ปีที่ 2 ฉบับที่ 870 ประจำวันอังคารที่ 30 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542 |
นิคหกรรมงูกินหาง งัดพระธรรมวินัยสู้
เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ขีดเส้นตายรอสมภารวัดพระธรรมกาย ถึงบ่ายสอง 30 พ.ย.นี้ หากไม่มาถือว่า ยอมรับตามข้อกล่าวหา พร้อมส่งให้พระพรหมโมลีพิจารณา
ด้าน ธรรมกายวัดใจพระสุเมธาภรณ์จะรักษาพระธรรมวินัย หรือเดินตามกระแส ระบุสังฆราชมีพระอักษรกรณีธรรมกายถึงที่สุดแล้ว ตามมติมส.
กรณีพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และพระภาวนาวิริยคุณ หรือพระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยืนยันว่า
จะไม่ไปรับฟัง
ข้อกล่าวตามคำสั่งของพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ที่วัดมูลจินดาราม ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ โดยยืนยันว่า นิคหกรรมได้ถึงที่สุดแล้ว
นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ว่า ได้นมัสการพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ทางโทรศัพท์แล้ว ซึ่งได้ยืนยันว่า
จะดำเนินการ
ไปตามขั้นตอนเดิมที่ได้ให้พระธัมมชโยและพระทัตตชีโว ไปรับฟังข้อกล่าวหาในวันพรุ่งนี้เวลา 13.30 น.
ซึ่งกรมการศาสนาเห็นว่า ทั้งพระธัมมชโยและพระทัตตชีโวน่าจะเดินทางไปรับฟังข้อกล่าวหา เพราะเป็นการปฏิบัติตามการปกครองของสงฆ์
และตนได้ประสาน
ในเรื่องการดูแล
ความเรียบร้อยกับ พล.ต.ต.พิชิต ควรเตชะคุปต์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ให้ดูแลตามกำหนดการ ถ้าผลออกมาเป็นอย่างไร เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี พร้อมจะพิจารณา ซึ่งเมื่อได้ประมวลเรื่องส่งให้ เจ้าคณะภาค 1 แล้วก็คิดว่า น่าจะรับไว้ เพราะเรื่องยืดเยื้อยาวนานไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวด้วยว่า การที่พระธัมมชโยแจ้งในหนังสือไม่ไปรับฟังข้อกล่าวหา ระบุว่า มหาเถรสมาคมไม่ได้มีมติให้ดำเนินการ เรียกไปรับฟังข้อกล่าวหานั้น
เป็น ความ
เข้าใจผิดที่คลาดเคลื่อน ความจริงมติมหาเถรฯ ชัดเจนและเป็นที่เข้าใจได้ทุกคนว่า อะไรที่คลาดเคลื่อน ก็ดำเนินการไปตามขั้นตอนนั้น เมื่อเริ่มว่า ฆราวาสกล่าวหาได้ ต่อมาขั้นตอนที่จะให้ผู้ถูกกล่าวหาไปรับคำกล่าวหากับผู้พิจารณา ขั้นตอนนี้เริ่มคลาดเคลื่อน
ดังนั้นกิจกรรมที่เกิดหลังขั้นตอนนี้เป็นกิจกรรมที่คลาดเคลื่อน มติมหาเถรฯ จึงให้ดำเนินใหม่ให้ถูกต้อง ตรงนี้เป็นความเข้าใจที่คนที่อยู่ในระบบเข้าใจดีด้วยเหตุผล
การกล่าวอ้างของพระธัมมชโย จึงไม่มีเหตุผล เป็นข้ออ้างเดิมที่ว่า การดำเนินการตามนิคหกรรมได้จบแล้ว ซึ่งตรงนั้นผิดคลาดเคลื่อนไปแล้ว เปรียบเหมือนนักกีฬาวิ่งแข่งขัน กรรมการยังไม่ได้เรียกให้มารายงานที่จุดสตาร์ท ก็ไปวิ่งกันนอกลู่ ไม่จำเป็น ต้องนำเข้าให้มหาเถรฯ ตีความอีก เป็นการรบกวนพระผู้ใหญ่เปล่า ๆ เนื่องจากมติมหาเถรฯ เปรียบได้กับมติคณะรัฐมนตรี ที่ใช้กับทางโลก แต่มหาเถรฯ ใช้กับทางสงฆ์ ก่อนหน้าจะมีการดำเนินการเรื่องนี้ ผมก็ได้หารือกับพระเถระผู้ใหญ่ทุกระดับแล้ว ก็เข้าใจตรงกัน ทั้งเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค 1 และเจ้าคณะใหญ่หนกลาง อธิบดีกรมการศาสนา กล่าว
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า การแจ้งไม่ไปรับฟังข้อกล่าวหาของพระธัมมชโยและพระทัตตชีโว พระสุเมธาภรณ์ ในฐานะพระผู้ปกครอง คงคิดเรื่องการสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่แล้ว แต่คงอยากรอผลในวันพรุ่งนี้ก่อน
อีกด้านหนึ่งวัดมูลจินดาราม เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี จัดเตรียมสถานที่ทุกอย่างตามกำหนดการที่นัด ให้พระทั้งสองรูป มารับทราบข้อกล่าวหา พระสุเมธาภรณ์
เจ้าอาวาส วัดมูลจินดาราม เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า แม้พระธัมมชโย และพระทัตตชีโว เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และรองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย จะมีหนังสือมาว่า
จะไม่มารับทราบข้อกล่าวหา
แต่ทุกอย่างจะทำไปตามขั้นตอนเดิม โดยได้นัดหมายให้มาในเวลา 13.30 น. วันนี้ (30 พ.ย.) โดยจัดอาคารฉลองศิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปีไว้เป็นสถานที่รับแจ้งข้อกล่าวหา และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัย ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 และจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย จะมาหรือไม่มา ก็จะรวบรวมสำนวนทั้งหมด เสนอต่อพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 หากไม่มารับ ก็จะส่งให้กรมการศาสนา เพื่อให้หาวิธีการดำเนินต่อไป
พระสุเมธาภรณ์ กล่าวด้วยว่า ในการมายื่นหนังสือ จะไม่มารับฟังข้อกล่าวหานั้น อาตมาไม่ได้พบกับพระธัมชโยและพระทัตตชีโวด้วยตนเอง
แต่ทั้งสองได้ฝากหนังสือ
ดังกล่าว
ไว้กับพระมหาประพันธ์ พระเลขานุการฯ ซึ่งพระทัตตชีโวยังได้ฝากบอกมาถึงอาตมาด้วยว่า อย่าฟังสื่อมาก
ทางด้าน พ.ต.อ.ทวีพงษ์ แสงประะเสริฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอธัญญบุรี กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจจะเตรียมกำลังมาประมาณ 50 นาย เพราะคาดว่า
ผู้ถูกกล่าวหา คงไม่มา เพราะมีหนังสือแสดงเจตนามาแล้ว แต่ก็จะต้องเตรียมการไว้ โดยจะดูแลภายในวัดประมาณ 20 นายที่เหลือให้เตรียมพร้อมไว้
โดยจะมีการตรวจสอบคนเข้าออก
ในช่วง
เวลาที่ทางวัดได้กำหนดไว้ ซึ่งการเตรียมการก็จะเหมือนกับ 2 ครั้งที่ผ่านมา
ด้านนายวิเชียร วิริยะประสิทธิ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 เปิดเผยว่า ขณะนี้เร่งพิจารณาสำนวนทุกวัน เพื่อให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ส่วนจะสั่งข้อหาเพิ่มหรือไม่ ยังบอกไม่ได้ สำหรับมูลเหตุของการอนุมัติ หรือถอนตัวประกันผู้ต้องหานั้น อัยการต้องนำทุกเหตุการณ์ มาพิจารณา รวมทั้งเหตุระเบิดที่วัดชนะสงครามด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความคืบหน้าชุดสืบสวนสอบสวนที่กองปราบปรามนั้น ยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อเตรียมออกหมายจับคดีที่ดินที่เพชรบูรณ์
และทันที ที่ได้ประชุม กับ พล.ต.ท.ล้วน ปานรสทิพ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หัวหน้าชุดสอบสวนคนใหม่ ก็คงจะดำเนินการได้ทันที
รายงานข่าวจากวัดพระธรรมกายเปิดเผยว่า พระธัมมชโยและพระทัตตชีโว จะไม่เดินทางไปรับฟังข้อกล่าวหา ที่วัดมูลจินดาราม อย่างแน่นอน ตามที่ได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้ว
"เรื่องนี้ ต้องเป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง กฎมส. และพระธรรมวินัย จะทำตามความรู้สึกของใคร คนใดคนหนึ่งไม่ได้ ทางเจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ จะตัดสินอย่างไร
คงต้องรอดู ท่าที ของท่านว่า จะยึดมั่นในพระธรรมวินัย กฎระเบียบที่มีอยู่หรือไม่"
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ มติคณะกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งมีสมเด็จพระสังฆราชร่วมเป็นองค์ประธานในการประชุม ได้ให้วัดพระธรรมกาย ปฏิบัติตามมติมส. 4 ข้อ โดยที่สมเด็จพระสังฆราช ทรงมีพระอักษรระบุว่า กรณีธรรมกาย ถือว่าที่สุดแล้ว จะไม่นำกลับมาพิจารณาใดๆ อีก ซึ่ง 1 ใน 4 ข้อ ก็คือ
ให้วัดเชื่อฟังและปฏิบัติตาม
กฎมหาเถร สมาคม อย่างเคร่งครัด จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่วัดพระธรรมกาย จะต้องปฏิบัติตาม
[หน้าหลัก][หน้า1] |