พระมหาโมคคัลลานเถระถามนางเทพธิดาตนหนึ่งว่า
"[๔๖]สวนมะม่วงทิพย์ของท่านนี้น่ารื่นรมย์ ในสวนของท่านนั้นมีปราสาทใหญ่กว้างขวาง กึกก้องไปด้วยดนตรีต่างๆ
และกึกก้องด้วยหมู่นางอัปสรอนึ่ง ในปราสาทของท่านนี้มีประทีปทองดวงใหญ่ส่องสว่างรุ่งเรื่องเป็น นิตย์ ปราสาทของท่านแวดล้อม
ด้วยต้นไม้มีผลเป็นผ้าโดยรอบ สวน มะม่วงอันน่ารื่นรมย์ใจ และในสวนมะม่วงนั้น มีปราสาทสูงใหญ่กว้างขวางเกิดขึ้นแก่ท่าน
เพราะบุญกรรมอะไร ท่านมีวรรณะงามเช่นนี้ ฯลฯและมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ เพราะบุญกรรมอะไร?"
นางเทพธิดานั้น อันพระมหาโมคคัลลานเถระถามแล้ว มีความปลาบ ปลื้มใจ จึงพยากรณ์ปัญหาแห่งผลกรรมที่
ถูกถามนั้นว่า
" เมื่อชาติก่อน ดิฉันเกิดเป็นมนุษย์อยู่ในมนุษยโลก มีจิตเลื่อมใส ได้ ให้สร้างวิหารถวายสงฆ์ แวดล้อมไปด้วยต้นมะม่วง
เมื่อให้สร้างวิหาร สำเร็จเรียบร้อยแล้ว จึงทำการฉลอง แวดล้อมต้นมะม่วงด้วยผ้า เอาผ้าทำเป็นผลมะม่วงตามประทีปไว้ที่ต้นมะม่วงนั้น
อันอุดม และนิมนต์ พระสงฆ์ผู้เป็นหมู่อุดมสาวกของพระผู้มีพระภาคให้ฉัน แล้วมอบถวาย วิหารนั้นแก่สงฆ์ ด้วยมือของตน
เพราะบุญกรรมนั้นดิฉันจึงมีสวน มะม่วงอันน่ารื่นรมย์ใจ และมีปราสาทสูงใหญ่กว้าขวางอยู่ในสวน มะม่วงนั้น
กึกก้องไปด้วยดนตรีต่างๆ และกึกก้องไปด้วยหมู่นางอัปสร และทีปราสาทของดิฉันนี้ มีประทีปทองดวงใหญ่ส่องสว่างเรือง
เป็นนิตย์ ปราสาทของดิฉันแวดล้อมไปด้วยต้นมะม่วง มีผลเป็นผ้าโดยรอบ เพราะบุญกรรมนั้น ดิฉันจึงมีวรรณะงามเช่นนี้ ฯลฯ
และมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศ เพราะบุญกรรมนั้น."
จบ อัมพวิมานที่ ๘.
|