สูตรการคำนวณดัชนีชนิดไม่ถ่วงน้ำหนัก
เช่น
ดัชนีส่วนใหญ่ในกลุ่ม
THAI INDEX
Ic = ดัชนี ณ.วันปัจจุบัน
Ip = ดัชนี ณ.วันก่อนหน้า
P1 = ราคาปิด ณ.วันปัจจุบันของหุ้นตัวที่
1
C1 = ราคาปิด ณ.วันฐานของหุ้นตัวที่
1
P2 = ราคาปิด ณ.วันปัจจุบันของหุ้นตัวที่
2
C2 = ราคาปิด ณ.วันฐานของหุ้นตัวที่
2
Pn = ราคาปิด ณ.วันปัจจุบันของหุ้นตัวที่
n
Cn = ราคาปิด ณ.วันฐานของหุ้นตัวที่
n
N =
จำนวนหุ้นที่ใช้ในการคำนวณดัชนี
วิธีนี้จะทำให้หุ้นที่ใช้ในการคำนวณ
มีน้ำหนักที่เท่ากัน
เป็นดัชนีหุ้นที่ไม่มีความผันผวน
หรือความผันผวนเท่ากับ
0 (ศูนย์)
การปรับฐาน
คำอธิบายนี้เป็นเรื่องของความสะดวกส่วนตัว
ดัชนีถูกคำนวณหลังการปิดตลาดไปแล้ว
ไม่ใช่เป็นแบบ
real time
ใช้ constant
เป็นตัวปรับฐาน
เพื่อไม่ให้ตัวเลขดัชนีกระโดดขึ้นและลงอย่างผิดปกติ
1)
เมื่อมีการรับหลักทรัพย์ใหม่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
จะทำการปรับฐานในวันแรกที่หลักทรัพย์นั้นมีการซื้อขาย
เพื่อเป็นฐานสำหรับวันต่อไป
2)
เมื่อมีการเพิกถอนหลักทรัพย์ออกจากตลาดฯ จะทำการปรับฐานในวันสุดท้าย
ที่หลักทรัพย์นั้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
หรือหลักทรัพย์รับอนุญาต
เพื่อเป็นฐานสำหรับวันต่อไป
3)
เมื่อบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทรับอนุญาตเพิ่มทุน
ซึ่งการเพิ่มทุนหากจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่
- ผู้ถื#3629;หุ้นเดิม จะทำการปรับฐานในวันเปิดสมุดจดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการจองซื้อหุ้น(XR)
- บุคคล#3629;ื่นๆ
ได้แก่ประชาชนทั่วไป
กรรมการพนักงาน
จะทำการปรับฐานในวันที่หลักทรัพย์ที่เพิ่มทุนเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
ถ้าในวันดังกล่าวของทั้งสองกรณี
ไม่มีการซื้อขายหลักทรัพย์นั้นๆ
ให้เลื่อนไปปรับในวันที่เริ่มมีการซื้อขาย
4) เมื่อบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทรับอนุญาตลดทุน
จะทำการปรับฐานในวันสุดท้ายที่หลักทรัพย์จำนวนนั้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนหรือหลักทรัพย์รับอนุญาต
เพื่อเป็นฐานสำหรับวันต่อไป
5)เมื่อบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทรับอนุญาตควบกิจการกับบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์
จะทำการปรับฐานในวันที่หลักทรัพย์ที่นำมาจดทะเบียนเพิ่มเติมจากการควบกิจการมีการซื้อขาย
อนึ่ง ในกรณีการแตกหุ้น
และกรณีที่บริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทรับอนุญาตควบกิจการ
กับบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทรับอนุญาตด้วยกัน
จะมีการปรับฐานด้วย
เนื่องจากในกรณีในการแยกหุ้นนั้น
จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น
ราคาหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงลดลง
สำหรับกรณีการควบกิจการของบริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทรับอนุญาตด้วยกัน
ที่ทำให้ราคาตลาดเปลี่ยนแปลงไป
ก็จะมีการปรับฐานเช่นกัน