ปัญญาสนิบาตชาดก ๙. วิสาลักขิวิมาน ว่าด้วยผลบุญที่ทำให้ไปเกิดในวิสาลักขิวิมาน
 
 สมเด็จอัมรินทราธิราชตรัสถามนางสุนันทาเทพธิดาว่า 
     	"[๓๗]ดูกรแม่เทพธิดาผู้มีนัยย์ตางาม เธอชื่อไร ได้ทำกรรมอะไรไว้ จึงได้มีหมู่ นางฟ้าแวดล้อมเป็นบริวารเดินวนเวียน
อยู่รอบๆ ในสวนจิตรลดาอันน่า รื่นรมย์ ในคราวที่พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ล้วนแต่ขึ้นม้า ขึ้นรถตบแต่งร่างกายวิจิตรงดงาม เข้าไปยัง
สวนนั้นแล้ว จึงมาในที่นี้ แต่เมื่อเธอพอมาถึงในที่นี้ กำลังเที่ยวชมสวน รัศมีก็สว่างไสวไปทั่วจิตรลดาวัน โอภาสของสวน
มิได้ปรากฏ รัศมีของท่านมาข่มเสีย 
	ดูกรแม่เทพธิดาฉันถามเธอแล้ว ขอเธอจงบอกว่า นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไร?"
	นางสุนันทาเทพธิดาผู้เป็นอัครชายาทูลตอบว่า
	" ขอเดชะ ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมเทพ ผู้ทรงบำเพ็ญทานมาแต่เก่าก่อน รูปอันสวยงาม คติ ฤทธิ์ และอานุภาพของหม่อมฉัน 
ย่อมมีได้ด้วยกรรม อันใด ขอพระองค์จงทรงสดับกรรมนั้น 
	หม่อมฉันเป็นอุบาสิกามีนามว่า สุนันทาอยู่ในพระนครราชคฤห์อันน่ารื่นรมย์ ถึงพร้อมด้วยศรัทธา และ ศีล ยินดีในการ
จำแนกทานทุกเมื่อ คือหม่อมฉันมีจิตเลื่อมใส ได้ ถวายผ้านุ่งผ้าห่ม ภัตตาหาร เสนาสนะและเครื่องประทีป ในภิกษุทั้งหลายผู้เที่ยงตรง 
ทั้งได้รักษาอุโบสถ อันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการตลอดวัน ๑๔ ค่ำ วัน ๑๕ ค่ำ และวัน ๘ ค่ำแห่งปักษ์ และตลอด ปฏิหาริยปักษ์ 
เป็นผู้สำรวมอยู่ในศีลเป็นนิตย์ หม่อมฉันยินดีแล้วในสิกขาบททั้ง ๕ คือ งดเว้นจากปาณาติบาต จากความเป็นขโมยจากการประพฤติ
นอกใจ ระมัดระวังจากการพูดเท็จ และเว้นไกล จากการดื่มน้ำเมา เป็นผู้ฉลาดในอริยสัจจธรรมทั้ง ๔เป็นอุบาสิกาของพระสมณโคดมผู้มี
พระจักษุ ผู้เรืองยศ 
	บิดาของหม่อมฉันใช้ให้หม่อมฉันนำดอกไม้มาทุกๆ วัน หม่อมฉันได้บูชาที่สถูปอันเป็นที่บรรจุพระบรมธาตุของพระผู้มีพระภาค
ทุกๆ วัน ในวันอุโบสถหม่อมฉันมีใจผ่องใส ได้ถือเอาพวงมาลัย ของหอมและเครื่องลูบไล้ ไปบูชาพระสถูปของพระผู้มีพระภาคนั้น
ด้วยมือของตน ข้าแต่พระองค์ผู้จอมเทพ รูปอันสวยงาม คติ ฤทธิ์ และอนุภาพเช่นนี้ เกิดมีแก่ หม่อมฉันเพราะกรรมนั้น มิใช่ว่าผล
ที่หม่อมฉันได้บูชาพระสถูปด้วย พวงมาลัย และที่หม่อมฉันได้รักษาศีล จะให้ผลเท่านั้นก็หามิได้ ยังกลับ ให้หม่อมฉันพึงได้สกทาคามี 
ตามความปรารถนาของหม่อมฉันอีกด้วย." 
                 จบ วิสาลักขิวิมานที่ ๙