การเป็นอยู่ที่ไม่เสื่อม
แบบที่หนึ่ง

       ภิกษุ ท.! ภิกษุทั้งหลาย จักหมั่นประชุมกันเนืองนิตย์ ประชุมกันให้มากพอ อยู่เพียงใด. ความเจริญก็เป็นสิ่งที่ภิกษุทั้งหลายหวังได้ ไม่มีความเสื่อมเลย อยู่เพียงนั้น.

       ภิกษุ  ท.!  ภิกษุทั้งหลาย จักพร้อมเพียงกันเข้าประชุม จักพร้อมเพรียงกันเลิกประชุม จักพร้อม เพียงกันทำกิจที่สงฆ์จะต้องทำ  อยู่เพียงใด, ความเจริญก้เป็นสิ่งที่ภิกษุทั้งหลายหวังได้ ไม่มีความเสื่อม เลย อยู่เพียงนั้น.

       ภิกษุ  ท.!  ภิกษุทั้งหลาย จักไม่บัญญัติสิ่งที่ไม่เคยบัญญัติ จักไม่เพิกถอนสิ่งที่บัญญัติไว้แล้ว จัก สมาทานศึกษาในสิกขาบทที่บัญญัติไว้แล้วอย่างเคร่งครัด อยู่เพียงใด, ความเจริญก็เป็นสิ่งที่ภิกษุทั้งหลาย หวังได้ ไม่มีควาเสื่อมเลย อยู่เพียงนั้น.

       ภิกษุ  ท.!  ภิกษุทั้งหลาย  จักสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ภิกษุพวกที่เป็นเถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน  เป็นบิดาสงฆ์  เป็นผู้นำสงฆ์ และตนจักต้องเข้าใจว่าต้องเชื่อฟังถ้อยคำของท่านเหล่านั้น อยู่ เพียงใด, ความเจริญก็เป็นสิ่งที่ภิกษุทั้งหลายหวังได้ ไม่มีความเสื่อมเลย อยู่เพียงนั้น.

       ภิกษุ  ท.!  ภิกษุทั้งหลาย จักไม่ลุอำนาจแก่ตัณหา ซึ่งเป็นตัวเหตุก่อให้เกิดภพใหม่ ที่เกิดขึ้นแล้ว อยู่เพียงใด, ความเจริญก็เป็นสิ่งที่ภิกษุทั้วหลายหวังได้ ไม่มีความเสื่อมเลย อยู่เพียงนั้น.

       ภิกษุ ท.! ภิกษุทั้งหลาย จักมีใจจดจ่อในเสนาสนะป่า อยู่เพียงใด, ความเจริญก็เป็นสิ่งที่ภิกษุทั้ง หลายหวังได้ ไม่มีความเสื่อมเลย อยู่เพียงนั้น. ภิกษุ ท.! ภิกษุทั้งหลาย จักเข้าไปตั้งสติไว้อย่างมั่นเหมาะหว่า "ทำไฉนหนอ ขอเพื่อนผู้ประพฤติ พรหมจรรย์ด้วยกัน ซึ่งมีศีลเป็นที่รัก ยังไม่มาขอให้มา, ที่มาแล้ว ขอให้อยู่เป็นสุขเถิด" ดังนี้ อยู่เพียงใด, ความเจริญก็เป็นสิ่งที่ภิกษุทั้งหลายหวังได้ ไม่มีความเสื่อมเลย อยู่เพียงนั้น

       ภิกษุ  ท.!  ธรรมอันไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อมเจ็ดประการเหล่านี้ ยังคงดำรงอยู่ได้ในภิกษุทั้ง หลาย และพวกเธอก็ยังบเห็นพ้องต้องกันในธรรมเจ็ดประการเหล่านี้ อยู่เพียงใด. ความเจริญก็เป็นสิ่ง ที่ภิกษุทั้งหลายหวังได้ ไม่มีความเสื่อมเลย อยู่เพียงนั้น.

บาลี พระพุทธภาษิต สตฺตก. อํ. ๒๓/๒๑/๒๑.