ปีที่ 2 ฉบับที่ 873 ประจำวันศุกร์ที่ 3 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2542 |
สื่อจัญไรต้องแก้ไขคำสอนของพระบรมศาสดาว่าด้วยอบายมุข
สังคมเราสับสนวุ่นวาย เพราะคนในสังคม ไม่เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน บ้างไม่เข้าใจว่า ตรงไหนคือ "สิทธิ" ของตัวเอง ร้ายแรงกว่านั้น
บางคนยังละเมิดสิทธิ
ของผู้อื่น เข้าอย่างจัง โดยที่สำคัญเอาว่า เป็นสิทธิอันชอบธรรมของตัวเอง
ความสับสนวุ่นจายจึงเกิดขึ้น และมีแนวโน้วที่จะรุนแรง เพราะคนในสังคมไม่เข้าใจความของสิทธิเสรีภาพ ที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
ซึ่งเป็นกฎหมาย
อันสูงสุดของประเทศ
ผมจะยกกรณีว่าด้วยการลงนิคหกรรมพระธัมมชโย และพระทัตตชีโว ที่คณะผู้พิจารณาชั้นต้น ประกอบไปด้วย เจ้าคณะภาค 1 รองเจ้าคณะภาค 1 และเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี
ท่านวินิจฉัยไปแล้วว่า "คฤหัสถ์" ที่ประกอบไปด้วย เสี่ยมาณพ พลไพรินทร์ ผู้ชำนาญการพิเศษ กรมการศาสนา และ ปู่สมพร เทพสิทธา ประธานยุวธิกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย
ไม่มีสิทธิ์ เป็น "โจทก์" ฟ้องพระภิกษุสงฆ์ จึงมีคำสั่งยกฟ้องนิคหกรรมนั้นเสีย
แต่ผลการวินิจฉัยไม่เป็นที่พอใจของทีมที่ปรึกษาท่านรัฐมนตรี สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ทีมที่ปรึกษาอันมีอันหัวเรือใหญ่ เป็นถึงราชบัณฑิต เสฐียรพงษ์ วรรณปก เดิมเกมทวงถามพระเถระอย่างหนักหน่วง
จนกรมการศาสนา โดย ไพบูลย์ เสียงก้อง ปฏิบัติการทำหน้าที่เกินงามในฐานะ เป็นเลขาฯคณะกรรมการมหาเถรสมาคม อ้างมิตให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี รื้อคดีขึ้นมาใหม่ เพื่อลงนิคหกรรมอีกครั้ง
ในความเป็นจริงกฎมหาเถรสมาคม ไม่สามารถกระทำเช่นนั้นได้อยู่แล้ว
การที่ ไพบูลย์ เสียงก้อง ออกมาพูดในฐานะอธิบดีกรมการศาสนา หรือจะในฐานะเลขาฯ คณะกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นเรื่องที่สังคมจะต้องช่วยกันตรวจสอบ
โดยเฉพาะประเด็นที่อธิบดีกรมการศาสนาผู้นี้อ้างว่า เป็นมติของมหาเถรสมาคม ให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี รื้อคดีขึ้นมาทำใหม่
แท้จริงแล้ว เป็นความเห็น หรือเป็นมติของใครกันแน่???
เพราะตั้งแต่ความพยายามในการรื้อคดีขึ้น ก็ไม่ปรากฏเลยว่า คณะกรรมการมหาเถรสมาคม จะมีลายลักษณ์อักษร หรือชี้ชัด ให้มีการรื้อคดี เพื่อนิคหกรรมพระธัมมชโย และพระธัมมชโย
ผมเข้าใจว่า ประเด็นวุ่นวายที่เกิดขึ้น เกิดจากนักตีความ และผู้ที่ต้องการล้มล้างวัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะผู้ที่มีบทบาทในเชิงธุรกิจ สื่อมวลชนบางคน ที่ต้องการสร้างเรตติ้งให้กับตัวเอง
พระคุณเจ้าพระสุเมธาภรณ์ ต้องตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของท่าน อย่าได้เห็นแก่ฝักฝ่าย หรือกระแสที่ทุ่มรุมโจมตีสำนักใด สำนักหนึ่ง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมเห็นใจพระคุณเจ้าที่ต้องกลายเป็นหนังหน้าไฟ ท่านคงจำได้ วันที่ท่านมีความเห็นพ้องต้องกันทั้งคณะผู้พิจารณาชั้นต้นได้
หนังสือพิมพ์ สื่อมวลชน พากันถล่มก่นด่าท่านอย่างไร?
ลองให้ลูกศิษย์ของท่าน ค้นหาหนังสือพิมพ์ที่เสนอข่าว เหตุการณ์ครั้งนั้นดูซิครับ พระคุณเจ้า จะเข้าใจ คำว่า สื่อมวลชนมากกว่านี้
ผมสรุปให้ท่านเจ้าคุณฟังคร่าวๆ ก็ได้ว่า ...
หนังสือพิมพ์เขาตำหนิท่านว่า เอียง ล้ม อุ้มวัดฉาว จนลูกศิษย์ลูกหาของท่านเจ้าคุณ ที่อยู่ในวัดมูลจินดาราม ก็ได้ยินอยู่เต็มสองหู รับไม่ได้
ศิษย์บางคนไม่อาจรับฟังความเห็น คำพูดหยาบช้าของนักประท้วงรับจ้าง ที่พากันแห่มาสร้างความแปดเปื้อนในวัดมูลจินดาราม ไม่ได้
โดยเฉพาะการ
ก้าวล่วงถึงท่านเจ้าคุณ ถึงขั้นจะวางมวยใส่กันมาแล้ว
ท่านเจ้าคุณต้องคิดถึงวันวานด้วยว่า เข้าปฏิบัติเคารพบูชาพระคุณเจ้าอย่างไร???
สรุปแล้วหากความเห็นใดของท่านที่สร้างความสะใจ ความถูกใจของคนกลุ่มมากได้แล้ว ท่านเจ้าคุณจะกลายเป็นพระดีพระแท้ ในสายตาคนกลุ่มนี้ทันที
ตรงข้าม หากความเห็นใดของท่านเจ้าคุณที่ขัดแย้งต่อความรู้สึก หรือผลลัพธ์ที่คนกลุ่มนี้ ตั้งประเมินไว้แล้ว ท่านเจ้าคุณจะกลายเป็นพระเทียม และท่านก็จะถูกคนกลุ่มนี้ ถวายวาจาหยาบช้า ประเคนสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาใส่ท่าน
ท่านเจ้าคุณพระสุเมธาภรณ์ครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราต้องว่ากันตามกฎหมาย กฎระเบียบ โดยเฉพาะกฎมหาเถรสมาคม
เพราะการตัดสินกรณีวัดพระธรรมกาย หรือพระธัมมชโย พระทัตตชีโว ไม่ใช่เกม ที่ลองผิดลองถูก หรือความพึงพอใจให้กับคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเท่านั้น
หากแต่ท่านเจ้าคุณต้องคำนึงถึงความชอบธรรมมากกว่าความถูกใจ และความสะใจ อีกทั้งความถูกใจ ก็ไม่ใช่เรื่องของความถูกต้อง
โดยเฉพาะสื่อจัญไร ที่แอบอ้างเสนอหน้าปกป้องพระพุทธศาสนา โดยมีเงินสกปรกหล่อเลี้ยงกิจการสื่อจากบ่อนพนัน มันไปด้วยกันได้อย่างไรล่ะครับ พระคุณเจ้า ระหว่างบ่อนพนันแหล่งอบายมุขกับพุทธศาสนา!!!
รักพระพุทธศาสนากันอย่างนี้ สงสัยจะต้องไปแก้ไขคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าด้วยอบายมุขทั้งหลาย และเส้นทางอโคจรปะไร
ต้องสำเหนียกว่าการตัดสินกรณีธรรมกาย ไม่ใช่เรื่องของกลุ่มบุคคล หรือสำนักหนึ่งสำนักใด แต่เป็นเรื่องที่จะเป็นบรรทัดฐาน เทียบได้กับฎีกา ที่สังฆมณฑล จะถือเป็นแบบอย่าง ปฏิบัติต่อไปในอนาคต
และหากความเห็นของผมก้าวล่วงพระคุณเจ้า ก็ขอประทานอภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อมั่น พระคุณเจ้าคงไม่เชื่อมนุษย์ปากเหม็น ที่เอาสมณศักดิ์ มาเป็นลาภสักการะ ให้พระคุณเจ้าด่วนหันพลันแล่น ตัดสินใจ โดยไม่ได้ยึดในกฎมหาเถรสมาคม
โซตัส
[หน้าหลัก][หน้า1] |