ลมเวรัมภา๑
ภิกษุ ท.! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ดหยาบคาย ต่อการบรรลุ พระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า.
ภิกษุ ท.! ลมชื่อว่า เวรัมภา๒ พัดอยู่แต่ในอากาศเบื้องบน. นกตัวใดบินเหินลมขึ้นไปถึงที่นั้น ลมเวรัมภาก็ซัดเอานกตัวนั้นให้ลอยปลิวไป. เมื่อนกถูกลมเวรัมภาซัดเอาแล้ว เท้าของมันขาดไปทางหนึ่ง ปีกของมันขาดไปทางหนึ่ง ศีรษะของมันขาดไปทางหนึ่ง ตัวของมันขาดไปทางหนึ่ง.
ภิกษุ ท.! ภิกษุบางรูปในศาสนานี้ก็เหมือนกัน : เธอถูกลาภสักการะและเสียงเยินยอครอบงำเอา แล้ว มีจิตติดแน่นอยู่ในสิ่งนั้น ๆ. ในเวลาเช้าครองจีวร ถือบาตรเข้าไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน หรือในเมือง , ไม่รักษากาย, ไม่รักษาวาจา, ไม่รักษาจิต, ไม่กำหนดสติ, ไม่สำรวมอินทรย์ทั้งหลาย; ภิกษุนั้น เห็น มาตุคามในที่นั้น ๆ ที่นุ่งชั่วห่มชั่ว, ครั้นเห็นมาตุคามผู้นุ่งชั่วห่มชั่วแล้ว ความกำหนัดก็เสียบแทงจิตของ เธอ. เธอนั้น ครั้นจิตถูกความกำหนัดเสียบแทงแล้ว ก็บอกคืนสิกขา (สึก) กลับคืนไปสู่เพศต่ำแห่งคฤหัสถ์. ภิกษุพวกหนึ่ง เอาจีวรของเธอไป ภิกษุพวกหนึ่ง เอาบาตรของเธอไป ภิกษุพวกหนึ่ง เอาผ้านิสีทนะของ เธอไป ภิกษุพวกหนึ่ง เอากล่องเข็มของเธอไป เช่นเดียวกับอวัยวะของนก ซึ่งถูกลมเวรัมภาซัดเสีย กระจัดกระจายแล้ว ฉะนั้น.
ภิกษุ ท.! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ดหยาบคาย ต่อการบรรลุ นิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ด้วยอาการอย่างนี้. เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้ดังนี้ว่า "เราทั้งหลายจักไม่เยื่อใยในลาภสักการะและเสียงเยินยอ ที่เกิดขึ้น. อนึ่ง ลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องไม่มาห่อหุ้มอยู่ที่จิตของเรา". ภิกษุ ท.! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้ แล.
๑. บาลี พระพุทธภาษิต นิทาน. สํ. ๑๖/๒๗๑/๕๕๕-๖.
๒. ลมเวรัมภา น่าจะได้แก่ลมที่เรียกกันตามภาษาชาวบ้านว่า ลมกรดนั่นเอง. ตามอรรถก ถากล่าวว่า ถ้ามีคนขึ้นไปบนท้องฟ้า ขนาดที่สูงพอมองเห็นทวีปทั้งสี่ เล็กประมาณเท่าใบบัว ระยะสูงประ มาณนี้แหละ เป็นระยะที่ลมเวรัมภาพัด. ยังมีนกชนิดนึ่งที่บินไปถึงระยะสูงขนาดนั้น เรียกชื่อว่า " วาตสกุณ-นกชอบบินเหินลม" และชอบเที่ยวร้องในเวลาฝนตกแล้วใหม่ ๆ แล้วบินไปในท้องฟ้าสูงขนาดมี ลมเวรรัมภาพัด จึงถูกซัดเอาเท้า ปีก ศีรษะ และตัว ขาดไปคนละทิศละทาง.