ชื่ออื่น
รองเท้านารีแมลงภู่(ลำปาง)
เอื้องคางคก เอื้องคางกบ(เชียงใหม่)
สกุลย่อย
Paphiopedilum
หมู่ Barbata
จำนวนโครโมโซม
2n=32
ถิ่นกำเนิด
มีการกระจายพันธุ์ในลาว
เวียดนาม กัมพูชา ไทย
และทางตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย
ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 700-950
เมตร
ลักษณะทั่วไป
มีการเจริญเติบโตแบบพืชอาศัยบนดิน
ต้น มีพุ่มใบขนาด
18-20 เซนติเมตร
ใบ เป็นรูปขอบขนานแกมรูปรี
กว้าง 3-3.5 เซนติเมตร ยาว 15-18
เซนติเมตร
แผ่นใบลายตารางสีเขียวเข็มสลับเขียวเทาหรือเป็นแต้มไม่ชัดเจนนัก
กาบใบที่โคนต้นมีขนปกคลุมเล็กน้อย
ดอก เป็นดอกเดี่ยว
มี 1-2 ดอกต่อต้น
ก้านดอกตั้งตรงสีม่วงเข้ม
ยาว 25-30 เซนติเมตร
และมีขนปกคลุม
เมื่อดอกบานเต็มที่มีขนาด 6-8
เซนติเมตร
กลีบนอกบนบิดเล็กน้อย
มีสีขาว
และเส้นริ้วสีเขียวจำนวนมาก
ปลายริ้วสีม่วง
กลีบดอกชี้เป็นมุม 45 องศา
กับแนวระนาบ
มักบิดและห่อไปด้านหลัง
โคนกลีบมีสีเขียวเรื่อ
ขอบกลีบบนมีไฝสีน้ำตาลแดง 5-6จุดและมีขนยาวปกคลุม
กระเป๋ามีสีม่วงแดงเรื่อ
และเส้นร่างแหสีน้ำตาลแดง
โล่สีขาวนวล
รูปทรงคล้ายรูปเกือกม้า ขนาด
1
เซ็นติเมตรกึ่งกลางมีแต้มสีน้ำตาลเข้ม
ด้านบนหยักเล็กน้อยและงุ้มมาข้างหน้า
ด้านล่างหยักเป็นเขี้ยว
ฤดูออกดอก
กรกฏาคม-สิงหาคม
ลักษณะนิสัย
ชอบอากาศเย็น
ปลูกเลี้ยงง่าย แตกหน่อเร็ว
สามารถปลูกเป็นไม้กระถางในบ้าน
เนื่องจากรองเท้านารีคางกบมีการกระจายพันธุ์ทั่วไปในไทย
ซึ่งมีลักษณะดอกที่ต่างกันเพียงเล็กน้อยและเกิดอีกหลายสายพันธุ์มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป
ดังนี้
1.รองเท้านารีคางกบลาว
พบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยและลาว
มีดอกป้อม กลีบดอกกว้าง
ปลายกลีบค่อนข้างมน สีเข้ม
และมีไฝน้อยกว่ารองเท้านารีคางกบที่พบในภาคเหนือของไทย
2.รองเท้านารีม่วงสงขลา
(Paph.Barbatum) พบที่อำเภอรัตนภูมิ
จังหวัดสงขลา
กลับดอกมักมีไฝน้อย
แต่สีเข็มกว่ารองเท้านารีคางกบ
ออกดอกดกช่วงเดือนมีนาคม -
เมษายน
และจัดว่าเป็นสายพันธุ์ที่หายากชนิดหนึ่งของไทย
3.รองเท้านารีคางกบภาคใต้หรือรองเท้านารีไทยแลนด์
พบตามชายฝั่งทะเลภาคใต้ของไทย
ดอกมักมีขนาดเล็ก
มีไฝจำนวนมากตามขอบกลีบและกึ่งกลางจนถึงปลายกลีบ
มีสีเข้มกว่ารองเท้านารีคางกบ
ออกดอกดกช่วงเดือน มีนาคม -
เมษายน
|