เต่ากาลาปากอส (Galapagos tortoise)

Scientific name : Geochelone elephantopus

เกาะกาลาปากอสเป็นหมู่เกาะทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ถูกค้นพบโดยนักเดินเรือชาวเสปน

ในปี1535 นักเดินเรือพบว่ามีเต่าขนาดใหญ่อยู่เต็มไปหมดชนิดที่ เรียกว่ามืดฟ้ามัวดิน จึงได้ตั้งชื่อเกาะแห่งนี้ว่า”เกาะกาลาปากอส” ที่แปลว่า เกาะเต่า

 

ภาพแสดงการลำเลียงเต่าไปยังเรือแม่

ในขณะนั้น สันนิษฐานว่ามีเต่าอยู่ประมาณ 250,000ตัว แต่ปัจจุบัน มีอยู่เพียง 15,000ตัว(และ
ยังมีโอกาสสูญพันธุ์สูง)

เต่ากาลาปากอส สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องกินน้ำและอาหารได้นานเป็นปี ดังนั้น มันจึงกลาย เป็นสต๊อกอาหารชั้นดีสำหรับนักเดินเรือในสมัยนั้น คนเดินเรือจะไปหยุดเรือที่เกาะกาลาปา
กอสเพื่อจับเต่ามาเก็บตุนไว้เป็น
“เสบียงสด”บนเรือโดย การจับพวกมันนอนหงายหลัง แถมพวกมันยังโดนเบียดเบียนโดยสัตว์ที่ติดมากับนักเดินเรือเช่น สุนัข, แพะ, หนู ฯลฯ สัตว์เหล่านี้แย่งอาหาร และ แอบขโมยกินไข่ของพวกมัน

 

เต่ากาลาปากอสถือว่าเป็นเต่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกมันหนักได้ถึง 300กิโลกรัม และมี กระดองที่ใหญ่กว่า 1 เมตร พวกมันเป็นสัตว์กิน พืชโดยแท้ พวกมัน
กินพืชมากกว่า 50 ชนิด บนเกาะ ไม่เว้นแม้แต่ผลของต้นตะบองเพชร
พวกมันเป็นสิ่งที่สวยงามบนเกาะ ไม่มีศัตรู ไม่มีอะไรให้คอยกังวล (จนกระทั่งเกาะ
ถูกค้นพบ) ตื่นนอนประมาณ 7-8 โมงเช้ามาอาบแดด แล้วก็ออกหาของกิน และจะหมดวันตอน 4-5 โมง เย็นเป็นกิจวัตร พักผ่อนด้วยการแช่น้ำหรือแช่โคลน

เต่ากาลาปากอสจะโตเต็มวัยตอนอายุประมาณ 20-25ปี ช่วงเวลาผสมพันธุ์จะอยู่ที่เดือน มกราคม และ สิงหาคม ตัวผู้จะหาคู่ด้วยการเดินตามตัวเมีย กระแทก
เบาๆ และตอดที่ขาของตัวเมีย ท้องของเต่าตัวผู้จะมีรูปทรงเว้าเข้าเพื่อสะดวกในการผสมพันธุ์ เต่าตัวเมียจะวางไข่ ่เพียงปีละ 2-16ฟอง และเต่ากาลาปากอส
สามารถอายุยืนได้ถึง 200ปี ในธรรมชาติ

 

กลับหน้าหลัก     สาระน่ารู้ และ ข่าวคราวต่างๆ