แกะดำ

    เคยได้ยินคำพูดนี้มั้ยคะ "เกลียดสิ่งไหน ก็มักจะเจอสิ่งนั้น" แล้วพอได้ยินแล้วเชื่อบ้างมั้ยคะ อยากจะบอกว่า เมื่อก่อนก็ไม่เชื่อคะ เพราะคำพูดข้างต้นมักจะมุ่งเน้นไปเรื่องเนื้อคู่ และเราก็ไม่มีสเป็คชายในฝันซะด้วย เลยไม่สนใจ แต่....เจ้าคำพูดประโยคนี้ก็ได้กลับมาหลอกหลอนชีวิตอันสงบสุขของเราเข้าจนได้

     เรื่องของเรื่องก็คือ เราเป็นเด็กที่ค่อนข้างโง่เรื่องภาษาอังกฤษมาก แถมเป็นแกะดำของตระกูลที่ริอ่านตก วิชาภาษาอังกฤษ ในขณะที่พ่อนั้น ท็อปภาษาอังกฤษมาตลอด แถมป้าก็เป็นหัวหน้าหมวดวิชาภาษาอังกฤษของ โรงเรียนที่เรียนอยู่อีก คิดดูซิคะเมื่อหนูแนนตกภาษาอังกฤษ ป้าจะกรี๊ดซักแค่ไหน พ่อจะช็อคซักปานใด แหม....ก็คน มันไม่ชอบนี่นา เกลียด เกลี๊ยด เกลียด ไม่อยากเรียน ถึงเรียนก็ไม่รู้เรื่อง พอเรียนไม่รู้เรื่องก็ตกมันซะเลย แต่คุณป้าก็ไม่ เคยละความพยายาม ยังเจียดเวลาอันแสนจะน้อยนิดมาติวให้เราอีก แต่ผลที่ได้เหรอคะ เราก็ยังตกอยู่เหมือนเดิม (แหะ แหะ)

     แถมเทอมต่อมายังสร้างชื่อเสียงแก่วงศ์ตระกูลเพิ่มขึ้นไปอีก ด้วยการตกเลขพ่วงเข้าไปอีก คราวนี้แม่ของเราก็เริ่มกรี๊ดบ้างแล้ว เพราะแม่เราก็ท็อป เลขมาตลอดเหมือนกัน ตามด้วยพี่สาวเราที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน แถมยังเป็นเด็กห้อง king และมีผลการเรียนเป็นเลิศ ที่สำคัญมีตำแหน่งท็อปเลขอยู่เสมอ วันประกาศผลสอบก็แทบจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี เมื่อน้องสาวตัวดี มายืน ตะโกนบอกผลสอบให้พี่ได้ชื่นใจว่า "เนี่ย เทอมนี้ตกตั้ง 2 ตัวแหน่ะ" โฮ่ โฮ่ โฮ่ ภูมิใจ๊ ภูมิใจ กับความโง่ของตัวเองเนี่ย      

     ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าได้สร้างความหนักอกหนักใจให้แก่วงศ์ตระกูลมากขนาดไหน หลังจากนั้นเราก็ถูกจัดตารางให้เรียนพิเศษทั้ง เลข และภาษาอังกฤษ เรียนทุกวัน ทุกวัน ยิ่งเกลียดยิ่งต้องเรียน สุดท้ายก็ได้ผลคะ เพราะเทอมต่อๆ มาเกรดก็เปลี่ยนจาก 0 มาเป็น 2แต่ก็ไม่เพิ่มไปมากกว่านั้น (ความสามารถคนเรามันมีจำกัดนะตัวเอง)

     เกรดเทอมแรกของชีวิตมหาลัยออกมาเราก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เพราะไม่ตกภาษาอังกฤษแล้วหล่ะ พ่อแม่ก็ หายกลุ้ม ป้าก็เริ่มยิ้มออก แต่...นรกมีจริงคะท่านผู้อ่าน เพราะหนูแนนก็ได้นำความหายนะมาสู่วงศ์ตระกูลอีกครั้งด้วย การตกวิชาภาษา­ี่ปุ่นงานนี้คงไม่ต้องเดาตอนต่อไปให้เหนื่อยเลย เพราะเราก็ถูกส่งให้ไปเรียนพิเศษวิชาภาษา­ี่ปุ่นแทนเลขตามระเบียบ ก็เหมือนเดิมคะ เพราะเกรดก็พุ่งสูงสุดที่เลข 2อยู่ดี แต่เราก็ไม่ได้เดือดร้อนกับผลการเรียน ของเราเล้ย ยังคงลอยหน้าลอยตาทำกิจกรรมต่างๆ สารพัด สนุกเฮฮากับเพื่อนๆ ไปวันวัน
     นั่นแหล่ะถึงเริ่มรู้สึกตัวว่าต้องขยัน และเพิ่งรู้จักคำว่า "อ่านหนังสือสอบ" โชคยังดีที่เซลล์ สมองอัจฉริยะจากพ่อแม่ยังมีติดตัวเรามานิดหน่อย ทำให้เวลา 2 เดือนในการเตรียมตัว สอบ ของเราไม่สูญเปล่า เพราะผลการสอบของเราก็ทำให้ตระกูลเทียมÇѧ¡ÒÇóìยิ้มออกจริงๆ ซะที เมื่อแกะดำตัวนี้เอ็นฯติดคณะคอมธุรกิจมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เราก็ภูมิใจมากเลยนะจะบอกให้

และแกะดำตัวนี้ ก็เริ่มฟอกสีตัวเองให้จากลงเป็นเกือบขาวเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย เพราะเราก็ตั้งใจเรียนและผล การเรียนก็อยู่ในระดับที่ดีมาโดยตลอด......ดีใจจริงๆ คะ