บัสและความเร็วบัส การทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รวดเร็วนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเร็วในการประมวลผลของ CPU เพียงอย่างเดียว เพราะคอมพิวเตอร์จะต้องรับ ข้อมูลจากภายนอกมาประมวลผล และส่งข้อมูลออกไปแสดงผลภายนอกด้วย ดังนั้นอัตราการรับ/ส่งข้อมูลติดต่อสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ I/O กับ CPU ผ่านบัสที่รวดเร็วจะช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างรวดเร็วด้วย ความเร็วในการส่งข้อมูลผ่านบัส เป็นตัวจำกัดความเร็วในการติดต่อกับอุปกรณ์ I/O ถึงแม้จะใช้ CPU ที่มีความเร็วสูงก็ตาม เช่น ถ้าเราใช้ Pentium 166 MHz แต่ถ้าบัสมีความเร็วเพียง 66 MHz อัตราการติดต่อสื่อสารข้อมูลก็จะทำได้สูงสุดแค่เพียง 66 MHz เท่านั้น การพัฒนาระบบบัส การพัฒนาระบบบัสนั้นได้เริ่มต้นมาจากระบบบัสแบบ ISA (Industry Standard Architecture) ที่มีขนาดบัสเท่ากับ 16 บิต มีความเร็ว 8 MHz ในเวลาต่อมา บริษัท ไอบีเอ็ม ผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ IBM PS/2 ได้รับพัฒนาระบบบัสขึ้นมาใหม่ชื่อว่า MCA (MicroChannel Architecture) โดยมีขนาด 32 บิต และได้เพิ่มความเร็วจาก 8 MHz เป็น 10 MHz แต่เนื่องจาก MCA ไม่สามารถใช้งานร่วมกับการ์ดรุ่นเก่าได้ จึงไม่ได้รับความนิยม และได้มีการพัฒนาระบบัสขึ้นมาใหม่คือแบบ EISA (Extend Industry Standard) ซึ่งจะมีขนาด 32 บิตเท่ากับ MCA แต่สามารถใช้งานร่วมกับการ์ดในระบบบัส ISA แบบเดิมได้ แต่จะจำกัดความเร็ว ให้ทำงานที่ 8 MHz เนื่องจากความเร็วบัสที่น้อย มีผลทำให้ความเร็วของคอมพิวเตอร์โดยรวมถูกจำกัดไปด้วย โดยเฉพาะการแสดงผลบนจดภาพที่ต้องการความเร็วใน การส่งข้อมูลสูงจึงมีกลุ่มที่เรียกว่า VESA (Video Electronics Standard Association) เสนอระบบบัสที่มีการติดต่อระหว่าง CPU กับการ์ดแสดงผล ได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้มีความเร็วใกล้เคียงกับ CPU มากขึ้น ระบบนี้มีชื่อเรียกว่า VESA Iocal bus หรือ VL-bus (วีแอลบัส) มีขนาด 32 บิต สามารถ ใช้กับการ์ดรุ่นเดิมที่ใช้กับระบบบัส ISA ได้ ต่อมาบริษัทอินเทลได้เสนอระบบบัส PCI (Peripheral Connection Interface) มาแทนที่ VL-bus ที่เพิ่มความเร็วในการติดต่อระหว่าง CPU กับ อุปกรณ์ต่างๆให้สูงขึ้น และสามารถยังใช้งานร่วมกับการ์ดที่เป็น 64 บิตได้ และปัจจุบันยังคงนิยมใช้บัส PCI กับเครื่อง Pentium และเครื่องจากค่ายอื่น เช่น Apple PowerPC และ DEC Alpha แต่ PCI จะมีปัญหาคือ ยังไม่สามารถแสดงผลทางกราฟฟิกที่สนับสนุนกับความเร็วของ CPU ได้ดีพอ ดังนั้นบริษัทอินเทลได้พัฒนาให้มีระบบบัส แบบ AGP (Advanced Graphic Port) สำหรับเร่งความเร็วในการแสดงผลกราฟฟิกให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับ CPU ที่มีความเร็วสูงได้