัพย์สินอะไรไปมากมาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่เวรยามว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่หละหลวมหรือไม่ หากพบว่า เป็นคนในกระทรวงศึกษาธิการงัดแงะเอง ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ตอนนี้ ได้ประสานไปยังสถานีตำรวจนครบาลดุสิตแล้ว เพื่อให้ช่วยมาตรวจตราบรีเวณกระทรวงศึกษาธิการให้ถี่ขึ้น พร้อมกันนี้ ตนได้รับรายงานจากนายไพบูลย์ เสียงก้อง
อธิบดี กรมการศาสนา ว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้เชิญยามรักษาการณ์ไปพิมพ์ลายนิ้วมือแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนอยู่
ยังไม่ได้รับรายงาน
ความคืบหน้าแต่อย่างใด ส่วนที่สงสัยว่า จะเป็นพวกก่อสร้างเข้ามางัดแงะนั้น ตนได้รับรายงานมาว่า คนงานก่อสร้างทำงานเป็นเวลา และมีหัวหน้าควบคุมดูแลอยู่
คงจะไม่ใช่ คนงาน
ก่อสร้างเข้ามางัดแงะ
ด้านศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ พระธัมมชโย และพระทัตตชีโว จะไม่เดินทางไปตามหนังสือเรียกของเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี อย่างแน่นอน
เพราะนัก กฎหมายของวัด ได้ชี้ชัดเจนแล้วว่า การฟ้องนิคหกรรมของ นายสมพร เทพสิทธา ประธานสภายุวพุทธิกสมาคม และ นายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญกรมการศาสนา
ได้จบสิ้น กระบวนความตามกฎนิคหกรรมลงไปแล้ว
ดังนั้น ถ้าหากพระธัมมชโย และพระทัตตชีโว เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาอีก ก็เท่ากับเป็นการไม่เคารพกฎนิคหกรรม ส่วนเรื่องที่ดำเนินการทางศาลโลกนั้น
ทางวัดยินดี ที่จะ กระทำตาม เนื่องจากต้องการพิสูจน์ให้สาธารณชน ได้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ว่า ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่ และคำกล่าวหาที่เกิดขึ้น มีความเป็นจริงอย่างไรกันแน่ และคำกล่าวหาที่เกิดขึ้น มีความเป็นจริงมากน้อยเพียงใด นอกจากนี้ ทางวัดก็จะดำเนินการฟ้องร้องสื่อมวลชนต่างๆ เพื่อให้หยุดยั้งพฤติกรรมโจมตีวัดลงโดยสิ้นเชิง
เพราะทางวัด
ได้ปล่อยให้สื่อมวลชนใส่ร้ายมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว แต่สื่อมวลชนกลับโจมตีโดยไม่มีเหตุผล ทางวัดจึงต้องขอพึ่งบารมีของศาลยุติธรรม เพื่อให้เรื่องทั้งหมดยุติลงโดยเร็ว
[หน้าหลัก][หน้า1] |