มิลินทปัญหา
ตอนที่ ๑
คำนมัสการพระรัตนตรัยของพระติปิฎกจุฬาภัยเถระ
พระจริยาอันเป็นประโยชน์แก่โลกทั้งปวง
ของพระสัพพัญณูพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณธรรมอันใหญ่พระองค์ใดมีอยู่
ข้าพเจ้าขอกราบไหว้สมเด็จพระบรมครูพระองค์นั้นซึ่งเป็นผู้มีอานุภาพอันเป็นอจินไตย
ผู้เป็นนายกอันเลิศของโลก
สมเด็จพระบรมโลกนาถศาสดาจารย์พระองค์ใด
เป็นผู้ประกอบด้วยวิชชาจรณะนำหมู่สัตว์ออกจากโลกด้วยธรรมะอันนั้น
ซึ่งเป็นธรรมะอันสูงสุด เป็นธรรมะอันสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบูชา
พระอริยสงฆ์ใดเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยคุณมีศีลคุณเป็นต้น
เป็นผู้ตั้งอยู่ในมรรค ๔ ผล ๔ ข้าพเจ้าขอกราบไหว้พระอริยสงฆ์นั้น
ผู้เป็นนาบุญอันเยี่ยมของโลก
บุญอันใดที่ข้าพเจ้าทำให้เกิดขึ้นด้วยการนอบน้อมพระรัตนตรับอย่างนี้
ด้วยเดชแห่งบุญอันนั้น จงให้อันตรายหายไปจากข้าพเจ้าในที่ทั้งปวง
จงให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ปราศจากอันตราย
มิลินทปกรณ์ คือคัมภีร์มิลินท์อันใดที่ประกอบด้วยปุจฉาพยากรณืมีอยู่
ขอท่านทั้งหลายจงฟังปัญหาทั้งหลายอันละเอียดลึกซึ้ง
ที่มีอยู่ในคัมภีร์มิลินทปัญหานั้น
เพราะการฟังมิลินทปัญหานั้น จักทำให้เกิดประโยชน์สุข
พุทธพยากรณ์ในวันปรินิพพาน
เมื่อครั้งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับเหล่าพระภิกษุสงฆ์เป็นอันมาก
เสด็จไปที่เมืองกุสินารามมหานคร
ในเวลาที่จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธองค์ทรงบรรทมบนบัลลังก์
หันพระเศียรไปทางทิศอุดร ในระหว่างนางรังทั้งคู่อันมีอยู่ในพระราชอุทยานของพวกมัลลกษัตริย์
แห่งเมืองกุสินารา จึงตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า
"ภิกษุทั้งหลาย เราขอเตือนเธอทั้งหลายให้รู้ว่า
สังขารทั้งปวงมีความสิ้นความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
เธอทั้งหลายจงทำกิจทั้งปวงด้วยความไม่ประมาทเถิด
ธรรมวินัยอันใด เราบัญญติไว้แล้ว
เมื่อเราล่วงลับไปแล้ว ธรรมวินัยนั้นแหละ
จะเป็นครูของพวกเธอ
เมื่อเราปรินิพพานแล้ว
พระมหากัสสปจะระลึกถึงถ้อยคำที่ไม่ดีของ
สุภัททภิกขุผู้บวชเมื่อแก่
แล้วจะกระทำสังคายนา เพื่อรักษาพระพุทธวจนะไว้มิให้คลาดเคลื่อน
ต่อนั้นไปอีก ๑๐๐ ปี
พระยสกากัณฑกบุตร ผู้จะย่ำยีซึ่งถ้อยคำของพวก
ภิกษุวัชชีบุตรติสสเถระ
ผู้จะลบล้างลัทธิของพวกเดียรถีย์ภายนอก
จักได้กระทำ สังคายนาครั้งที่ ๒
ต่อไปอีกได้ ๒๑๘ ปี
พระโมคคลีบุตรติสสเถระ
ผู้จะลบล้างลัทธิของพวกเดียรถีย์ภายนอก
จักได้กระทำ สังคายนาครั้งที่ ๓
ต่อมาภายหลัง พระมหินทเถระจะไปประดิษฐานศาสนาของเรา
ลงไว้ที่ตามพปัณณิทวีป (ลังกา)
ต่อจากเราปรินิพพานไปล่วงได้
๕๐๐ ปี จักมีพระราชาองค์หนึ่ง ชื่อว่า "มิลินท์"
ผู้ได้สร้างสมบุญบารมีไว้ดีแล้ว
จะทำให้เกิดปัญหาอันละเอียดขึ้น ด้วยอานุภาพปัญญาของตน
จะย่ำยีเสียซึ่งสมณพราหมณ์ทั้งหลายด้วยปัญหาอันละเอียด
จะมีภิกษุองค์หนึ่ง
ชื่อว่า "นาคเสน"
ไปทำลายถ้อยคำของ มิลินทราชา
ทำให้มิลินทราชาเกิดความร่าเริงยินดีด้วยอุปมาเป็นเอนก
จะทำศาสนาของเราให้หมดเสี้ยนหนามหลักตอ
จะทำศาสนาของเราให้ตั้งอยู่ตลอด
๕๐๐๐ พรรษา" ดังนี้
เพราะฉะนั้น จึงได้กล่าวไว้ว่า
ผู้ใดเกิดในตระกูลในเวลาล่วงได้
๕๐๐ ปีที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วนั้น
ผู้นั้นจักได้ชื่อว่า "มิลินทราชา" เสวยราชย์อยู่ใน
สาคลนคร อันเป็นเมืองอุดม มิลินทราชานั้น
จักได้ถามปัญหาต่อพระนาคเสน มีอุปมาเหมือนกับน้ำในแม่น้ำคงคาไหลไปสู่หมาสมุทรสาครฉะนั้น
พระองค์เป็นผู้มีถ้อยคำอันวิจิตร
ได้เสด็จไปหาพระนาคเสนในเวลาราตรี
มีคบเพลิงจุดสว่างไสว แล้วถามปัญหาล้วนแต่ละเอียดลึกซึ้ง
ขอท่านทั้งหลายจงตั้งใจไว้ด้วยดี
ฟังปัญหาอันละเอียดในคัมภีร์มิลินท์นั้นเถิดจะเกิดประโยชน์สุขแก่ท่านทั้งหลายตลอดกาลนาน
ดังนี้ พระนครของพระเจ้ามิลินท์ มีคำเล่าลือปรากฏมาว่า
"เมืองสาคลนครของชาวโยนก เป็นเมืองที่งดงามด้วยธรรมชาติอันน่ารื่นรมย์
อุทยานอันมีสระน้ำ สวนดอกไม้ผลไม้
ตกแต่งไว้อย่างดี มีหมู่นกมากมายอาศัยอยู่
ป้อมปราการก็แข็งแรง ปราศจากข้าศึกมารบกวน
ถนนหนทางภายในพระนครเกลื่อนกล่นไปด้วยช้างม้ารถอันคล่องแคล่วอีกทั้งหมู่สตรีล้วนมีรูปร่างสวยงาม
ต่างเที่ยวสัญจรไปมา ทั้งเป็นที่พักพาอาศัยของ
สมณพราหมณ์ พ่อค้าสามัญชนต่าง ๆ เมืองสาคลนครนั้น
สมบูรณ์ด้วยผ้าแก้วแหวนเงินทอง ยุ้งฉาง
ของกินของใช้มีตลาดร้านค้าเป็นที่ไปมาแห่งพ่อค้า
ข้างนอกเมืองก็บริบูรณ์ด้วยพืชข้าวกล้า
อุปมาเหมือนข้าวกล้าใน