ฉัตตมาณวกวิมาน ว่าด้วยผลบุญที่ทำให้ไปเกิดในฉัตตมาณวกวิมาน
พระผู้มีพระภาค เมื่อจะทรงแสดงวิธีเรียนไตรสรณคมน์แก่ฉัตตมาณพ จึงได้ตรัสว่า 
 	"[๕๓]พระพุทธเจ้าพระองค์ใด เป็นผู้ประเสริฐกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายเป็นโอรสแห่งศากยราช เป็นผู้จำแนก
แจกธรรม มีกิจอันทำเสร็จแล้ว ผู้ถึงฝั่ง เป็นผู้พรั่งพร้อมด้วยกำลังและความเพียร ท่านจงถึงพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นผู้เสด็จ
ไปดีแล้ว เพื่อเป็นที่พึ่งของตนเถิด 
	ท่านจงเข้าถึง พระธรรม อันเป็นธรรมคลายความกำหนัด เป็นธรรมไม่หวั่นไหว ไม่มี ความเศร้าโศก อันปัจจัยอะ
ไรปรุงแต่งไม่ได้ ไม่ปฏิกูล เป็นธรรม ไพเราะคล่องแคล่ว เป็นธรรมอันพระผู้มีพระภาคทรงจำแนกดีแล้วเพื่อเป็นที่พึ่งเถิด 
	บัณฑิตทั้งหลายกล่าวทาน อันบุคคลให้แล้วในพระอริยสงฆ์ผู้สะอาด เป็นคู่แห่งบุรุษทั้ง ๔ เป็นบุรุษบุคคล ๘ เพราะเหตุ
ได้แสดงธรรมว่ามีผลมาก ท่านจงเข้าถึงพระสงฆ์นี้ เพื่อเป็นที่พึ่งเถิด"
	 พระผู้มีพระภาค เพื่อจะทรงประกาศบุญกรรมอันฉัตตเทพบุตรนั้นทำแล้ว ให้ปรากฏ  แก่มหาชน จึงได้ตรัสถามฉัตตเทพบุตรนั้นว่า.
	"วิมานของท่านนี้ มีรัศมีรุ่งเรืองมากมายหาที่เปรียบเทียบมิได้ ฉันใด ถึงพระอาทิตย์ พระจันทร์ และดาวนักขัตฤกษ์ 
รุ่งเรืองอยู่ในท้องฟ้า ก็ไม่อาจจะเปรียบเทียบได้ ฉันนั้น 
	ท่านเป็นใครหนอ มาเกิดในวิมานนี้ อนึ่ง วิมานของท่านนี้มีรัศมีรุ่งเรืองตัดเสียซึ่งรัศมีแห่งพระจันทร์ และพระอาทิตย์ 
มีรัศมีแผ่ไปเกินกว่า ๒๐ โยชน์ และทำแม้กลางคืน ให้เป็นดุจกลางวัน วิมานของท่านนี้งามบริสุทธิ์ผุดผ่องไม่หม่นหมอง งดงาม
ไปด้วยดอกปทุมแลบัวขาวเป็นอันมาก เกลื่อนกลาดไปด้วยดอก โกสุม งามวิจิตรด้วยมาลากรรมหลายอย่างต่างๆ กัน ปกคลุมไปด้วย
ข่ายทองคำอันบริสุทธิ์ ปราศจากธุลี ดุจพระอาทิตย์แผดแสงสว่างอยู่ในอากาศฉะนั้น อนึ่ง ท่านทรงผ้ากัมพลแดง ลางทีก็ทรงภูษา
สีเหลือง สดใส มีสกลกาย ลูบไล้ด้วยกลิ่นกฤษณา ดอกประยงค์ และ แก่นจันทน์ คันธชาติ มีผิวพรรณเปล่งปลั่งด้วยทองคำ 
	ท่านจะไปเที่ยว ในวิมานใด วิมานนี้ก็เต็มไปด้วยเทพบุตรและนางเทพธิดา อันเที่ยวไปในที่นั้น ดุจท้องฟ้าอัน
ดาดาษไปด้วยหมู่ดาว ฉะนั้น 
	เทพบุตรเทพธิดา ในวิมานนั้นมากมายมีวรรณะต่างๆ กัน ทรงอาภรณ์ทิพย์อันประดับ ด้วยดอกโกสุมและดอกมะลิ 
สวมใส่เครื่องประดับผุดผ่อง มีกาย รุ่งเรืองวิจิตรปกปิดด้วยเครื่องทอง หอมฟุ้งไป นี้เป็นผลแห่งกรรมอะไรท่านมาเกิดในวิมานนี้ 
เพราะผลแห่งกรรมอะไร ก็วิมานนี้อันท่านได้แล้วด้วยประการใด ตถาคตถามแล้ว ขอท่านจงบอกเหตุแห่งการ ได้วิมานนั้น
 ด้วยประการนั้นเถิด?"
	ฉัตตเทพบุตรกราบทูลว่า
	" ข้าแต่พระผู้มีพระภาค พระองค์ได้พบกับมาณพคนหนึ่งชื่อฉัตตมาณพ ซึ่งเดินทางมาในทางนี้ พระองค์ทรงเป็นครู 
ทรงเอ็นดูพร่ำสอนธรรมแก่เขา ฉัตตมาณพนั้นคือข้าพระองค์ ได้ฟังธรรมของพระองค์ผู้เป็นรัตนะอันประเสริฐ แล้วได้ทูลรับรองว่า 
จักกระทำตามที่พระองค์พร่ำสอน 
	อนึ่ง พระองค์ได้ตรัสบอกแก่ข้าพระองค์ว่า ท่านจงเข้าถึง พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ กับทั้งพระธรรมและพระสงฆ์ว่าเป็นที่พึ่งเถิด 
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทีแรกข้าพระองค์ทูลปฏิเสธ ภายหลังได้ทำตามพระดำรัสของพระองค์เหมือนอย่างนั้น 
	อนึ่ง พระองค์ได้ตรัสบอกว่าท่านอย่าได้ประพฤติฆ่าสัตว์มีประการต่างๆ อันเป็นความไม่สะอาด เพราะท่านผู้มี
ปัญญาทั้งหลาย ย่อมไม่สรรเสริญความไม่สำรวมในสัตว์ทั้งหลาย ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทีแรกข้าพระองค์ทูลปฏิเสธ แต่ภาย
หลังได้ทำตามพระดำรัสของพระองค์เหมือนอย่างนั้น 
	อนึ่ง พระองค์ตรัส บอกว่า ท่านอย่าได้ถือเอาสิ่งของที่คนอื่นรักษาหวงแหน และอย่าได้คบชู้กะภรรยาของผู้อื่น 
เพราะข้อนี้ไม่ประเสริฐ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทีแรกข้าพระองค์ทูลปฏิเสธ แต่ภายหลังได้กระทำตามพระดำรัสของพระองค์
เหมือนอย่างนั้น 
	อนึ่ง พระองค์ได้ตรัสบอกว่า ท่านอย่า ได้พูดให้คลาดเคลื่อนจากความจริง เพราะผู้มีปัญญาทั้งหลายมิได้สรรเสริญ
การพูดเท็จ ทีแรกข้าพระองค์ทูลปฏิเสธ แต่ภายหลังได้ ทำตามพระราชดำรัสของพระองค์เหมือนอย่างนั้น 
	อนึ่ง พระองค์ได้ตรัสบอกว่า สัญญาของบุรุษย่อมฟั่นเฟือนไป เพราะน้ำเมาอัน
ได้ดื่มแล้ว ท่านจงงดเว้น
น้ำเมาอันเป็นโทษทั้งหมด ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทีแรก ข้าพระองค์ได้ปฏิเสธ แต่ภายหลังได้ทำตามพระราชดำรัสของ
พระองค์ เหมือนอย่างนั้น 
	ข้าพระองค์นั้นได้รักษาศีล ๕ ในศาสนาของพระองค์ และได้ปฏิบัติในธรรมของ
พระตถาคต ได้เดินทาง
ไปถึงระหว่างเขตบ้านทั้งสอง ในท่ามกลางหมู่โจร โจรเหล่านั้นได้ฆ่าข้าพระองค์เพราะเหตุ แห่งโภคทรัพย์ ข้าพระองค์ระลึก
ถึงกุศลมีประมาณเท่านี้ สิ่งอื่นอัน ยิ่งไปกว่ากุศลตามที่กราบทูลแล้วนั้น มิได้มีแก่ข้าพระองค์ เพราะกรรมอันสุจริตนั้น 
	ข้าพระองค์จึงได้เกิดในไตรทิพย์ พรั่งพร้อมด้วยกามคุณตามปรารถนา ขอพระองค์ทรงดูผลแห่งการถึงสรณคมน์ 
สมาทานศีล และการปฏิบัติธรรมอันสมควร สิ้นกาลเพียงครู่หนึ่งเหมือนดังรุ่งเรือง อยู่ด้วยฤทธิ์และยศเกินจะประมาณ ชนทั้ง
หลายซึ่งมีโภคทรัพย์ด้อยกว่าสมบัติของข้าพระองค์เป็นอันมาก มาเห็นสมบัติอันมากของข้าพระองค์ ย่อมอยากได้ ขอพระองค์ทรง
ดูผลแห่งเทศนาอันเล็กน้อย อันข้าพระองค์ฟังแล้ว ข้าพระองค์ยังไปสู่สุคติและได้ประสบความสุข 
	ชนเหล่าใดได้ฟังธรรมของพระองค์เนืองๆ ชนเหล่านั้นเห็นจะได้บรรลุ นิพพานอันเป็นธรรมไม่ตาย 
เป็นธรรมเกษม เพราะกุศลมีประมาณไม่น้อย อันชนเหล่านั้นทำแล้ว ขอพระองค์ทรงดูผลอันมายมายไพบูลย์ อันข้าพระองค์
ตั้งอยู่ในธรรมของพระตถาคตทำไว้แล้ว.
	ฉัตตเทพบุตรยังปฐพีให้สว่างไสวดุจพระอาทิตย์ เพราะเป็นผู้มีบุญอันทำไว้แล้ว ก็ชนบางพวกได้พบได้เห็นแล้ว
พากันคิดว่า พวกเราจักทำกุศลอย่างไรจะประพฤติอย่างไร จึงจะได้อย่างนี้ (คิดไปๆ เห็นว่าทำได้แสนยากดุจพลิกแผ่นดิน
และดุจยกเขาสิเนรุราช) 
	ชนเหล่านั้นจึงคิดว่า พวกเรา ได้ความเป็นมนุษย์อีกแล้ว ควรเป็นผู้มีศีล ปฏิบัติ ประพฤติธรรมพระองค์เป็น
ครูของข้าพระองค์ ทรงมีอุปการะและอนุเคราะห์แก่ข้า พระองค์เป็นอันมาก 
	เมื่อข้าพระองค์ได้พบพระองค์แล้วในวันนั้น ก็ได้ถูกพวกโจรฆ่าตายในเวลาเช้า ข้าพระองค์เป็นฉัตตมาณพได้เข้า
ถึงสัจจนาม ขอพระองค์ทรงอนุเคราะห์แก่ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะขอฟังธรรมอีกชนเหล่าใดในศาสนานี้ ละกามราคะ ภวราคะ 
อันเป็นอนุสัยและ โมหะแล้ว ชนเหล่านั้นย่อมไม่เข้าถึงการนอนในครรภ์ต่อไป เพราะว่า เป็นผู้บรรลุนิพพาน มีความเย็นเกิดแล้ว."
                จบ ฉัตตมาณวกวิมานที่ ๓