ตอนที่
๒๓
ปัญหาที่
๙ถามเรื่องการทำบาปของผู้ไม่รู้
สมเด็จพระบรมกษัตริย์แห่งสาคลนครจอมบพิตรอดิศรตรัสถามอรรถปัญหาอีกว่า
" ข้าแต่พระนาคเสนผู้เจริญ
พระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้ว่า ผู้ไม่รู้ทำปาณาติบาต
ย่อมได้บาปมากกว่าผู้รู้ แต่กล่าวไว้ในพระวินัยบัญญัติว่า
ภิกษุผู้ไม่รู้ไม่ต้องอาบัติ ดังนี้ถ้าผู้ไม่รู้ทำปาณาติบาต
ได้บาปมากกว่าคำว่า " ภิกษุผู้ไม่รู้ไม่ต้องอาบัติ"
ก็ผิดไปถ้าคำว่า " ภิกษุผู้ไม่รู้ไม่ต้องอาบัติ
" นั้นถูกคำว่า " ผู้ไม่รู้ทำปาณาติบาตได้บาปมากกว่า
" ก็ผิดไป ปัญหาข้อนี้เป็นอุภโตโกฏิ
ข้ามไปได้ยากนะ พระคุณเจ้าข้า "พระนาคเสนจึงมีเถรวาจาว่า"
ขอถวายพระพร สมเด็จพระชินวรเจ้าได้ตรัสไว้จริงว่า
ผู้ไม่รู้ทำปาณาติบาต ย่อมได้บาปมากกว่า
และที่ทรงบัญญัติไว้ก็จริงว่าภิกษุผู้ไม่รู้ไม่ต้องอาบัติ
แต่ความหมายในข้อนี้มีอยู่ต่างหาก
คืออย่างไร...คืออาบัติแยกเป็นหลายอย่างเช่น
เป็น สัญญาวิโมกข์ คือพ้นเพราะรู้ เพราะเข้าใจก็มีและที่เป็น
นสัญญาวิโมกข์ คือไม่พ้นเพราะรู้ เพราะเข้าใจก็มี
ข้อที่ว่า ภิกษุผู้ไม่รู้ไม่ต้องอาบัตินั้น
หมายอาบัติที่เป็น สัญญาวิโมกข์ ขอถวายพระพร
"" ถูกดีแล้ว พระนาคเสน "ปัญหาที่ ๑๐ถามเรื่องความไม่ทรงห่วงพระภิกษุสงฆ์
" ข้าแต่พระนาคเสนผู้ปรีชา
สมเด็จพระบรมโลกนาถศาสดาจารย์ มีพระพุทธฏีกาโปรดประทานไว้ว่า"
ดูก่อนอานนท์ พระตถาคตเจ้าย่อมไม่คิดว่า
เราปกครองภิกษุสงฆ์ หรือภิกษุสงฆ์มุ่งเฉพาะเรา
" ดังนี้แต่เมื่อจะทรงแสดงสภาวคุณของ
พระเมตไตรยโพธิสัตว์เจ้า ก็ได้ตรัสไว้ว่า"
พระศรีอาริยเมตไตรยนั้น จักบริหารภิกษุสงฆ์ไม่ใช่พันเดียว
เหมือนเราบริหารพระภิกษุสงฆ์ไม่ใช่ร้อยเดียวอยู่ในบัดนี้"
ดังนี้ข้าแต่พระนาคเสน ถ้าพระตถาคตเจ้าตรัสแก่พระอานนท์ว่า
" เราไม่ได้คิดว่าเราบริหารพระภิกษุสงฆ์
หรือว่าพระภิกษุสงฆ์มุ่งเฉพาะต่อเรา"
นั้นถูกคำที่ว่า " พระเมตไตรยโพธิสัตว์เจ้า
จะบริหารพระภิกษุสงฆ์ไม่ใช่พันเดียว
เหมือนเราบริหารภิกษุสงฆ์ไม่ใช่ร้อยเดียวอยู่ในบัดนี้ก็ผิดไป"ถ้าคำนี้ถูก
คำที่ว่า " พระพุทธเจ้าไม่ได้คิดว่า
เราบริหารภิกษุสงฆ์" ก็ผิดไป ปัญหานี้เป็นอุภโตโกฏิ
โปรดวิสัชนาให้สิ้นสงสัยด้วยเถิด"พระนาคเสนถวายพระพรว่า"
ข้อความทั้งสองข้อนั้น จริงทั้งนั้น ถูกทั้งนั้น
แต่ว่าในปัญหาข้อนี้ ข้อหนึ่งเป็นคำมีเศษอีกข้อหนึ่งเป็นคำไม่มีเศษ
ไม่มีเหลือขอถวายพระพร พระตถาคตเจ้าไม่ใช่ผู้ติดตามบริษัท
ส่วนบริษัทก็ไม่ได้ติดตามพระตถาคตเจ้า
คำว่า "เรา...ของเรา" เป็นคำสมมุติ ไม่ใช่คำปรมัตถ์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ได้ปราศจากความรัก
ความใยดีเสียแล้ว การถือว่าเป็น " ของเรา
" ย่อมไม่มีแก่พระองค์ แต่มีการอาศัยเนื่อง