ธรรมะพจน์, คติพจน์
คนเรามีของดีอยู่ในตัว
แต่ไม่เชื่อมั่นในตนเอง
จึงแสวงหาที่พึ่งภายนอกอยู่เรื่อยไป
ศัตรูคือผู้จู่มาสอบไล่
อันศัตรูคือผู้จู่มาสอบไล่
ให้รู้ได้ว่าเรามีดีเท่าไหน
หรือดีแต่จะโกรธยืน เป็นฟืนไฟ
บังคับใจไว้ไม่อยู่สักครู่เดียว
อันศัตรูคือผู้สวรรค์ให้
ตรงที่ได้มีจิตคิดเฉลียว
ว่าอดกลั้นนั้นแหล่ะเป็นพระเทียว
ไม่ลด,เลี้ยวไม่เป็นมารพล่านนรก
อันศัตรูคือผู้สอนสัจธรรม
ว่าอาฆาตนั้นคือน้ำสกปรก
อย่าเก็บใว้ในใจให้ใจฟก
จะเวียนวก ว่ายสงสาร นานนักเอย
เพราะฉะนั้นศัตรูคือผู้ให้
แต่กลายเป็นผู้ร้าย เหตุใดเหวย
เพราะผู้รับรับไม่เป็นอย่างเช่นเคย
ถ้ารับเป็นพวกเราเอ๋ย หมดศัตรู
พุทธทาสภิกขุ
วัฏสงสาร
บุรุษผู้ยลโฉมสตรี ซึ่งมีพักตร์ผุดผ่องสวยงามประหลาดล้ำ สถิตอยู่ ณ. ก้นเหวอันลึก แล้วนึกรักใคร่ปรารถนาได้ชมเชยนางเทพธิดานั้นเป็นกำลัง จึงตั้งหน้าขวนขวายที่จะไปหานางให้ได้ และแล้วเขาก็ตัดสินใจกระโจนลงไปในก้นเหวนั้นทันที
แมลงเม่าโง่เง่าเป็นสัตว์เดียรัจฉาน แต่พอได้แลเห็นเปลวไฟ อันมีแสงเหลืองอร่ามก็เกิดความปรารถนาใคร่จะเข้าไปชมโดยมีจิตนิยมยินดีในแสงประทีป แล้วก็พากันรีบบินสู่กองไฟประทีปนั้นทันที
สัตว์ที่ปรารถนาติดใจในหยาดน้ำหวานแต่พอได้แลเห็นน้ำผึ้งที่เขาไว้ที่คมมีด ด้วยจิตปรารถนาในรสน้ำผึ้งอย่างแรงกล้า ไม่ทันพิจารณาให้ดี ก็รีบตรงรี่เข้าไปเอาลิ้นเลียคมมีดที่เขาทาน้ำผึ้งอันมีรสหวานนั้นทันทีพฤติกรรรมแห่งสัตว์ และบุคคลดังกล่าวนี้ ย่อมเปรียบได้กับผู้ที่มีดวงใจถูกคลุมด้วยอวิชชา ไม่รู้สภาวธรรมที่เป็นจริง ซึ่งวิ่งวุ่นไปด้วยอำนาจแห่งปุญญาภิสังขารโดยประมาณเอาว่ามนุษย์สมบัติ เทวสมบัติ พรมหมสมบัติ ที่ตนแลเห็นอยู่เฉพาะหน้าเป็นของดี และมีความปรารถนาใคร่จักได้สมบัตินั้นเป็นกำลังโดยหารู้ไม่เลยว่า สิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังแห่งสมบัติเหล่านั้นมันเป็นกองทุกข์ใหญ่เหลือประมาณ กองทุกข์ใหญ่เหลือประมาณที่ว่านี้ คือ กองทุกข์อันเกิดจากการท่องเที่ยว เวียนว่าย ตาย เกิด อยู่ในวัฏสงสารอย่างไม่มีวันสิ้นสุด ซึ่งผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญา พากันเกรงกลัวนัก
พระพรหมโมลี(วิลาศ ญาณวโร)
อย่ากลัวทุกข์อันนำไปสู่ความพ้นทุกข์
ความทุกข์นี้มันไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป เพราะฉะนั้นเราอย่าไปสนใจกับมันมากนัก ปล่อยมันเฉยๆ เสียบ้างกับเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆ มันก็ดับไปเอง หายไปเองเหมือนหัวสิว คราวนี้ลองนึกดูว่าความสุขเป็นสิ่งที่เราต้องการ เป็นสิ่งที่เราหวงแหน เป็นสิ่งที่เราปรารถนาอย่างยิ่ง ที่จะประคองมันไว้ โอบอุ้มมันไว้ แต่เมื่อเกิดขึ้น แล้วมันอยู่ไหมมันไม่อยู่ มันเกิดขึ้นเราแสนจะหวงแหน อยากให้มันอยู่กับเรา ทำอย่างไรหนอความสุขเหล่านี้จึงจะเกิดขึ้นกับเราหรือเกิดขึ้นอีก มันไม่เกิดมันก็ดับ ความสุขเป็นอย่างไร ความทุกข์เป็นอย่างไร ที่นี้ขอบอกท่านว่าอย่ากลัวความทุกข์ที่เป็นเหตุให้ท่านสุข เพราะว่ามันเป็นเพียงบันไดขั้นต้นที่จะทำให้เราพ้นทุกข์นั่นเอง ถ้าไม่มีความทุกข์อย่างนี้ๆ แล้ว บางทีเราอาจจะจมอยู่ในความทุกข์ที่มากกว่านั้น มีอาจารย์ท่านหนึ่งสามีถูกฆ่า ทีแรกก็เป็นทุกข์มาก ที่นี้หันเข้าวัดหาธรรมะ มาศึกษาธรรมะได้ของวิเศษคือธรรมะรัตนะ บอกว่าถ้าสามีไม่ตายคงไม่ได้มาพบทางนี้ คงยังต้องไปนั่งเป็นเพื่อนของสามีที่ไหนๆ ไปกินอะไรที่โน่นที่นี่ไปเรื่อย คงไม่มีโอกาสได้พบทางที่สว่างที่ประเสริฐอย่างนี้ นี้เรียกว่าทุกข์อันนำไปสู่ความพ้นทุกข์ อย่ากลัวความทุกข์อันนำไปสู่ความพ้นทุกข์ ขอให้กำลังใจกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าเราเป็นคนดีแล้วอย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะว่าถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง เราจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเสมอ เพราะว่าเราเป็นคนดี ถ้าไม่มีตัวความเปลี่ยนแปลง แม้เราจะทำความดีสักเท่าไร เราก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีไม่ได้ ขอให้มั่นใจเถอะท่านจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีเสมอ ถ้าเราเป็นคนดีอย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าในระยะต้นๆ เหมือนว่าเราจะตกต่ำลงมา แต่เป็นเพียงการถอยเอาหลัก ถอยเพียงก้าวเดียวเพื่อจะได้ต่อไปอีก 10 ก้าว เหมือนกับคนที่ตั้งท่าจะวิ่งระยะไกลอาจจะถอยมา 2-3 ก้าวเพื่อให้สามารถวิ่งได้อย่างมั่นคงเป็นไปตามความมุ่งหมายนี่แหล่ะชีวิต
คำกล่าวของหลวงพ่อ
เป็นไปตามเหตุปัจจัย
ขอให้มีความมั่นใจว่า การเป็นคนดีย่อมได้ดี ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ไม่ต้องกลัวเหตุการณ์ต่างๆ เหตุการณ์ต่างๆ เป็นเพียงสิ่งที่ผ่านมาและก็ผ่านไป ไม่มีอะไรยั่งยืนถาวร แม้บางครั้ง บางคราวเราจะล้มลง อย่าลุกขึ้นมามือเปล่าให้หยิบอะไรขึ้นมาด้วยนั่นคือ ความรู้ความเข้าใจในชีวิต ความผิดหวังพลาดพลั้ง สิ่งเหล่านี้มันเป็นบทเรียนชีวิต เป็นสิ่งที่สอนให้เรารู้จักคน รู้จักโลก รู้จักเพื่อน ถ้าเราทำดีอยู่เสมอ เราก็จะเป็นคนโชคดี ใครจับคนดีและโชคดีลงบ่อน้ำ เขาจะขึ้นมาพร้อมกับปลาตัวใหญ่ เขาจะไม่ขึ้นมามือเปล่า เพราะฉะนั้นถ้าเราตกอยู่ในฐานะนั้น เราก็จะไม่ขึ้นมามือเปล่า เราจะหาปลามาด้วย คนที่โยนเราลงไปจะได้รู้สึกว่าคนนี้จะไปเล่นกับเขาไม่ได้ ชีวิตก็เป็นอย่างนั้น ก็อย่าไปยึดมั่นถือมั่นให้มันรุ่นแรงนักปล่อยให้มันเป็นไปตามเหตุปัจจัยอย่าไปหวังผลมาก เพราะว่าการหวังผลมากจะทำให้จิตใจกระวนกระวายไม่เป็นสุข เราทำเหตุได้เต็มที่สำหรับผลนั้น ปล่อยให้เหตุเป็นผู้บันดาล เราบันดาลผลไม่ได้ เหตุจะเป็นผู้บันดาล เราจะเป็นผู้ทำเหตุ ท่านไปออกดอกแทนดอกไม้ได้ไหม ออกลูกแทนต้นไม้ได้ไหม ไม่ได้ เจ้าของสวนมีหน้าที่เพียงปลูกต้นไม้ รดน้ำ พรวนดิน กำจัดวัชพืช การออกดอกออกผลเป็นหน้าที่ของต้นไม้เอง การให้ผลดีเป็นหน้าที่ของเหตุที่เราทำ
คำกล่าวของหลวงพ่อ
มองแต่แง่ดีเถิด
เขามีส่วน |
เลวบ้าง |
ช่างหัวเขา |
จงเลือกเอา |
ส่วนที่ดี |
เขามีอยู่ |
เป็นประโยชน์ |
โลกบ้าง |
ยังน่าดู |
ส่วนที่ชั่ว |
อย่าไปรู้ |
ของเขาเลย |
จะหาคน |
มีดี |
โดยส่วนเดียว |
อย่ามัวเที่ยว |
ค้นหา |
สหายเอ๋ย |
เหมือนเที่ยวหา |
หนวดเต่า |
ตายเปล่าเอ๋ย |
ฝึกให้เคย |
มองแต่ดี |
มีคุณจริง |
พุทธทาสภิกขุ
การมีชีวิตอยู่อย่างมีประโยชน์แก่ทุกฝ่าย เป็นหน้าที่ของผู้ที่ยังไม่ตาย และรู้หน้าที่ของตน การทำหน้าที่ให้ถูกต้องนั่นคือ การประพฤติธรรมแล้ว
พุทธทาสภิกขุ
ทุกข์เพราะรักเขาข้างเดียว
รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง น้ำขึ้นไม่ถึงแห้งแหงเก๋ ผู้รู้กล่าวว่า จิตของคนเรานั้นชอบที่จะรักมากกว่าที่จะชัง ความรักนั้นเกิดขึ้นที่ใจคนเราได้ง่าย บางทีเพียงเห็นหน้า ยังไม่ได้พูดกันเลย จิตก็ วูบ เกิดรักเขาเข้าแล้วก็มี ช่างง่ายดายอะไรอย่างนั้น ไม่ต้องเสียเวลา เพาะ พันธุ์รัก เหมือนปลูกถั่วปลูกงา ไม่ต้องรอฟ้า รอฝน เหมือนทำไร่ ทำสวน
แต่เพราะความรักมันเกิดง่ายจนเกินไป ความยุ่งยากจึงตามมา เช่นไปรักคนที่เขาไม่สนใจเรา ฝ่ายที่เกิดความรักขึ้นในใจก็ร่ำร้องอยากอยู่ใกล้ อยากพบปะพูดคุย อยากระบายความในใจ ฝ่ายที่ไม่รักตอบก็พยายามหลบเลี่ยง อ้างโน่น อ้างนี่
โทรศัพท์หวังจะพูดคุยด้วยให้หายคิดถึง ก็บอกปัดว่าไม่ว่างจะคุยด้วย เพราะมีธุระ บางครั้งก็ไม่รับสาย, เขียนจดหมายพร่ำรำพันความคิดถึงที่มีต่อเขาก็ไม่ได้รับตอบ เมื่อถูกตัดไมตรีไม่มีเยื่อใย ฝ่ายที่หลงรักเขาข้างเดียวก็เสียใจ สะเทือนใจ มีอาการดุจถูกใครจับขาทั้งสองข้างรวบเข้าหากัน แล้วเอาหัวฟาดกำแพง
ใครที่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ จึงควรใคร่ครวญให้ดี มีสติยั้งคิดจะได้ไม่ถล่ำผิดจนถอนตัวไม่ขึ้น รักเขา เขาไม่รักนั้น เป็นทุกข์อยู่แล้วอย่าได้เพิ่มทุกข์เข้าไปอีก พยายามทำตนให้ดี ให้เขาเห็นว่ามีคุณค่าพอที่เขาจะรัก ความดีงามอาจชนะจิตใจเขาได้ในวันหนึ่ง หรือถ้าหากไม่ได้รับรักตอบจากเขาจริงๆ ก็คิดเสียว่าไม่ใช่เนื้อคู่เรา ป่วยการไปรักคนที่เขาไม่รักเรา ควรจะรักคนที่เขารักเราจะดีกว่า
ในโลกนี้ คงไม่มีใครที่โชคร้ายถึงขนาดไม่มีใครรักแม้แต่คนเดียว ใครบางคนย่อมมีความหมาย และความสำคัญสำหรับใครบางคนเสมอ
ใดใดในโลกล้วน |
อนิจจัง |
คงแต่บาปบุญยัง |
เที่ยงแท้ |
เป็นเงาติดตัวตรัง |
ตรึงแน่น อยู่นา |
ตามแต่บาปบุญแล |
กอบเกื้อรักษา |
ลิลิตพระลอ
เมืองใดไม่มีทหารหาญ |
เมืองนั้นไม่นานเป็นข้า |
เมืองใดไร้จอมพารา |
เมืองนั้นไม่ช้าอับจน |
เมืองใดไม่มีพาณิชย์เลิศ |
เมืองนั้นย่อมเกิดสับสน |
เมืองใดไร้ศิลป์โสภณ |
เมืองนั้นไม่พ้นเสื่อมทราม |
เมืองใดไม่มีกวีแก้ว |
เมืองนั้นไม่แคล้วคนหยาม |
เมืองใดไร้นารีงาม |
เมืองนั้นสิ้นความภูมิใจ |
เมืองใดไม่มีดนตรีเลิศ |
เมืองนั้นไม่เพริศพิศมัย |
เมืองใดไร้ธรรมอำไพ |
เมืองนั้นบรรลัย แน่ เอย. |
รัชกาลที่ 6.
อันความกรุณาปราณี
จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเหมือนฝนอันชื่นใจ
จากฟากฟ้าสุราลัย สู่แดนดิน
เวนิชวานิช/ร.6
พูดมาก |
เสียมาก |
พูดน้อย |
เสียน้อย |
ไม่พูด |
ไม่เสีย |
นิ่งเสีย |
โพธิสัตว์ |
หลวงปู่ทวดเหยียบทะเลจืด
หนอนในอาจมย่อมสกปรก
เมื่อกลายเป็นจักจั่น
ก็ดื่มน้ำค้างกลางลมใบไม้ร่วง
หญ้าเน่าย่อมไร้แสง
เมื่อกลายเป็นหิ้งห้อย
ก็เรืองโรจน์ใต้แสงจันทร์ฤดูร้อน
พึงรู้ว่าสะอาด เกิดจากสกปรก
ความสว่าง เกิดจากมืดมน
ภาษิตเก่าแก่ทางธรรม
ผู้ใดใฝ่ธรรมเป็นเนื่องนิตย์
ปฏิบัติพร้อมพรั่งดั่งผู้สอน
คงไม่ต้องอาทรและร้อนใจ
เดินตามธรรมะ พุทธะ ตรัสไว้ ไม่ให้แก้ไกล แก้ใจของตน
บางคนเกิดมา กังวล ไม่วาง ไม่สร่าง สักที ตายแล้วว่าหนีออกจากกังวล
บางคนเข้าใจ ไม่ใช่ ทั้งนั้น เรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ต้องแก้ ต้องไข ได้ในชาตินี้
พระราชสังวรอุดม (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) จ. ร้อยเอ็ด