พระมหาโมคคัลลานเถระ ได้ถามเทพบุตรตนหนึ่งว่า
"[๕๔]วิมานของท่านนี้สูงมาก ทั้งยาวและกว้าง ๑๒ โยชน์ มียอด ๗๐๐ ยอดมีเสาล้วนแล้วด้วยแก้วมณีและแก้วไพฑูรย์
ปูลาดด้วยแผ่นทองคำงามวิจิตรอย่างยิ่ง ท่านอยู่ กิน และดื่ม อยู่ในวิมานนี้
อนึ่ง ทวยเทพผู้มีเสียงอันไพเราะพากันมาบรรเลงพิณทิพย์ให้ท่านฟัง เบญจกามคุณมีรสอันเป็นทิพย์ ก็มีพร้อมอยู่ใน
วิมานนี้ อนึ่ง เหล่าเทพ นารีผู้ประดับประดาด้วยอาภรณ์ทองคำพากันมาฟ้อนรำอยู่ ท่านมีวรรณะงามเช่นนี้เพราะบุญกรรมอะไร
อิฐผลย่อมสำเร็จแก่ท่านในวิมานนี้ เพราะบุญกรรมอะไร
อนึ่ง โภคสมบัติอันเป็นที่ชอบใจทุกสิ่งทุก อย่าง ย่อมเกิดขึ้นแก่ท่านเพราะบุญกรรมอะไร ดูกรเทพเจ้าผู้มีอานุ ภาพมาก
อาตมาขอถามท่าน เมื่อท่านเป็นมนุษย์ ได้ทำบุญอะไรไว้ ท่านมีอานุภาพรุ่งเรืองและมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้เพราะบุญกรรมอะไร?"
เทพบุตรนั้นอันพระมหาโมคคัลลานเถระถามแล้ว มีความปลาบปลื้มใจ จึงพยากรณ์ปัญหาแห่งผลกรรมที่ถูกถามนั้นว่า
" ปูมี ๑๐ เท้า สำเร็จด้วยทองคำ ห้อมล้อมอยู่ที่ประตูวิมาน งามรุ่งเรือง เป็น การเตือนให้เกิดความระลึกว่า สมบัตินี้เรา
ได้เพราะการถวายแกงปูข้าพเจ้ามีวรรณะงามเช่นนี้เพราะบุญกรรมนั้น อิฐผลย่อมสำเร็จแก่ข้าพเจ้าในวิมานนี้เพราะบุญกรรมนั้น
อนึ่ง โภคสมบัติอันเป็นที่ชอบใจ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมเกิดแก่ข้าพเจ้าเพราะบุญกรรมนั้น ข้าพเจ้ามีอานุภาพ
รุ่งเรืองและมีรัศมีกายสว่างไสว ไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ เพราะบุญกรรมนั้น."
จบ กักกฏรสทายกวิมานที่ ๔.
อีก ๕ วิมานที่เหลือพึงให้พิสดารเหมือนกักกฏรสทายกวิมานนี้.
ทวารปาลกวิมาน : ว่าด้วยผลบุญที่ทำให้ไปเกิดในทวารปาลกวิมาน
พระมหาโมคคัลลานเถระได้ถามเทพบุตรตนหนึ่งว่า
"[๕๕]วิมานของท่านสูงมาก ทั้งยาวและกว้าง ๑๒ โยชน์ มียอด ๗๐๐ ยอด มีเสาล้วนแล้วด้วยแก้วมณี ฯลฯ
และมีรัศมีสว่างไสวไป ทั่วทุกทิศอย่างนี้ เพราะบุญกรรมอะไร?"
เทพบุตรนั้นอันพระมหาโมคคัลลานเถระถามแล้ว มีความปลาบปลื้มใจจึงพยากรณ์ปัญหาแห่งผลกรรมที่ถูกถามนั้นว่า
" พันปีทิพย์เป็นอายุของ ข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าได้ทำกุศลด้วยเหตุเพียงพูดอ่อนหวาน ประพฤติด้วยใจ บุคคลผู้ทำบุญ
ด้วยเหตุเพียงพูดอ่อนหวานและยังใจให้ เลื่อมใสเท่านี้ จักดำรงอยู่ในชั้นดาวดึงส์นี้สิ้นพันปี และพรั่งพร้อมไป ด้วยทิพยกามคุณ
ข้าพเจ้ามีวรรณะงามเช่นนี้เพราะบุญกรรมนั้น ฯลฯและมีรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ เพราะบุญกรรมนั้น."
จบ ทวารปาลกวิมานที่ ๕.
|