90%
ของกลุ่มอาหารปวดศีรษะแบบเรื้อรัง
เป็น ๆ หาย ๆ มีสาเหตุจาก
- Migrain (โรคปวดศีรษะข้างเดียว,
ไมเกรน)
มักมีอาการปวดเป็นพัก ๆ
เป็นข้างเดียว
มีอาการนำเช่น ตาพร่า
มองเห็นแสง มีอาการชา
คลื่นไส้ อาเจียน
ถ่ายท้อง
ผู้ป่วยมักทำนายอาการล่วงหน้าได้
เช่น
เกิดตามหลังภาวะเครียด
หักโหม อดอาหาร
วิธีแก้ไขคือ
หากทราบว่าอะไรเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการควรหลีกเลี่ยง
ในสตรีที่ทานยาคุมกำเนิดแล้วเกิดอาการต้องงดการใช้ยาทันที
เพราะอาจกลายเป็นอัมพาตได้
"ไมเกรนในเด็กมักเกิดร่วมกับอาการปวดท้อง
หรืออาเจียน"
- Cluster (คลัสเตอร์)
เป็นเฉพาะในผู้ชาย
มักเกิดอาการในเวลากลางคืน
มีคัดจมูก
ตาแดงก่ำไปข้างหนึ่งก่อน
20%
มีอาการของประสาทหน้าซีกนั้น
เช่น หนังตาตก หน้าเบี้ยว
จะเป็นอยู่ราว 20-120 นาที
ส่วนใหญ่สาเหตุกระตุ้นให้เกิดอาการมาจาก
เหล้า (แอลกอฮอล์)
มักปวดมากจนอยู่เฉยไม่ได้
- Stress (ความเครียด)
มีอาการปวดหนัก ๆ
รอบหน้าผาก
เกิดจากมีความวิตกกังวล
ซึมเศร้า ยาแก้ปวด เช่น
แอสไพรินช่วยไม่ได้
- Muscular (กล้ามเนื้อ)
มักปวดบริเวณท้ายทอย
กราม หรือ รอบศีรษะ เช่น
ฟันขบ ฟันปลอมบีบรัด
มีอาการปวดกรามบน
- อีก 10%
พบจากสาเหตุปลีกย่อยอื่น
ๆ เช่นบาดเจ็บที่ศีรษะ
เนื้องอกในสมอง
อาการอักเสบในสมอง
เลือดออกในสมอง
น้ำตาลในเลือดต่ำ เช่น
อดอาหาร
ออกกำลังกายมากเกิน
สมองขาดออกซิเจน เช่น
อยู่ในห้องอุดอู้
มีประจุไฟฟ้าบวกสูงกว่าปกติ
นอนมากเกินไป เมาค้าง
หรือโรคภูมิแพ้
วิธีบรรเทาอาการ
และแก้ไข
หรือป้องกันการเกิดขึ้นใหม่
คือ
- ไมเกรน
ส่วนใหญ่หายได้ด้วยการรับประทานน้ำจากดอก
หรือใบเก๊กฮวย
อีกทั้งใช้ป้องกันการเป็นซ้ำได้ดี
หรือรับประทานสารอาหารสกัดจาก
น้ำมันปลา EPA กระเทียม
แคลเซี่ยม และแมกนีเซียม
หรือรับประทาน DLPA (Dextro-levo
Phenylalanine) ติดต่อกันเป็นเวลา 7
วัน อาการจึงค่อย ๆ ลดลง
ครั้งละ 2 เม็ด (375 mg) วันละ 3
ครั้ง ก่อนอาหาร 1-2
ชั่วโมง แต่ห้ามทานรับนม
เพราะจะดูดซึมไม่ดี หาก 10
วันไม่ทุเลาควรเพิ่มเป็น
2 เท่าไปอีก 1 สัปดาห์ (ไม่แนะนำในเด็กและสตรีมีครรภ์)
แต่ถ้าสตรีมีครรภ์หากปวดไมเกรน
สมควรพบแพทย์
- Cluster
อาจหายได้จากการให้รับประทานสังกะสี
Zn (มีมากในสาหร่ายเกลียวทอง)
เพื่อช่วยขับทองแดง Cu
ออกจากร่างกาย
ส่วนการทำประคบร้อน-เย็นที่บริเวณท้ายทอย
หน้าผาก และหลังเท้า
สลับกัน 5 นาที
มักจะช่วยบรรเทาอาการได้ดี
- ปวดศีรษะจากความเครียด
(Stress)
การประคบร้อนเย็นบริเวณ 3
จุดที่กล่าวมาแล้วมักช่วยให้หายปวดศีรษะได้มาก
สารอาหารที่แนะนำ เช่น
นมผึ้ง (มี Inosito)
และสาหร่ายเกลียวทอง
มีสาย Alfa-Tryptophan ช่วยได้
- ปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อ
หากพบว่าเกิดจากฟันผุ
สมควรปรึกษาทันแพทย์
ลักษณะที่ต้องส่งแพทย์
มีข้อพึงสังวรณ์ว่าอาการปวดศีรษะ
ร่วมกับไข้ (ปวดหัวตัวร้อน)
หรือมีอาการอาเจียน
หลังบาดเจ็บที่ศีรษะ
หรืออาเจียนเรื้อรังมานาน
(อาจเกิดจากเนื้องอกในสมอง)
หรือปวดศีรษะแล้ว
มีอาการคอแข็งร่วมด้วย (มักเป็นจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบ)
หรือมีอาการชัก
หรืออัมพาตพูดไม่ได้
โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่อายุเกิน
65 ปี มักเป็นอาการของ CVA เช่น
เส้นเลือดในสมองตีบอุดตัน
หรือแตก
หรืออาการที่มีพยาธิสภาพของฟัน
เช่น ฟันผุ
อาการข้างต้นเหล่านี้ต้องส่งแพทย์เท่านั้น!!!
ผู้ปวดศีรษะควรรับวิตามินดังนี้
- วิตามินซี 1
กรัม เช้า-เย็น
เพื่อช่วยการทำงานของต่อมหมวกไต
- วิตามินบีรวม
ช่วยในด้านเมตาโบลิส์มของน้ำตาลและไขมัน
ลดความเครียด
- แคลเซียม
แพนโทธีเนท (B5)
ช่วยต่อมหมวกไตเสริมฤทธิ์อินซูลิน
- วิตามินอี
200 ยูนิต/วัน
ช่วยเมตาโบลิสม์ของกลูโคลส
- สังกะสี
เพื่อปรับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
- โครเมี่ยม 10
mg/วัน
เพื่อช่วยในการใช้น้ำตาลของร่างกาย
|