ย้อนรอยการพัฒนา PC
คอมพิวเตอร์ได้ถูกพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานให้ทันสมัยอยู่เสมอ และได้รับการปรับปรุงให้มีความเร็วในการใช้งานได้ดี
ขึ้นเรื่อยมา ปัจจุบันได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานคอมพิวเตอร์ให้เร็วขึ้น โดยการผลิต CPU ที่มีความเร็วสูงขึ้น
386
เราจะเรียนรู้จักกับ CPU โดยเริ่มต้นที่รุ่น 386 ซึ่งเป็นรุ่นที่เลิกใช้งานไปแล้ว แต่สามารถสร้างความเข้าใจได้ง่ายเป็นต้นไปจนถึง
ในรุ่นปัจจุบันนี้
ในปกติเราจะพิจารณาความเร็วของ CPU โดยการยึดเอาความเร็วของสัญญาณนาฬิกาเป็นตัวอ้างอิง เช่น 386SX-33 คือ CPU
ที่ใช้สัญญาณที่ความถี่ 3,300,000 รอบ/วินาที หรือ 33 MHz (MHz มีชื่อเต็มว่า Megahertzs เป็นหน่วยวัดความถี่ที่เท่ากับ
หนึ่งล้านรอบ/วินาที)
แต่จริงๆแล้วค่าความเร็วของสัญญาณนาฬิกาที่ CPU ใช้อยู่นั้นไม่สามารถใช้เป็นตัวอ้างอิงได้เสมอไปว่า CPU ตัวใดจะเร็วกว่ากัน
โดยขอยกตัวอย่างที่เป็นการเปรียบเทียบกันระหว่าง CPU รุ่น 386SX กับ 386DX โดยที่ชิพทั้งคู่นี้มีความเร็วที่ 33 MHz เท่ากัน แต่
กลับมีข้อแตกต่างกันคือ ขนาดของ Data Bus
รุ่นของ CPU | Data Bus (bits) |
386SX
286DX | 16 bits
32 bits |
จากขนาดของ Data Bus ในตารางเราสามารถเปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัดว่าตามทฤษฎีนั้น CPU 386DX น่าจะมีความเร็วในการ
ทำงานมากกว่า CPU 386SX เป็นสองเท่า แต่ในปฏิบัติจริงนั้น 386DX จะเร็วกว่า 386SX ประมาณ 70% จากการเปรียบเทียบนี้ทำให้
เราทราบได้ว่าการจะเลือกใช้ CPU ที่มีความเร็วนั้น ไม่ได้ยึดกันเพียงแค่ค่าความเร็วของสัญญาณนาฬิกาเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือเราต้อง
ทราบถึงสถาปัตยกรรมภายในด้วยว่า CPU แต่ละตัวนั้นต่างกันอย่างไร เช่น ในตัวอย่างจะสังเกตได้ Data Bus มีขนาดที่ต่างกัน
สถาปัตยกรรมที่ดีขึ้นใน 486SX
486SX เป็น CPU ที่ถูกพัฒนาให้ใช้งานได้ดีขึ้นมากกว่า 386DX โดย CPU 486SX จะมีการเพิ่มหน่วยความจำ Cache (แคช)
ขนาด 8 Kbytes ไว้ภายในชิพเพื่อช่วยให้ CPU สามารถเรียกใช้ข้อมูลที่ซ้ำกันผ่าน Cache นี้ได้ดีกว่าการไปโหลดข้อมูลนี้มาใหม่จากหน่วย
ความจำภายนอก CPU ผ่านบัส ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการทำงานที่ซ้ำซ้อนลงนั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ 486DX เร็วกว่า 386SX ในขณะที่
ใช้ความถี่สัญญาณนาฬิกาเดียวกัน
486DX
486DX เป็น CPU รุ่นถัดมาจาก 486SX ซึ่งได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล โดยการเพิ่ม Math coprocessor ที่เป็น
โปรเซสเซอร์พิเศษสำหรับช่วยคำนวณฟังก์ชั่นทางคณิตศาสตร์ให้รวมอยู่ภายในชิพด้วย
ใน CPU กลุ่ม 486DX ก็จะประกอบด้วย CPU ต่างๆดังนี้
486DX/2 ถูกปรับความเร็วให้มากกว่าความเร็วของ Mainboard 2 เท่า
486DX/4 ถูกปรับความเร็วให้มากกว่าความเร็วของ Mainboard 3 เท่า
แต่อย่างไรก็ตาม การเพิ่มความเร็ว CPU นั้นจะมีประโยชน์ได้เฉพาะการคำนวณภายใน CPU ที่เร็วขึ้นเท่านั้น แต่สำหรับการติดต่อกับอุปกรณ์
ภายนอกนั้นก็ยังคงให้ความเร็วเท่ากับความเร็ว Mainboard
ตัวอย่างเช่น 486DX/2-66 หมายถึง การใช้ CPU ความเร็ว 66 MHz ร่วมกับ Mainboard ที่มีความเร็วเพียงแค่ 33 MHz หรือการนำ CPU
ความเร็ว 100 MHz มาใส่ใน Mainboard ที่มีความเร็ว 33 MHz ความเร็วในการติดต่อกับอุปกรณ์ภายนอกนั้นก็ยังคงเท่าเดิม