วิธีการสั่งซื้อ/ชำระเงิน | หน้าร้านโฮลิสติก | ร้านหนังสือ | สั่งสินค้า | สั่งหนังสือ |
สาระมาฝาก |
ความดันโลหิตสูง |
||
พบได้ 5-10%
ของคนทั่วไป
ส่วนมากจะเริ่มเป็นในคนที่มีอายุเกิน
30
ปีขึ้นไปโดยไม่ทราบสาเหตุชัดเจน
ส่วนน้อยอาจเป็นในคนอายุน้อยกว่า
30 ปี
ซึ่งมักมีความผิดปกติอื่น
ๆ ร่วมด้วย เช่น โรคไต
คอพอกเป็นพิษ เบาหวาน
หลอดเลือดแดงใหญ่แข็งตัว
เป็นตัว
สาเหตุ 80% ของผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูงนั้น ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง 20% ที่เหลือพบว่าสาเหตุจาก โรคไต ความผิดปกติของระบบการไหลเวียนของเลือด ระบบฮอร์โมน ระบบประสาท ความเครียด อารมณ์ กระดูกคอผิดปกติ การกินอาหารเค็มและน้ำตาลมากเกินไปเป็นประจำ เป็นสาเหตุที่ค่อย ๆ ทำให้เกิดโรคนี้ได้ เมื่อไรจึงถือว่าเป็นความดันโลหิตสูง? เมื่อวัดความดันช่วงบนได้มากกว่า 160 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป หรือความดันช่วงล่างได้มากกว่า 95 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป หรือทั้ง 2 อย่างรวมกัน ความดันโลหิตสูงมีอาการอย่างไร ส่วนใหญ่มักมีความเข้าใจผิดว่า ถ้าเป็นความดันสูงแล้วจะทำให้มีอาการปวดศีรษะ แต่มีส่วนน้อยที่ปวดศีรษะ ส่วนใหญ่จะทราบก็ต่อเมื่อตรวจพบโดยบังเอิญ ส่วนการจะสังเกตอาการนั้นโอกาสพลาดมีได้มาก เนื่องจากบางคนไม่มีอาการอะไรเลย ปกติดีทุกอย่าง (ยกเว้นความดันโลหิตและความผิดปกติภายในเส้นเลือด) อาการที่อาจพบได้ คือ ปวดศีรษะ มึนงง เวียนศีรษะ เหนื่อยหอบมากเวลาออกกำลัง ปวดแน่นหน้าอก ตาพร่า ปวดหลัง นอนไม่หลับ แต่อาการเหล่านี้อาจเป็นอาการของโรคอื่น ๆ ได้สารพัด ไม่จำเป็นต้องเป็นความดันโลหิตสูงอันตรายอย่างไร? ถ้าไม่ได้รับการรักษา มักจะเกิดการตีบและแข็งตัวของหลอดเลือด การไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะสำคัญต่าง ๆ ไม่เพียงพอทำให้อวัยวะเสียได้ เช่น เส้นเลือด มีการเสื่อมสภาพของเส้นเลือดทั่วร่างกาย ที่พบบ่อยคือบริเวณสมอง สมอง เกิดการแตกของหลอดเลือดในสมองทำให้เป็นอัมพาตหรือตายได้ เพราะกะโหลกเป็นกล่องกระดูกซึ่งปิดตาย หัวใจ เกิดหัวใจโต เต้นอ่อนลงและหัวใจวายในที่สุด ไต เกิดไตพิการหรืออักเสบเรื้อรัง ทำให้เกิดการคั่งของสารพิษในร่างกาย บวม อาจถึงตายได้ ตา ทำให้จอตาเสื่อมสภาพ จนการเห็นเสียไป ตามัวถึงบอดได้ ขบวนการต่าง ๆ เหล่านี้จะเกิดช้า ๆ มักเกิดทุกที่ ๆ มีเส้นเลือดไปเลี้ยง แต่ไม่รู้สึกผิดปกติในระยะแรก แม้ว่าความดันโลหิตจะสูงมากก็ตาม อาการปวดศีรษะเป็นเพียงอาการร่วมอย่างหนึ่งเท่านั้น หลายรายที่ความดันโลหิตสูงโดยไม่มีอาการ กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อเกิดอัมพาต หัวใจโต หรือพิการแล้วซึ่งแก้ไขไม่ได้ จะรักษาและปฏิบัติตัวอย่างไร? นอกจากการกินยาให้สม่ำเสมอตามที่แพทย์สั่งแล้ว ควรลดปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ด้วย ได้แก่ ลดอาหารเค็ม ลดน้ำหนักถ้าอ้วน งดเหล้าและบุหรี่ ออกกำลังกายที่เหมาะสมเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เครียด โมโห หรือตื่นเต้น คนที่มีความดันสูงเล็กน้อย หากปฏิบัติตัวได้ดี อาจไม่ต้องใช้ยารักษาก็ได้ คนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรวัดความดันโลหิตอย่างน้อยปีละครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีประวัติโรคนี้ในครอบครัว บางรายที่พบมีความเสื่อมของกระดูกคอ ทำให้กดเบียดการไหลเวียนของโลหิตสู่สมอง เมื่อได้รับการรักษา (โดยการตกแต่งกระดูกต้นคอเสียใหม่) พบว่าความดันลดลงสู่ปกติ และหายเป็นปลิดทิ้ง สารอาหารที่ช่วยรักษา และป้องกันโรคนี้
|
||
Copy right 2000 by Holisticthai.com co., ltd. All right Researve. |