อาการอย่างหนึ่งที่มักจะมาพร้อมกับการตั้งครรภ์
คือการแพ้ท้อง
คุณแม่บางรายอาจเข็ดขยาดกับการอุ้มท้องเพราะการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดขึ้นบ่อย
ๆ ในตอนเช้า
หลายคนสงสัยว่าทำไมคนแพ้ท้องและการแพ้ท้องก่อประโยชน์อย่างไร
เชื่อว่าธรรมชาติคงมีเหตุผลในการสร้างสรรค์สิ่งใด
ๆ ขึ้นมา
|
การแพ้ท้องก็เช่นกัน
บทความในหนังสือที่เกี่ยวกับสูตินรีเวชและนรีเวชวิทยาระบุว่าอาการแพ้ท้องอาจเป็นวิธีการที่ธรรมชาติคุ้มครองตัวอ่อนที่กำลังเติบโตในครรภ์นั้น
ให้ได้รับอาหารบำรุงร่างกายอย่างเหมาะสม
|
อาการคลื่นไส้และอาเจียนที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนแรก
ๆ
ของการตั้งครรภ์กลับเป็นการบำรุงเลี้ยงตัวอ่อน
เพราะมันสามารถรักษาระดับฮอร์โมนบางตัวในร่างกาย
และฮอร์โมนที่ว่าก็คืออินซูลิน
ซึ่งเป็นตัวควบคุมน้ำตาลในเลือดนั่นเอง
จากการวิจัยในสัตว์พบว่าในช่วงแรกของการตั้งครรภ์
ร่างกายจะผลิตอินซูลินจำนวนมาก
อินซูลินจะถูกปล่อยออกมาเพื่อตอบสนองต่ออาหารที่ร่างกายรับเข้าไป
|
ระดับของอินซูลินที่เพิ่มขึ้นกระตุ้นให้ระบบเมตาโบลิซึ่มในร่างกายเผาผลาญไขมันในร่างกายแม่
ซึ่งไม่เกิดผลดีในตัวอ่อนที่กำลังเติบโต
ร่างกายจึงสร้างกลไก
(อาการแพ้ท้อง)
ขึ้นมาเพื่อควบคุมระดับอินซูลิน
และช่วยพิทักษ์ให้ตัวอ่อนได้รับอาหารเพียงพอ
คุณแม่ที่ไขมันเยอะอาจไม่กระทบ
จากการที่ร่างกายเผาผลาญไขมัน
แต่สำหรับคุณแม่ที่ผอมอยู่แล้ว
แล้งไขมันอยู่แล้ว
น่าจะกระทบต่อเด็กในท้อง
ดังนั้นคุณแม่ที่น้ำหนักตัวน้อย
จึงไม่ต้องแพ้ท้องเพราะร่างกายไม่จำเป็นต้องสะสมไขมัน
|
ราเชล
อาร์ ฮักซ์ลีย่า
ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพในอ๊อกฟอร์ด
อังกฤษให้ข้อสังเกตว่า
สตรีตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องมีโอกาสน้อยที่จะคลอดก่อนกำหนด
หรือเด็กน้ำหนักตัวต่ำเมื่อเทียบกับคนที่ไม่แพ้ท้องเลย
หลายการวิจัยแสดงให้เห็นว่า
คนที่ไม่มีอาการแพ้ท้องจะมีอัตราการคลอดก่อนกำหนดหรือเด็กน้ำหนักตัวไม่ได้มาตรฐานสูงกว่า
|