ประวัติของผีเสื้อในประเทศไทย
ผีเสื้อ
เป็นสัตว์ในกลุ่มแมลง (Insect) ที่เรารู้จักกันดี แต่คำว่า "ผีเสื้อ"
ในภาษาไทย จะหมายถึงทั้งผีเสื้อกลางวัน (Butterflies) และผีเสื้อกลางคืน (Moths)ซึ่งนักอนุกรมวิธานได้จัดแยกผีเสื้อทั้งสองประเภทนี้ออกเป็นคนละพวก
ความแตกต่างระหว่าง ผีเสื้อกลางวัน และผีเสื้อกลางคืน ได้อธิบายไว้ในหน้า ผีเสื้อกลางวัน-กลางคืน
ของเว็บไซต์นี้แล้ว
เนื่องจากผีเสื้อกลางวัน
มักมีสีสันที่สวยงามกว่า วิเคราะห์ชนิดได้ง่าย ส่วนใหญ่ไม่กินพืชเศรษฐกิจที่เราเพาะปลูก
และเป็นที่สนใจของผู้รักผีเสื้อทั่วไป ดังนั้นในเว็บไซต์นี้ จึงมีเรื่องราว และรูปเกี่ยวกับผีเสื้อกลางวันเป็นส่วนใหญ่
และคำว่า ผีเสื้อ ที่ใช้ในเว็บไซต์นี้ ถ้าไม่ได้ระบุว่าเป็นผีเสื้อกลางคืน จะหมายถึง
"ผีเสื้อกลางวัน (Butterflies)" เท่านั้น อย่างไรก็ตาม
ขณะนี้ได้เพิ่มเติมรูปและเรื่องราวเกี่ยวกับแมลงบางชนิดที่น่าสนใจ และผีเสื้อกลางคืนด้วย
เพื่อให้เนื้อหาสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ในประเทศไทยมีผีเสื้อประมาณ 1,200 ชนิด จากจำนวนผีเสื้อในโลกนี้ทั้งหมดซึ่งมีประมาณ 20,000 ชนิด ส่วนกลุ่มผีเสื้อกลางคืน คาดว่ามีมากกว่า 12,000 ชนิด จากทั้งหมด 120,000 ชนิด ประเทศในบริเวณเขตร้อนจะมีจำนวนชนิดผีเสื้อมากกว่าประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะประเทศในทวีปเอเซีย(ตอนใต้) เช่น ไทย พม่า ลาว เขมร เวียตนาม และมาเลเซีย ซึ่งมีอากาศร้อน ชุ่มชื้น มีพันธุ์ไม้ซึ่งเป็นพืชอาหารของแมลงหลากหลายชนิด เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของผีเสื้อ และแมลงชนิดต่างๆมากมาย แต่ประเทศในเขตอบอุ่น หรือเขตหนาว ที่มีสภาพแวดล้อมแตกต่างจากของเรา เช่น สหรัฐอเมริกาและแคนาดา ด้านฝั่งตะวันตกมีรายงานจำนวนผีเสื้อประมาณ 590 ชนิด และฝั่งตะวันออก 524 ชนิด ส่วนประเทศต่างๆในยุโรปและอัฟริกาเหนือทั้งหมด มีรวมกันเพียงประมาณ 440 ชนิดเท่านั้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบขนาดพื้นที่ของประเทศดังกล่าวกับประเทศไทย ของเรามีจำนวนชนิดผีเสื้อมากกว่าหลายเท่าตัว
การศึกษาเรื่องผีเสื้อในเมืองไทย
เริ่มตั้งแต่เมื่อประมาณ 200 ปีมาแล้ว โดยชาวต่างชาติ ในปี พ.ศ. 2330 Fabricius
นักอนุกรมวิธานชาวเดนมาร์ค ได้ตั้งชื่อผีเสื้อ 4 ชนิดจากประเทศไทย ต่อมาในปี
พ.ศ. 2459 E.J. Godfrey ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของการศึกษาผีเสื้อในประเทศไทย
ได้รวบรวมผีเสื้อไทยไว้ได้ถึง 371 ชนิด นอกจากนี้ยังมีคณะสำรวจผีเสื้อจากประเทศญี่ปุ่น
เข้ามาศึกษาผีเสื้อในเมืองไทยอีกหลายกลุ่ม ผลงานของชาวญี่ปุ่นเหล่านี้สามารถดูได้จากเว็บไซต์
Butterflies in Indo-china
การศึกษาผีเสื้อในประเทศไทย
โดยคนไทย เริ่มเป็นจริงเป็นจังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 เรียงตามลำดับดังนี้ คือ
พ.ศ. 2520 นายแพทย์บุญส่ง เลขะกุล และคณะ ได้รวบรวมผีเสื้อชนิดต่างๆ
และเขียนเป็นหนังสือ ชื่อ "Field guide to the butterflies of Thailand"
ซึ่งเป็นหนังสือหายากในปัจจุบัน เพราะไม่มีพิมพ์จำหน่ายแล้ว
แต่ยังพอหาซื้อได้ในตลาดต่างประเทศ
พ.ศ. 2522-2535 บราเดอร์ อำนวย ปิ่นรัตน์ เขียนหนังสือเรื่อง "Butterflies
in Thailand" มีทั้งหมด 6 เล่ม ยังพอหาซื้อได้ในร้านขายหนังสือบางแห่ง
พ.ศ. 2539 คุณเกรียงไกร สุวรรณภักดิ์ ได้รวบรวมภาพถ่ายผีเสื้อในธรรมชาติ เขียนเป็นหนังสือเรื่อง
"ผีเสื้อ" และอีกหลายเล่มในระยะต่อมา เช่น "ผีเสื้อ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน"
ได้ข่าวว่าจะออกมาเร็วๆนี้อีก 1 เล่ม โดย "กลุ่มรักษ์ผีเสื้อ" ซึ่งนับว่าเป็นกลุ่มที่มีผลงานมีคุณภาพเกี่ยวกับผีเสื้อมากที่สุดในปัจจุบัน
ผู้ที่ศึกษาเรื่องผีเสื้อเมืองไทยในปัจจุบัน ยังมีอีกมากมายหลายท่าน เช่น
อาจารย์จารุจินต์ นภีตะภัฏ ซึ่งเคยร่วมงานกับ นายแพทย์บุญส่ง
เลขะกุล ปัจจุบันได้ข่าวว่าเป็นอาจารย์สอนวิชาผีเสื้อในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
อาจารย์สุรชัย ชลดำรงค์กุล นักกีฏวิทยา กรมป่าไม้ เขียนหนังสือเรื่อง "ผีเสื้อ
คู่มือสำรวจและสื่อความหมายธรรมชาติ" ติดต่อสั่งซื้อได้ที่ ธรรมชาติสโมสร.คอม
คุณวีระวัช ศรีสุข ทีมงานของคุณเกรียงไกร
ได้ส่งรูปผีเสื้อมาลงในเว็บไซต์นี้ ทุกรูปที่เป็นของคุณวีระวัช จะมีคำว่า (c)
2000 Veerawat Srisuk อยู่บนรูป
คุณธรรมรัตน์ สุขพินิจ ผู้ร่วมงานของคุณเกรียงไกร ในหนังสือ "ผีเสื้อ"
สำหรับผู้ที่สนใจกระดานข่าวผีเสื้อในเว็บไซต์ต่างๆ คงรู้จักดี
ข้อมูลและเนื้อหาในเว็บไซต์นี้ทั้งหมด
ได้มาจากแหล่งต่างๆ เช่น เว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ต
รูปผีเสื้อในพิพิธภัณฑ์ ส่วนใหญ่ถ่ายจากตัวอย่างในพิพิธภัณฑ์แมลงของภาควิชาชีววิทยา
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเก็บรวบรวมโดยนักศึกษาที่เรียนวิชากีฏวิทยา
ของ ผศ.ดวงมาลย์ ตั้งประเสริฐ ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับพืชชนิดต่างๆ และในสกุล Aristolochia
รวมทั้งการเก็บรักษาใบ ได้รับคำแนะนำจาก รศ.ณพพร
ดำรงศิริ และ รศ.อรษา แสงอุทัย คณาจารย์ภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ขอขอบคุณทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย
สำหรับ
ผีเสื้อปีกนกราชาบรุ๊คซึ่งยังไม่มีรายงานในหนังสือผีเสื้อต่างๆของไทยในปัจจุบันเท่าที่ทราบผีเสื้อชนิดนี้พบในมาเลเซียและทางตอนใต้ของไทย
แถวจังหวัดยะลา แต่ รศ.มาสเตอร์ อำพัน คำสาลี ยืนยันว่า
ผีเสื้อชนิดนี้สามารถพบได้ในป่าแถบจังหวัดเพชรบุรี และกาญจนบุรีด้วย ส่วน ผีเสื้อนางพญาสยาม
เดิมใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า The Burmese Junglequeen (ผีเสื้อนางพญาพม่า) (Sticopthalma
louisa) แต่รูปนี้เป็นชนิดย่อย (subspecies) Sticopthalma louisa siamensis ซึ่งพบเฉพาะในประเทศไทย
จึงใช้ชื่อ "ผีเสื้อนางพญาสยาม" แทน