ศิลปะรีสร้างอาชีพ
หนังสือเล่มเล็ก
ศิลปะชวนชม
ศิลปะคอมพิวเตอร์
บันทึกการเดินทาง

ตุ๊กตาชาววัง

ตุ๊กตาดินเผารูปคนขนาดจิ๋ว เนื้อตัวขาวละเอียด วาดลวดลายเสื้อผ้า ผมเผ้าด้วยสีสันอันสดใส แต่ละตัวล้วนแตกต่างกันด้วยกิริยาท่าทางอันแช่มช้อยงดงามเลียนแบบอิริยาบทของคนจริงๆ ตุ๊กตาเหล่านี้รู้จักกันดีในชื่อว่า  " ตุ๊กตาชาววัง"งานศิลป์แต่เก่าก่อนจากฝีมือช่างปั้นชั้นครูที่สันนิษฐานกันว่าน่าจะมีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในสมัยนั้นใช้เป็นของเล่นของพระเจ้าลูกเธอ และพระเจ้าลูกยาเธอ ทั้งหลาย
 
แต่เดิมวิชาความรู้ในงานปั้นตุ๊กตามักจะได้รับการถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น หากแต่เมื่อกาลเวลาล่วงเลยไป  ผู้ที่จะสืบทอดงานศิลป์แขนงนี้กลับยิ่งลดน้อยลงทุกที ด้วยเหตุนี้เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงทรงมีพระราชดำริที่จะฟื้นฟูและอนุรักษ์ศิลปะการปั้นตุ๊กตาชาววังให้คงอยู่สืบต่อไป 
                       
ดังนั้นในปลายปี พุทธศักราช 2518 เมื่อครั้งที่พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ในคราวนั้นชาวบ้านต่างพากันกราบทูลถึงความทุกข์ยากอันเนื่องมาจากการเพาะปลูกที่ไม่ได้ผลติดต่อกันมานานนับสิบๆ ปีพระองค์จึงมีพระราชดำริให้ชาวบ้านตำบลบางเสด็จฝึกการปั้น ตุ๊กตาชาววังขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมและ อนุรักษ์งานศิลป์แขนงนี้ไว้อีกทั้งยังใช้เป็นอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้จากการทำไร่ทำนาได้อีก ด้วย โดยส่ง อาจารย์จุลทัศน์  พยาฆรานนท์ จากวิทยาลัยเพราะช่าง มาทำการสอนให้แก่ชาวบ้านเกือบ 70คนในตำบลบางเสด็จเป็นเวลานานหลายปี จวบจนเมื่อมีความชำนาญในการปั้นดีแล้ว จึงให้ทำออกจำหน่ายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กัับครอบครัวอีกทางหนึ่ง

ในขณะนั้น ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังอยู่ในช่วงแรกของการก่อตั้ง จึงรับสั่งให้คุณจริยา  สงวนชาติ หนึ่งในชาวบ้านจากตำบลบางเสด็จ ผู้มีฝีมือในการปั้นอันโดดเด่น  มาฝึกสอนการปั้นตุ๊กตาชาววังให้แก่ชาวบ้านจากจังหวัดต่างๆ ที่มาฝึกอบรมงานที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ  ประกอบกับที่บางไทรเองก็มีดินเหนียวซึ่งมีคุณภาพดี เหมาะแก่การทำตุ๊กตาชาววัง
                      
เมื่อทำผลงานออกมา อาจารย์ก็จะคัดเลือกชิ้นงานที่ได้คุณภาพนำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย "ซึ่งพระองค์ท่านก็จะทรงรับซื้อผลงานทั้งหมดโดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ตลอด...ต่อมาเมื่อปี 2525 พระองค์ท่านก็รับสั่งให้ดิฉันมาช่วยสอนชาวไร่ชาวนาที่นี้เพระการที่เขาได้มาเรียนตรงนี้จะทำให้มีวิชาความรู้กลับไปทำเป็นอาชีพเสริมให้กับครอบครัวได้มีรายได้เพิ่ม นักเรียนที่เรียนแล้วถ้ามีฝีีีมือ ก็สามารถไปฝากขายที่ศาลาพระมิ่งขวัญซึ่งเป็นทั้งศูนย์จำหน่ายและจัดแสดงผลงานของนักเรียนในศูนย์ฯ พระองค์ท่านจะรับสั่งเสมอว่าให้ทุกคนพยายามพัฒนาตนเองพัฒนาฝีมืออยู่เสมอผลงานแต่ละชิ้นต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด"

เกือบ 20 ปีที่ผ่านมา มีนักเรียนจากศูนย์ที่สำเร็จออกไปแล้วมากกว่า 60 รุ่น ถึงแม้บางคนที่จบไป จะไม่ได้นำความรู้ตรงนี้ไปใช้โดยตรง แต่ก็ยังมีบางคนที่นำวิชากลับไปสอนผู้คนในหมู่บ้านตนเอง ถ้ามีงานดีๆ ก็นำกลับมาฝากขายที่ศูนย์  ถือเป็น การสานต่อพระราชปณิธานของพระองค์ท่านที่มุ่งหวังจะให้ราษฎรมีอาชีพเสริมและยังสามารถอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมแต่เก่าก่อนไว้ได้อีกด้วย

ปัจจุบันการปั้นตุ๊กตาชาววังที่สอนอยู่ในศูนย์ศิลปาชีพบางไทรมีอยู่สองประเภทคือ ตุ๊กตาชาววัง และตุ๊กตาชาวบ้าน ทั้งสองชนิดทำจากดินเหนียวคุณภาพดีจากบางไทรทั้งสิ้น  แตกต่างกันเพียงรายละเอียดในการปั้นเท่านั้น  หากเป็นตุ๊กตาชาววังจะปั้นเพียงโครงร่าง ครั้นเมื่อนำไปเผาแล้วจึงนำมาลงสีเสื้อผ้าและวาดหน้าตาให้สวยงาม  ส่วนตุ๊กตาชาวบ้านนั้นจะแกะสลักหน้าตาและเสื้อผ้าไปเลย เมื่อนำไปเผาแล้วส่วนใหญ่จะไม่ได้ทาสีอีก

เสน่ห์ของตุ๊กตาชาววังและตุ๊กตาชาวบ้านนั้น อยู่ที่ฝีมือการประดิษฐ์ที่ทำด้วยมือล้วนๆ  ตุ๊กตาแต่ละตัวจึงมีความประณีตงดงาม  สามารถจำลองทุกอิริยาบถของคนเรามาได้ทุกท่วงท่า แสดงให้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยเราในสมัยก่อน  ประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ รวมถึงการละเล่นของเด็กไทยที่นับวันมีแต่จะเลือนหายไป

ท่านผู้สนใจสามารถติดต่อขอข้อมูลได้ที่ : 035-366252-4


ขอขอบคุณ : นิตยสารหญิงไทย

 

 

 
Geocities.com / Idea4thai 2005