ปีที่ 2 ฉบับที่ 884 ประจำวันอังคารที่ 14 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2542 |
ชำแหละเสี่ยตือ-ไพบูลย์ ล้วงลูกกดดันหมู่สงฆ์
พระเถระเตือนสื่อเสนอข่าวคลาดเคลื่อน เผยมั่วข่าวสร้างความระส่ำระสายต่อวงการสงฆ์ ชำแหละเสี่ยตือ - ไพบูลย์ หยุดล้วงลูก พูดอย่างทำอย่าง
ด้านรักษาการเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ระบุไม่เคยคิดปลดพระธัมมชโย ขณะที่ประชุมมส.เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 17 ธ.ค.
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ว่า ตนไม่ได้มีหน้าที่ไปกดดันให้พระปริยัติวโรปการ
รักษาการ เจ้าคณะตำบล
คลองหนึ่ง สั่งพักพระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ พระธัมมชโย จากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และหากพระภาวนาวิริยคุณ หรือพระทัตตชีโว
รองเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย จะขึ้นรักษาการแทน จะเหมาะสมหรือไม่นั้น ตนไม่อยากออกความเห็น จะกลายเป็นการชี้นำ ให้ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจในการแต่งตั้งดีกว่า และว่า
หากนำข้อสงสัย
ของพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 กรณีการดำเนินการที่ผ่านมา ไม่สอดคล้องกับกฎนิคหกรรม เข้าที่ประชุมมหาเถรสมาคม คงจะมีการยืนยันตามเดิมคือ
ให้ดำเนินการใหม่
ให้ถูกต้อง
หลังใช้เวลาประชุมมหาเถรสมาคม 30 นาที ช่วงบ่ายวันนี้ นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ
ซึ่งทำหน้าที่เป็น ประธาน
การประชุม ได้ขอยกเลิกการประชุมเนื่องจาก องค์ประชุมไม่ครบ ทั้งนี้ตนได้เตรียมนำหนังสือที่พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ได้สอบถามเกี่ยวกับการดำเนินการ ที่ไม่สอดคล้องกับกระบวนการนิคหกรรม เข้าที่ประชุมด้วย แต่ต้องเลื่อนการประชุมไปในวันที่ 17 ธันวาคม ทั้งนี้พระเถรชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นกรรมการในมหาเถรสมาคมมาประชุมเพียง 9 รูป ซึ่งไม่ครบองค์ประชุม ที่ต้องมี 10 รูปขึ้นไป โดยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ไม่ได้มาประชุม ติดศาสนกิจไปร่วมงานวางศิลาฤกษ์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ ราชวิทยาลัย ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พระเถระรูปหนึ่งในมส. เปิดเผยว่า การสั่งยกเลิกประชุมมส.หนนี้ ไม่ได้มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ตามที่สื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะประเด็นไทยทีวีสีช่อง 3 นำไปขยายความว่า เนื่องจากประชุมมส.วันนี้ มีวาระการพิจารณาปลดพระพรหมโมลี ออกจากตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 กรณีที่มีความเห็นแย้งเกี่ยวกับนิคหกรรมพระธัมมชโย
ล้วนแต่เป็นเรื่อง มุสา
ทั้งสิ้น อาตมาไม่เข้าใจว่า สื่อมวลชนต้องการอะไรกันแน่ จึงเสนอข่าวที่ปราศจากข้อเท็จจริง เพราะการเลื่อนประชุมมส.ออกไปหนนี้ เป็นเพราะกรรมการมส.บางรูปติดศาสนกิจ ไม่มีเหตุผลอื่นใด มากไปกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุใดอธิบดีกรมการศาสนา หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์อย่าง แต่ในทางปฏิบัติ กลับทำอีกอย่าง โดยเฉพาะนายไพบูลย์ เสียงก้อง ซึ่งเป็นเลขานุการมส. โดยตำแหน่ง มีหน้าที่สนองงาน แต่บทบาทที่ผ่านมา กลับวางตัวเป็นผู้ออกคำสั่งพระเถระ รวมถึงบทบาทการชี้แจงผลการประชุมมส. ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของเลขานุการมส. ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการแต่งตั้งพระศรีวรนายก เป็นโฆษกแถลงผลการประชุมมส. ต่อสื่อมวลชน จึงทำให้การแก้ไขปัญหาวัดพระธรรมกาย สับสนวุ่นวาย โดยเฉพาะที่สื่อมวลชนเสนอข่าวคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง บ่อยครั้ง มีการเสนอเพื่อให้พระเถระขัดแย้งกัน แบบมีเจตนาแอบแฝง
สำหรับการออกมาปฏิเสธของนายไพบูลย์ และนายสมศักดิ์ ว่า ไม่ได้เข้าไปมีส่วนล้วงลูกการบริหารงานของสงฆ์ ก็มีประเด็นหนึ่งที่ยืนยันได้ว่า เป็นคำพูดที่ขัดแย้งกับการปฏิบัติ อาทิ การให้สัมภาษณ์ของพระมหาปัญญา เจ้าคณะอำเภอคลองหลวง ที่ระบุว่า ได้รับคำสั่งจากกรมการศาสนา ให้สั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสของพระธัมมชโย
และให้รอง เจ้าอาวาส
ขึ้นมารักษาการแทน โดยอาตมาได้หารือกับพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีลบ้างแล้ว ก็ย่อมเป็นเรื่องที่ยืนยันได้ว่า
ข้าราชการประจำ และข้าราชการ
การ เมือง เข้าไปล้วงลูก และ หรือ ก้าวก่ายกิจการของสงฆ์ ทั้งที่ไม่มีอำนาจหน้าที่
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่มูลนิธิวัดพระธรรมกาย ได้ชี้แจง "พิมพ์ไทย" เกี่ยวกับกรณีการเสนอข่าวคลาดเคลื่อน โดยระบุว่า พระธัมมชโยพูดแสดงธรรมต่อเหล่ากัลยาณมิตรว่า ถูกพระเถระกลั่นแกล้งพักเจ้าอาวาสนั้น เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ความเป็นจริงพระธัมมชโยพูดว่า แม้จะถูกสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาส ก็ไม่เป็นไร พร้อมยอมรับคำสั่งดังกล่าว และเป็นการดีด้วยซ้ำ ที่จะได้ใช้เวลาไปปฏิบัติศาสนกิจด้านอื่นต่อไป
ส่วนบรรยากาศที่ นายสนธยา โพธิ์แดง ทนายความวัดพระธรรมกาย และลูกศิษย์ ได้เดินทางไปยังวัดเขียนเขต เพื่อสอบถามเรียกร้องขอความเป็นธรรม
ต่อคำสั่งพักเจ้าอาวาส
ของพระปริยัติวโรปการ รักษาการเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง บรรยากาศดำเนินไปอย่างเคร่งเครียดนั้น ไม่เป็นความจริง โดยเฉพาะกรณี พระปริยัติวโวปการให้สัมภาษณ์ ก่อนหน้านี้ มีความคิดที่จะปลดพระธัมมชโยจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ไม่ใช่คำสั่งพักตำแหน่งชั่วคราว พระปริยัติวโรปการ ได้ยืนยันมาว่า ไม่ได้ให้สัมภาษณ์เช่นนั้น แปลกใจที่สื่อมวลชนพากันเสนอข่าว ที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง