ผมนอนสงบอยู่ในร่างที่กำลังกระตุกเกร็ง
ลำตัวกระเพื่อมขึ้นลงเบาๆ ตามจังหวะของลมหายใจที่ระรวยอ่อน
เจ้าของร่างเป็นสาวน้อยอายุยังไม่ถึงเบญจเพศดี
ใบหน้าเธอแม้เต็มไปด้วยความทุกข์ แต่ยังคงอวบอิ่มด้วยเลือดฝาดสีชมพู
ที่บรรจงปัดอยู่บนแก้มเธอ ดวงตาเธอยังเบิกโพลง แต่ไร้อารมณ์
จ้องมองท้องฟ้าเหมือนดั่งต้องการสนทนากับใครซักคนบนนั้น
.
ผมทำงานรับใช้เธอมาตั้งแต่เธอเกิดมาบนโลกใบนี้
นับตั้งแต่วินาทีแรกของชีวิตเธอทีเดียว
เราสนิทกันมากโดยที่เธอเองอาจไม่รู้ตัว
ผมเฝ้าดูชีวิตทั้งชีวิตของเธอ มีส่วนในหลายเหตุการณ์ในชีวิตเธอ
ทั้งสุขและเศร้า ดีใจหรือเจ็บปวด
แม้กระทั่งตอนนี้
ยามที่เธอถูกทอดทิ้งจากคนรอบข้าง
ผมก็ยังคงทำงานให้เธออย่างซื่อสัตย์เช่นเคย
แม้ผมไม่อยากจะทำก็ตาม
.
เรื่องราวในอดีตกำลังหลั่งไหลเข้าสู่สมองเธอ
อย่างช้าๆ
สมองเธอเริ่มแปลงข้อมูลเหล่านั้นออกเป็นสัญญาณภาพและเสียง
ไม่นานภาพสีสามมิติก็ค่อยๆปรากฎขึ้นทีละนิดๆ
สมองเธอจัดการปรับภาพและเสียงให้คมชัด เท่าที่กำลังตอนนี้จะทำได้
ผมนั่งลงดูไปพร้อมๆกับเธอ
.
"
ร้องไห้อีกและ ? . . . ขี้แยจัง "
เสียงนุ่มทุ้มของชายร่างใหญ่เบื้องหน้า แฝงไปด้วยความอบอุ่น
มือหยาบกร้านลูบหัวเด็กหญิงเบาๆ เด็กหญิงหยุดสะอื้นชั่วครู่
เงยหน้าขึ้นสบตาด้วยน้ำตานองหน้า ( อ๋อ
.ผมจำได้แล้วตอนนั้นนั่นเอง
เล่นเอาผมเหนื่อยแทบตายแน่ะ )
" ก็หนูเจ็บนี่นา "
เด็กหญิงพูดพลางสะอื้นพลาง
มือขวาปาดขี้มูกให้ขึ้นไปหลบตรงข้างแก้มสีชมพู "
โอ๋
.มามะๆ
.ใครรังแกลูกพ่อเดี๋ยวพ่อจัดการเอง
ดีมั๊ย ? "
เสียงชายคนนั้นอ่อนลงยิ่งกว่าเก่า
นิ้วมือกระด้างสางผมเด็กหญิงคนนั้นเบาๆ " ไอ้เหมียวมันข่วนหนู "
เธอชี้นิ้วไปที่แมวพันธุ์ทางที่นั่งทำหน้าบ้องแบ๊วอยู่ข้างๆ "
ฮ่าๆๆๆ
อ่อ ไอ้เหมียวนี่เอง มาๆพ่อจัดการให้ "
แมวน้อยกระโจนหนีเมื่อเค้าทำท่าเงื้อมือ " เห็นมั๊ย ?
มันไปแล้ว หยุดร้องนะลูกนะ คนดี " เด็กหญิงกระซิกอีกสองสามครั้ง
ก่อนจะค่อยๆอวดยิ้มสดใสให้ผู้เป็นพ่อได้เชยชม "
พ่อห้ามให้ใครรังแกหนูนะ พ่อต้องอยู่ช่วยหนูนะ " "
จ้ะ
.พ่ออยู่ข้างๆหนูตลอดไปแหละสาวน้อย "
สัมผัสแห่งความอบอุ่นครั้งนั้น แทรกเข้ามาในหน่วยความจำของเธอ
ผมพึ่งเห็นเธอเป็นคนแรก
ที่สามารถเก็บข้อมูลมาบันทึกได้มากกว่าภาพและเสียง
ไม่น่าเชื่อจริงๆ
ร่างเธอกระตุกอีกสองสามครั้ง ลมหายใจเริ่มติดขัด
ตอนนี้ไฟข้างในนี้เริ่มดับไปแล้วบางดวง
ที่ยังติดอยู่ก็อ่อนแสงเต็มที
แต่จอโปรเจคเตอร์ธรรมชาติของเธอ
ยังทำหน้าที่ของมันต่อไป
ภาพเก่าๆเริ่มปรากฎอีกครั้ง
..
เป็นภาพชายหนุ่มหน้าตาดีกำลังสวมกอดเธอเบาๆ
ในมือซ้ายกำแหวนวงสวยไว้หลวมๆ " เราจะรักกันตลอดไปนะ
ผมสัญญา "
เสียงออดอ้อนของชายหนุ่มทำเอาผมขนลุก
ใบหน้าเธออบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข
ผมจำได้ดีในตอนนั้น
เป็นครั้งแรกที่ผมได้หยุดพักร้อนยาวๆ ผมชอบจริงๆ
ฟึบ!!
ภาพในหัวเธอตัดกลับมาที่รพ.แห่งนึง
คุณหมอหน้าตาใจดีทำหน้าลังเลอึกอักอยู่ตรงหน้าสายตาเธอ
ก่อนจะฝืนใจพูดด้วยใบหน้าแห้งแล้ง
"
ลูกคุณก็ติดเชื้อค่ะ
.หมอว่า
เอ่อ
เราต้องเอาเค้าออกนะ "
ความมืดวูบใหญ่สาดเข้ากระทบจอภาพเธอเต็มๆ ผมถึงกับผงะหน้าหงาย
มันเจ็บปวดขนาดนั้นเชียวเหรอ ? ผมไม่เข้าใจ
ภาพในจอวูบหายไปนานหลังจากเมื่อกี๊ ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
เหมือนร่างของเธอเองที่ยังนอนอยู่ที่เดิม
เปลวแดดร้อนระอุส่องแยงเข้ามาในตาเธอ
ตาซึ่งพร่ามัวมองอะไรไม่เห็นแล้ว
ความชาเล็กๆค่อยๆคืบคลานเข้าสู่ร่างของเธอช้าๆ
สมองเธอเริ่มเดินหน้าทำงานอีกครั้ง
แต่คราวนี้มันเบลอมากแล้ว
ผมนั่งดูภาพสุดท้ายของเธอต่อไป
" โอ๊ยยย ไม่ไหวแล้ว
เกิดแม่กับน้องติดไปด้วยว่าไงล่ะ ? " หญิงวัย 50
ต้นๆตวาดดังลั่นโรงพยาบาล ในมือกำมือเด็กน้อยวัย 10 ขวบแน่น
เธออ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่กลับเก็บเอาไว้ไม่ยอมพูด
เก็บความทุกข์ไว้กับตัวเองดีกว่า
.เธอคิด
"
ถ้าพ่อแกยังอยู่ก็คงดีหรอก
มันคงจะมานอนเฝ้าได้
เฮ้ออ "
เธอหวนคิดถึงพ่อผู้ใจดีอีกครั้ง
พ่อที่ให้สัญญาว่าจะไม่ทิ้งให้ลูกโดนใครรังแก
พ่อผู้ลาจากเธอไปก่อนเวลาอันควร
เธอรู้สึกผิดเหลือเกิน
ชีวิตที่พ่อเคยวาดหวังเอาไว้ว่าจะต้องสวยงามของเธอ
เธอกลับทำลายมันซะจนป่นปี้
" ผัวแกอีก
นี่มันหายหัวไปไหนล่ะ ?
หา "
น้ำเสียงแม่เย็นชาเหลือเกิน
โรคร้ายดูจะฆ่าเธอมากกว่าชีวิต
ดูเหมือนมันตั้งใจจะคร่าเอาความรู้สึก และวิญญาณของเธอไปด้วย
เธอเจ็บช้ำจนสุดหัวใจ
..
คราบเลือดที่ไหลออกจากตัวเธอ ทำให้ฝูงชนที่พากันมามุง
พากันถอยห่างตามระยะทางที่เลือดไหลริน " อีนี่มันเป็นเอดส์
อย่าไปโดนเลือดมัน "
เธอไม่ได้ยินอะไรแล้ว นัยน์ตาที่มืดมิด
หูที่อื้อรับแต่เสียงลมพัดวูบ ภาพพ่อ ภาพแม่ ภาพคนรัก
และทุกภาพที่เธอจดจำไว้ในอดีตตีกันวุ่นวายไปหมด
"
เสือกมาโดดตึกกูอีก ใครจะมาเช่าละเนี่ย " เสียงแป๊ะแก่ๆบ่นอย่างหัวเสีย
ผลพวงจากเชื้อร้ายที่เธอได้รับ แสดงออกเป็นเม็ดแผลตามลำตัว
เธอตัดสินใจจบชีวิต
ก่อนที่จะน่าเกลียดไปกว่านี้
ภาพเด็กน้อยนั่งดูการ์ตูน กินไอติม เล่นตุ๊กตา
ภาพเด็กน้อยที่ร้องไห้เมื่อดูละครเศร้า
ภาพเด็กน้อยที่ยื่นอาหารในมือให้หมาเลียกิน
ทำให้ผมอดมีความรู้สึกประหลาดกับเธอไม่ได้
นี่ผมกำลังสงสารมนุษย์เหรอ ?
ไฟดวงสุดท้ายในนี้เริ่มกระพริบถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ภาพในหัวเธอค่อยๆหยุดช้าลง จนมาหยุดที่ภาพเธอเอง
ตอนที่กำลังร่วมถ่ายรูปกับครอบครัว
ครอบครัว ?
ใบหน้าที่จ้องมองกล้องยังไร้เดียงสา
และเต็มไปด้วยรอยยิ้มของอนาคต
ดวงตาสุกใสเหมือนจ้องมองไปยังความสุขเบื้องหน้า
มือขวาเกาะเอวผู้เป็นพ่อ ไหล่อีกข้างมีมือของแม่เกาะไว้แน่น
ครอบครัว ?
เธอเรียกใช้ผมอีกครั้งแล้ว
ผมรับรู้ได้ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่เธอจะเรียกหาผม
ไฟในนี้ดับลงแล้ว ผมเดินคลำทางไปทำภารกิจสุดท้ายให้เสร็จสิ้น
ภาพในหัวเธอตอนนี้ไม่มีแล้ว
ทุกอย่างกลับเป็นสีขาวบริสุทธิ์
อีกครั้ง.
.
ปล. พรุ่งนี้ไม่อยู่ฝากโพสด้วยละกัน
ปล.2
ขอมอบกระทู้นี้ให้แก่หยดน้ำตาที่ไหลจากความเศ้าทุกหยดบนโลกนี้
|