ปีที่ 2 ฉบับที่ 890 ประจำวันพุธที่ 22 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2542


ที่วัดพระธรรมกายวานนี้ (21ธ.ค.) พระสงฆ์และเหล่ากัลยาณมิตร 
ร่วมกันประกอบพิธี ติดตั้งพระมหาวิสุทธิบัลลังก์ขุดสุดท้าย 
ณ มหาธรรมกายเจดีย์

วิวาทะ

ที่ปรึกษาไม่กลัวคนประฌามว่าเนรคุณหรือไง

คำให้สัมภาษณ์ของที่ปรึกษารัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง นำมาตีพิมพ์ พออ่านจบ ผมตั้งเต็มกบาล 

คำว่า กระบาลไม่หยาบหรอกครับ คนไทยแถบอีสานใช้กันเยอะ ยิ่งเขมรนี่ธรรมดาเลย ใครใช้ถือว่า สุภาพมาก ระวังกบาลไว้ ความหมายก็คือ ระวังศีรษะ เท่านั้นเอง

ผมตั้งเต็มกบาล ความหมายก็คือ ขนหัวลุกนั่นแหละ

อะไรจะปานนั้น คุณจะรวย หรือ จรวย ผ้ากาสาวพัสตร์ที่เคยห่อหุ้มกาย โกนหัว อุ้มบาตร เที่ยวเดินต๊อกแต๊ก รับข้าวเป็นทัพพีจากชาวบ้าน ย่านวัดรราชผาติการาม เชิงสะพานซังฮี้ เมื่อสามสิบปีที่แล้ว อดบ้างในบางมื้อ อิ่มแปร้ในบางวันนั้น มันขาดความขลังความศักดิ์สิทธิ์ไปเสียแล้วหรือ

ป.ธ.9 ก็ได้เพราะความเป็นพระ ปริญญาศาสนศาสตร์บัณฑิต (ศศ.บ) ที่จบจากมมร. มาก็อยู่ในเพศบรรพชิต ผ้าเหลืองร้อนทนไม่ไหว จนต้องสึกออกมา ก๊อกแก๊ก ได้งานทำที่ กรมการศาสนา ก็เริ่มจากกลิ่นไอของผ้ากาสาวพัสตร์ จนกระทั่งวันนี้ เขาลือกันว่า คนที่รวยที่สุดในกรมการศาสนาวันนี้ มีนามว่า จรวย ก็ล้วนแต่อาศัยบารมี ครั้งที่เป็นพระ มาเป็นบาทเป็นฐานให้ทั้งสิ้น

จะไม่ขนลุกขนตั้งได้อย่างไงล่ะ ในเมื่อคนระดับนี้ เสี่ยงต่อการถูกค่อนขอดของสังคมน้อยกว่า เข้าข่ายเนรคุณต่อข้าวก้นบาตร ทรยศต่อผ้ากาสาวพัสตร์ (ผ้าที่ย้อมด้วยน้ำฝาด) ซึ่งเป็นแหล่งบ่มเพาะให้ตัวเอง ได้ผุดได้เกิดในสังคมมาจวบวันนี้

ลองอ่านข้อความที่ให้สัมภาษณ์ข้างล่างดูซิ จรวย ถ้าผิดไปจากนี้ ให้กริ๊งกร๊าง เต็มใจจะอาบน้ำ ให้แบบถูสบู่ ลงแปรงลวดขัดให้ฟรี ข้อความนั้น มีว่า

"การที่กรมการศาสนาหรือฆราวาสเข้ามาช่วยเหลืองานด้านสงฆ์ เพราะต้องการให้คนนอกมองว่า พระสงฆ์มีการศึกษาไม่ด้อยกว่าประชาชน ศาลหรือตำรวจ การเป็นธุระให้ใน ด้านต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความอับอายขึ้น ผมไม่ต้องการตัดสินว่า ใครผิดใครถูก แต่ต้องการให้เรื่องเป็นไปตามกระบวนการนิคหกรรม (เท่านั้น)"

อันดับแรก ต้องเผดียงถามสงฆ์วัดราชผาติการามก่อนว่า คนที่เคยเป็นอันเตวาสิกของวัดนี้ มีความรู้สึกต่อสถาบันสงฆ์อย่างนี้ เป็นการสมควรแล้วหรือ

ต่อไปก็ถามมหาวิทยาลัย สภาการศึกษามหามกุฎราชวิทยาลัย วัดบวรฯ แหล่งประสิทธิ์ประสาทปริญญาตรี ให้จรวย ได้นำไปประกอบอาชีวะ ทำมาหากกินกระทั่งวันนี้ พอใจ ในคำพูดของศิษย์คนเก่าคนนี้ มากน้อยแค่ไหน เพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านเจ้าคุณ มส.พระญาณวโรดม

จากนั้น ก็ถามพระเถระเณรชีทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระอาจารย์ พระนักศึกษา นิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ดูว่า พฤติกรรมของนายจรวย หนูคง ที่แสดงออกให้เชิงดูหมิ่นดูแคลนสถาบันสงฆ์ ครั้งนี้ มีความเหมาะสมหรือไม่ประการใด

ท่านพอใจในการลืมความหลังของคนที่กำลังชูคออยู่กับคนการเมือง แต่เขาหลงลืมความหลังครั้งฉันน้ำปานะ

เขาบอกว่า "ต้องการให้คนภายนอกมองว่า พระสงฆ์มีการศึกษาไม่ด้อยกว่าชาวบ้าน ไม่ด้อยกว่าตำรวจ ไม่ด้อยกว่าศาล"

วันนี้ การที่พระสงฆ์ดำเนินอยู่ เขารูสึกอับอาย จึงกระโดดเข้ามาช่วยงานพระศาสนา

จรวยคนนี้ ดูหมิ่นพระเถระระดับมส.ที่ท่านเจริญงอดงามในพระศาสนา ด้วยการเป็นพระสุปฏิปันโน และปกครอง เผยแผ่ ให้การศึกษามาตลอด โดยไม่ยอมสึกหาลาเพศ พ่ายแพ้แก่อำนาจฝ่ายต่ำ คือ กิเลสตัณหาเช่นตัวเอง

พระเถระเหล่านั้น ปฏิบัติการต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ตามกฎระเบียบของคณะสงฆ์ อย่างตรงไปตรงมา แต่ไม่ต้องเป็นไปตามกระแสสื่อและนักบริโภคกามบางคน บางคณะ จึงถูกใส่ไคล้มาตลอดระยะเวลายาวนาน

วันดีคืนดี ก็ตีบทปกป้องพระศาสนาแบบเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่พระเถระแบบไร้ยางอาย แบบนี้ ถ้าคนๆ นั้น เคยบวชและเรียนที่วัดมหาธาตุฯ หรือ มหาจุฬาฯ เขาจะต้องถูกประฌามว่า ไอ้เนรคุณอย่างแน่นอน แต่ที่นี่วันราชผาติการาม และ มหามกุฏฯ คงไม่มีใครเขาว่าอะไรเจ้าหรอกคุณจรวย (ห้ามผวน) หนูคง

โซตัส


[หน้าหลัก][วิวาทะ]