ผู้กินคูถ

       ภิกษุ  ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ดหยาบคาย ต่อการบรรลุ พระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า.

       ภิกษุ  ท.!  เปรียบเหมือนตัวกังสฬกะ  ซึ่งกินคูถเป็นอาหาร อิ่มแล้วด้วยคูถ ท้องป่องด้วยคูถ; อนึ่ง  กองคูถใหญ่  ก็มีอยู่ตรงหน้าของมันเพราะเหตุนั้นมันจึงนึกดูหมิ่นกังสฬกะตัวอื่นว่า "เราผู้มีคูถเป็น ภักษา  อิ่มแล้วด้วยคูถ ท้องป่องด้วยคูถ. อนึ่ง กองคูถใหญ่ตรงหน้าของเราก็ยังมี. กังสฬกะตัวอื่น มีบุญ น้อย มีเกียรติน้อย ไม่รวยลาภด้วยคูถ" ดังนี้.

       ภิกษุ ท.! ภิกษุบางรูปในศาสนานี้ก็เหมือนกัน, เป็นผู้ถูกลาภสักการะและเสียงเยินยอครอบงำเอา แล้ว  มีจิตติดแน่นอยู่ในสิ่งนั้น  ๆ. ในเวลาเช้าครองจีวร ถือบาตร เข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน หรือใน เมือง. เธอได้ฉันตามพอใจจนอิ่มแล้วในที่นั้นด้วย.  ทั้งเขาก็นิมนต์เพื่อฉันในวันพรุ่งนี้ด้วย. ของบิณฑบาต ก็เต็มบาตรกลับมาด้วย.   ภิกษุนี้  ครั้นกลับมาถึงวัดแล้ว  ก็พูดพล่าม  (เหมือนตัวกังสฬกะ)  ในท่าม กลางหมู่เพื่อนภิกษุว่า "เราได้ฉันตามพอใจจนอิ่มแล้ว ทั้งเขายังนิมนต์เพื่อฉันในวันพรุ่งนี้อีก, ของบิณฑบาต ของเรานี้ก็เต็มบาตรกลับมา,  เรารวยลาภด้วยจีวร  บิณฑบาต  เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริกขาร ส่วนภิกษุอื่น ๆ เหล่านี้ มีบุญน้อยมีอภินิหารน้อย จึงไม่รวยลาภด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริกขาร" ดังนี้

       ภิกษุ ท.! ภิกษุนั้นถูกลาภสักการะและเสียงเยินยอครอบงำเอาแล้ว มีจิตติดแน่นอยู่ในสิ่งนั้น ๆ ย่อมนึกดูหมิ่นภิกษุเหล่าอื่น ผู้มีศีลเป็นที่รัก. ภิกษุ ท.! การได้ลาภของโมฆบุรุษชนิดนั้น ย่อมเป็นไป เพื่อทุกข์ ไร้ประโยชน์เกื้อกูล สิ้นกาลนาน.

       ภิกษุ ท.! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ดหยาบคาย ต่อการบรรลุ พระนิพพานอันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ  ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ด้วยอาการอย่างนี้. เพราะฉะนั้น ใน เรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลายพึงสำเหนียกใจไว้ดังนี้ว่า  "เราทั้งหลาย  จักไม่เยื่อใยในลาภสักการะและ เสียงเยินยอที่เกิดขึ้น.  อนึ่ง ลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องไม่มาห่อหุ้มอยู่ที่จิตของเรา" ภิกษุ ท.! พวกเธอทั้งหลายพึงสำเหนียกใจไว้ อย่างนี้แล.

๑. บาลี พระพุทธภาษิต นิทาน. สํ. ๑๖/๒๖๙/๖๔๗-๘.
๒. ตัวกังสฬกะ เป็นสัตว์กินคูถชนิดหนึ่ง ซึ่งอรรถกถากล่าวว่า เวลากินคูถนั้น มันเอาสองเท้าหลัง ยันแผ่นดิน แล้วยกสองเท้าหน้าตั้งไว้บนกองคูถ แล้วแหงนหน้ากินไปพลาง.