ปีที่ 2 ฉบับที่ 867 ประจำวันเสาร์ที่ 27 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542 |
พระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าอยู่ไหน ไยจึงต้องตั้งคณะวินัยธร?
กระแสเรียกร้องให้ตั้งคณะวินัยธร เพื่อพิจารณาอธิกรณ์ของสงฆ์ พูดง่ายๆ ก็คือล้มคณะกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็ฯองค์กรที่มีอำนาจปกครองสงฆ์สูงสุด
ตามกฎหมายลงอย่าง
สิ้นเชิงนั่นเอง
หากกระแสเรียกร้องดังกล่าวเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาเมื่อใด
ก็เท่ากับว่า การพิจารณาคดีของศาลสงฆ์จะสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วทันด่วน ไม่มีคณะผู้พิจารณาชั้นต้น อุทธรณ์ ฎีกา ที่คณะสงฆ์ปกครองกันอยู่ทุกวันนี้
เป็นอัน ยกเลิก
งานนี้ ผู้ที่ออกแรงผลักดันสุดฤทธิ์สุดเดช เห็นจะต้องยกให้กับ เสี่ยนวย สุวรรณคีรี และมหาเสฐียรพงษ์ วรรณปก
โดยเฉพาะมหาเสฐียรพงษ์ ที่เสนอให้ปลดพระสังฆราชฯ อกจากตำแหน่งปกครองสงฆ์ เพื่อแก้ไขปัญหาวัดพระธรรมกาย คงเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาทันทีละคราวนี้
อำนาจในการปกครองพระสงฆ์องค์เจ้า ดูแลผลประโยชน์ก้อนโตของวัดทั่วประเทศ ท่านฆราวาสรักพระพุทธศาสนาปากมันทั้งหลาย คงได้ชื่นชมสมใจนึกเป็นแน่แท้
ผมก็แปลกใจอยู่เหมือนกันว่า ผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรง คือพระภิกษุสงฆ์
พระคุณเจ้าทั้งหลายมองภาพการที่เกิดขึ้นอย่างเงียบสงบได้อย่างไร
พระคุณเจ้าอิ่มเอิบกับรสพระธรรม คำว่า "อุเบกขา" ถูกกาลเทศะหรือไม่??
พระเดชพระคุณเจ้าบางรูป แสดงความเห็นแบบกว้าง นัยว่า ท่านมีเมตตาธรรม มีอุเบกขาสูงล้นว่า ...
"จะหวาดกลัวกันไปทำไม ถ้าเราไม่ได้กระทำผิด หรือฝ่าฝืนพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ไม่มีความจำเป็นใดเลย ที่จะต้องไปวิตกกังวล
ไม่ต้องสนใจด้วยซ้ำไปว่า
ใครจะมา ปกครอง พระสงฆ์ เพราะเรามีพระธรรมวินัยเกราะกำบังรักษาพรหมจรรย์ของเราอยู่แล้ว"
ถ้ามนุษย์โลกเรานี้มีสัมมาทิฏฐิอย่างที่พระเถระรูปนั้นเข้าใจ คงไม่มีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น รบราฆ่าฟันกัน เป็นสงครามทางการเมือง เป็นสงครามแย่งชิงทรัพยากร และที่กำลังฮิตติดอันดับต้นๆ และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงก็คือ สงครามศาสนา
ปีหนึ่งๆ มียอดผู้ค้นล้มตาย ทรัพย์สินเสียหาย ไม่อาจประเมินค่าได้เป็นจำนวนมหาศาล
ก็เพราะสงครามทางศาสนานี่แหละ
พระคุณเจ้าอย่าเพิ่งคิดว่าผมนอกเรื่อง ยกแม่น้ำทั้งห้า
พิจารณาให้ละเอียดกว่านี้สักหน่อย ตามหลักของพระพุทธเจ้า ต้องรู้เหตุแห่งทุกข์ และรู้หลักแห่งการดับทุกข์
ต้องมองว่า กิเลสมนุษย์ ตัณหา ราคะ ของมนุษย์แต่ละคนมันไม่เท่ากัน
บางคนภาพภายนอกดูเสมือนเป็นนักบุญ แต่ทว่าข้างในเพาะบ่มแต่ลัทธิชั่วร้าย ไม่ต่างอะไรไปจากผีห่าซาตาน
ผมเชื่อมั่นว่า พระคุณเจ้าทั้งหลาย มีสติปัญญาเพียงพอที่จะรู้หลบหลีกกิเลส ตัณหา ราคะ ของมนุษย์ใจบาปได้
นั่นคือต้องอยู่บนความไม่ประมาท ทว่าไม่ใช่เรื่องของความหวาดวิตกกังวลใดๆ ทั้งสิ้น
บุคคลที่ยืน่อยู่บนความประมาท ก็เท่ากับชีวิตตายไปแล้วกว่าครึ่ง
ผมแปลกใจเข้าไปทุกขณะ เรื่องการตั้งคณะวินัยธรขึ้นมาควบคุมสงฆ์แทนคณะกรรมการมหาเถรสมาคม
เหตุใดผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง นั่นก็คือหมู่ภิกษุสงฆ์ จึงเพิกเฉยต่อภาพการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุใดจึงไม่มีการสอบถามความคิดเห็นของหมู่สงฆ์ ว่าพระคุณเจ้าทั้งหลาย มีความคิดเห็นอย่างไร หากจะมีการนำฆราวาสมาปกครองดูแล ชี้ผิด ชี้ถูก พระภิกษุสงฆ์
ไม่มีใครพูดถึงการทำประชาพิจารณ์
หากเป็นเรื่องของหมู่สงฆ์ ก็ต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของพระภิกษุสงฆ์
"สังฆพิจารณ์" จึงเป็นเรื่องที่พุทธศาสนิกชน ผู้มั่นคงในพระรัตนตรัย จักต้องหยิบยกขึ้นมาพิจารณา และให้ความสำคัญมากที่สุดในห้วงเวลานี้
พระคุณเจ้าลืมไปแล้วหรือว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ถึงพระธรรมวินัยไว้อย่างไร..
ถ้ายังไม่ลืมเห็นที่จะต้องกราบนมัสการงามๆ สักหมื่นล้านครั้ง นึกว่าเห็นแก่พระธรรมวินัยของพระบรมศาสดาเถิดขอรับ
"ดูก่อนอานนท์ ธรรมและวินัยใด ที่เราได้แสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย"
พระคุณเจ้าขอรับ ไม่เป็นผลดีต่อสถาบันพระพุทธศาสนาเลยครับ ที่จะนำเอาลาโง่ แต่อวดฉลาดขึ้นมาปกครองสงฆ์
ไม่เป็นผลดีต่อพระพุทธศาสนาเลยครับ ที่จะนำเอาพวกทุมมังกุมาควบคุม ดูแลผลประโยชน์ในดงขมิ้น
และก็ไม่มีประโยชน์อันใดต่อชาวพุทธเลยครับ ที่จะนำเอาพวกทุศีล ขี้เหล้าเมายา ผิดลูกผิดเมียชาวบ้านมาทำงานเพื่อให้พระพุทธศาสนาธำรงอยู่สืบต่อไปยังชนรุ่นหลัง
มองภาพการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็เห็นมีแต่พวกรักพระพุทธศาสนา "ปากมัน" กันทั้งนั้น แม้แต่กรมการศาสนาเอง ยังมีข้าราชการร่ำรวยผิดปกติ ศีล 5 ข้อ ไม่ต้องพูดถึง
การเอาพระพุทธศาสนาที่สืบอายุมากว่า 2500 ปี ไปให้คนทุศีล ลองผิด ลองถูก จะเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาโดยตรง
เหตุแห่งทุกข์ อยู่ที่ไหน ก็สมควรดับเชื้อไฟให้สิ้นตรงนั้น พระธรรมวินัย ก็คือเครื่องขจัดเชื้อเพลิงน้อยใหญ่ ไม่ต้องไปต่อท่อต่อสาย
พึ่งพามนุษย์หน้าไหน
ให้เข้ามาแก้ไขปัญหาให้พระคุณเจ้าหรอกครับ
หากนำคนนอกพระพุทธศาสนาเข้ามาเป็นหนึ่งในคณะวินัยธร อะไรจะเกิดขึ้นกับแผ่นดินพระพุทธศาสนาแห่งนี้ละครับ??
โซตัส
[หน้าหลัก][วิวาทะ] |