ประจำวันที่ 18 กุมภาพันธ์  2545

      คาดได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ทำให้การจับจ่ายซื้อของได้คล่องขึ้น วอนเทศบาลรักษาความสะอาดให้มากขึ้น ด้านเศรษฐกิจยังฝืดรายได้ต่ำกว่าวันละ 1,000 บาทกว่า 80 เปอร์เซ็นต์

          ทีมวิจัยตลาดโพล สถาบันราชภัฏอุดรธานี ได้ทำการสำรวจเกี่ยวกับการจัดระเบียบร้านค้าของพ่อค้า แม่ค้าในตลาดบ้านห้วย จ.อุดรธานี จากการเก็บแบบสอบถามจากพ่อค้า แม่ค้าภายในตลาดบ้านห้วย จำนวน 80 คน ในระหว่างวันที่ 13 – 14 กุมภาพันธ์ 2545 พบว่า “พ่อค้า แม่ค้าเห็นด้วยกับการจัดระเบียบตลาดบ้านห้วย คิดเป็นร้อยละ 78.8 ไม่เห็นด้วย คิดเป็นร้อยละ 17.5 ไม่มีความคิดเห็น คิดเป็นร้อยละ 3.8 ตามลำดับ

          สำหรับการจัดระเบียบตลาดบ้านห้วยนั้นเกิดผลกระทบต่อยอดขายของพ่อค้า แม่ค้าสวนใหญ่เห็นว่าไม่มีผลต่อยอดขาย คิดเป็นร้อยละ 35.0 รองลงมาคือ ขายได้ดียิ่งขึ้น คิดเป็นร้อยละ 31.3 ยอดขายตกลงไป คิดเป็นร้อยละ 30.0

          พ่อค้า แม่ค้าเห็นว่าการจัดแบ่งโซนการขายในตลาดบ้านห้วยเกิดผลดีคือ ลูกค้าจับจ่ายซื้อของได้คล่องขึ้น มีผู้ตอบแบบสอบถาม คิดเป็นร้อยละ 40.0 รองลงมาได้แก่ มีความเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้ตอบแบบสอบถาม คิดเป็นร้อยละ 30.0 ทำให้ลูกค้าจดจำร้านค้าได้ง่ายขึ้น คิดเป็นร้อยละ 26.3 ตามลำดับ

          ด้านความต้องการความช่วยเหลือจากเทศบาล พ่อค้า แม่ค้าต้องการให้เทศบาลรักษาความสะอาดให้ดีขึ้น คิดเป็นร้อยละ 57.5 รองลงมาได้แก่ การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมาจับจ่ายเพิ่มขึ้น และควรจัดระเบียบตลาดอื่น ๆ ด้วย คิดเป็นร้อยละ 15.0 เห็นควรให้มีการตรวจสอบคุณภาพอาหารและมีเครื่องหมายรับรองคุณภาพ คิดเป็นร้อยละ 7.5 และเห็นควรให้มีการจัดระเบียบตลาดอื่น ๆ ด้วย คิดเป็นร้อยละ 5.0 ตามลำดับ

          ในการสอบถามความคิดเห็นของพ่อค้า แม่ค้าในตลาดบ้านห้วยในครั้งนี้ ยังพบว่า รายได้ในแต่ละวันนั้น พ่อค้า แม่ค้าส่วนใหญ่มีรายได้ ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 81.3 รองลงมารายได้ 1,001 – 5,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 17.5 และรายได้ 5,001 – 9,000 บาท จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1.3 นอกจากนี้ยังพบว่า เจ้าของร้านค้าที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 73.8 เพศชาย ร้อยละ 26.3 อายุผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า มีอายุ 21 – 25 มีมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 21.3 รองลงมาอายุ 26 – 30 ปี คิดเป็นร้อยละ 18.8 อายุ 46 – 50 ปี คิดเป็นร้อยละ 16.3 ส่วนการศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีการศึกษาระดับประถมศึกษามากที่สุด คือ คิดเป็นร้อยละ 48.8 รองลงมาระดับ ม.3 คิดเป็นร้อยละ 16.3 ระดับอาชีวศึกษา คิดเป็นร้อยละ 13.8 สถานภาพสมรส คิดเป็นร้อยละ 68.8 สถานภาพโสด คิดเป็นร้อยละ 31.3 ตามลำดับ โดยมี     ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 80 คน”

……………………………………..