ปัญญาสนิบาตชาดก ๔. ลตาวิมาน ว่าด้วยผลบุญที่ทำให้ไปเกิดในลตาวิมาน
 
  	[๓๒]นางเทพนารี ๕ องค์ มีความรุ่งเรือง มีปัญญา งดงามด้วยคุณธรรมเป็นธิดาของท้าวเวสสวัณมหาราช คือ 
	นางลดาเทพธิดา ๑ 
	นางสัชชาเทพธิดา ๑ 
	นางปวราเทพธิดา ๑ 
	นางอัจฉิมุตีเทพธิดา ๑ 
	นางสุดาเทพธิดา ๑
	ต่างเป็นนางบำเรอของท้าวสักกเทวราชผู้ประเสริฐ มีศิริ ได้พากันไปยัง แม่น้ำอันไหลมาจากสระอโนดาด มีน้ำเยือกเย็น 
มีดอกอุบลน่ารื่นรมย์ในป่าหิมพานต์ เพื่อสรงสนาน ครั้นสรงสนาน ฟ้อนรำขับร้อง รื่นเริงสำราญใจในแม่น้ำแล้ว จึงนางสุดาเทพธิดา
ได้ถามนางลดาเทพธิดาผู้พี่องค์ใหญ่ว่า
 	"เจ้าพี่จ๋าผู้มีดวงตาเหลืองปนแดง มีร่างประดับด้วยพวงมาลัย อุบล มีพวงมาลัยประดับเศียร ผิวพรรณก็งดงามเปล่งปลั่ง
ดังทองคำ มีอวัยวะ ทุกส่วนงดงามผ่องใส เหมือนท้องฟ้าที่ปราศจากเมฆหมอก มีอายุยืน ดิฉันขอถามเจ้าพี่เพราะทำบุญอะไรไว้ เจ้าพี่จึง
ได้มียศมาก ทั้งเป็นที่รักและโปรดปรานของพระภัสดา มีรูปงามสะสวยยิ่งนัก ทั้งฉลาดในการ ฟ้อนรำขับร้อง และบรรเลงเป็นเยี่ยม 
จนพวกเทพบุตรและเทพธิดาไต่ถามถึงเสมอๆ ขอโปรดได้บอกแก่หม่อมฉันด้วยเถิด?"
	 นางเทพธิดาจึงตอบว่า
	 ครั้นพี่ยังเป็นมนุษย์อยู่ในมนุษยโลก เป็นบุตรสะใภ้ในตระกูลมั่งคั่ง ตระกูลหนึ่ง พี่มิได้เป็นคนมักโกรธ เป็นผู้ประพฤติอยู่
ใต้บังคับบัญชาของสามี ไม่ประมาทในวันอุโบสถ เมื่อพี่ยังเป็นสาวอยู่ เป็นผู้ภักดีด้วยการไม่ประพฤตินอกใจสามีหนุ่ม พี่เป็นที่
โปรดปรานของสามีเป็น อย่างยิ่ง ก็เพราะพี่มีน้ำใจผ่องใส ได้ทำตัวให้เป็นที่โปรดปรานของสามี พร้อมทั้งญาติชั้นผู้ใหญ่ และบิดามารดา
ของสามี ตลอดจนคนใช้ชาย หญิง พี่จึงได้มีบริวารยศอันบุญกรรมจัดมาให้ถึงอย่างนี้ เพราะกุศลกรรม นั้น พี่จึงได้เป็นผู้พิเศษกว่านางฟ้า
พวกอื่น ในที่ ๔ สถาน คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ได้เสวยความยินดีมิใช่น้อย."
	 เมื่อนางสุดาเทพธิดาได้ฟังดังนี้แล้ว จึงได้พูดกับพี่สาวทั้งสามว่า
	"ข้าแต่เจ้าพี่ทั้งสาม เจ้าพี่ลดาได้แถลงถ้อยคำน่าฟังมากมิใช่หรือจ้ะ หม่อมฉันทูลถามถึงเรื่องที่พวกเราชอบสงสัยกันมาก ก็กล่าวแก้
ได้อย่าง ไม่ผิดพลาด เจ้าพี่ลดาควรเป็นตัวอย่างอันดีเยี่ยมสำหรับเราทั้งสี่และนารีทั้งหลาย มาเราทั้งปวงพึงประพฤติธรรมในสามีทั้งหลาย 
เราทั้งปวงพึงประพฤติในสามี เหมือนอย่างสตรีที่ดีประพฤติยำเกรงสามี ฉะนั้น ครั้นเราทั้งหลายปฏิบัติธรรม คือ การอนุเคราะห์ต่อ
สามีด้วยสภาพทั้ง ๕อย่างแล้ว ก็จะได้สมบัติอย่างที่เจ้าพี่ลดาพูดถึงอยู่ประเดี๋ยวนี้ พระยา ราชสีห์ผู้สัญจรไปตามราวไพรใกล้เชิงเขา 
อาศัยอยู่บนบรรพตเขาหลวง แล้วก็เที่ยวตะครุบจับสัตว์ ๔ เท้าใหญ่น้อยทุกๆ ชนิดกัดกินเป็นอาหาร ได้ ฉันใด สตรีที่มีศรัทธา
เป็นอริยสาวิกาในศาสนานี้ ก็ฉันนั้น 
	เมื่อ ยังอาศัยภัสดาอยู่ ควรประพฤติยำเกรงสามี ฆ่าความโกรธเสีย กำจัดความตระหนี่เสียได้แล้ว เขาผู้ประพฤติธรรมโดยชอบ 
จึงรื่นเริงบันเทิงใจ อยู่บนสวรรค์." 
                จบ ลตาวิมานที่ ๔.