ตั้งหน้าทำก็แล้วกัน

       ภิกษุ ท.! กิจของคฤหบดี ชาวนาที่เขาจะต้องรีบทำมีสามอย่างเหล่านี้. สามอย่างอะไรบ้างเล่า? สามอย่างคือ  คฤหบดีชาวนารีบ  ๆ ไถคราด พื้นที่นาให้ดีเสียก่อน, ครั้นแล้ว ก็รีบ ๆ ปลูกพืช, ครั้น แล้ว  ก็รีบ  ๆ  ไขน้ำเข้าบ้าง  ไขน้ำออกบ้าง. ภิกษุ ท.! กิจของคฤหบดีชาวนาที่เจาจะต้องรีบทำมี สามอย่างเหล่านี้แล; แต่ว่าคฤหบดีชาวนานั้น ไม่มีฤทธิ์หรืออานุภาพที่จะบันดาลว่า "ข้าของเราจงงอกใน วันนี้,  ต้องท้องพรุ่งนี้,  สุกมะรืนนี้" ดังนี้ได้เลย, ที่ถูก ย่อมมีเวลาที่ข้าวนั้น เปลี่ยนแปรสภาพไปตาม ฤดูกาล ย่อมจะงอกบ้าง ตั้งท้องบ้าง สุกบ้าง;

       ภิกษุ  ท.!  ฉันใดก็ฉันนั้น : กิจของภิกษุที่เธอจะต้องรับทำมีสามอย่างเหล่านี้. สามอย่างอะไร บ้างเล่า?  สามอย่างคือ  การสมาทานการปฏิบัติในศีลอันยิ่ง, การสมาทานการปฏิบัติในจิตอันยิ่ง และ การสมาทานการปฏิบัติในปัญญาอันยิ่ง  ภิกษุ  ท.! กิจของภิกษุที่เธอจะต้องรีบทำมีสามอย่างเหล่านี้แล; แต่ว่าภิกษุนั้น  ก็ไม่มีฤทธิ์หรืออานุภาพที่จะบันดาลว่า "จิตของเราจงหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย เพราะ ไม่มีอุปาทานในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ หรือมะรืนนี้" ดังนี้ได้เลย, ที่ถูก ยอ่มมีเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเมื่อภิกษุนั้น ปฏิบัติไปแม้ในศีลอันยิ่ง, ปฏิบัติไปแม้ในจิตอันยิ่ง และปฏิบัติไปแม้ในปัญญาอันยิ่ง จิตก็จะหลุดพ้นจากอาสวะ ทั้งหลายเพราะไม่มีอุปาทาน ได้เอง

       ภิกษุ ท.! เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้ว่า "ความพอใจของเรา จักต้องเข้มงวดพอ ในการสมาทานการปฏิบัติในศีลอันยิ่ง, ในการสมาทานการปฏิบัติในจิตอันยิ่ง และใน การสมาทานการปฏิบัติในปัญญาอันยิ่ง" ดังนี้ ภิกษุ ท.! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนีจกใจไว้ อย่างนี้แล.

๑. บาลี พระพุทธภาษิต ติก. อํ. ๒๐/๓๐๙/๕๓๒.