Castor
เวลาเราหมุนพวงมาลัย ล้อหน้าก็จะหมุนรอบแกนซึ่งติดอยู่กับระบบกันสะเทือน (ซึ่งแกนนี้จะไม่ตั้งฉากกับพื้นเป๊ะๆครับ) มุม castor เป็นมุมที่แนวแกนดังกล่าวทำกับเส้นตั้งฉากกับพื้น ถ้าขอบบนของแนวแกนนี้เอนไปด้านหลังรถ ก็จะเป็น castor "บวก" และในทางตรงกันข้ามถ้าเอนไปด้านหน้าก็จะเป็น "ลบ" ในภาพประกอบด้านซ้ายนั้นเป็นลักษณะของรถที่มี castor เป็น "บวก"
ค่า castor ที่ผิดไปจากปกติ จะไม่ก่อปัญหาเรื่องการสึกหรอของยาง แต่จะทำให้น้ำหนักพวงมาลัย และการบังคับควบคุมรถในทางตรงผิดเพี้ยนไป ถ้ามุม castor มีค่าเป็น "บวก" มากเกินไป พวงมาลัยจะหนักขึ้น ถ้า castor เป็น "ลบ" มากไป พวงมาลัยจะเบาและจะมีความรู้สึกว่าหน้ารถ "ร่อน" ถ้า castor ทั้งซ้ายขวาผิดไปจากกันมาก พวงมาลัยจะถูกดึงไปด้านที่ "บวก" น้อยกว่า (เพราะมันเบากว่านั่นเองครับ)
เพื่อนๆสมาชิกที่ต้องไปเป็นลิ่วล้อ เข็นรถเข็นตาม supermarket ต่างๆ จะเข้าใจการตอบสนองของมุม castor ได้ดีครับ นึกภาพล้อรถเข็นตามห้างเหล่านี้ (ภาพประกอบซ้าย) จะเห็นว่าแกนการหมุนของล้อหน้าแม้จะไม่ทำมุมอย่างในรถเก๋งที่เราพูดถึงกันอยู่ แต่ก็จะไม่อยู่ตรงศูนย์กลางของล้อ เมื่อลากเส้นตามแนวแกนหมุนลงมา เส้นนี้จะตกอยู่หน้าล้อ ลักษณะนี้ก็เสมือนมี castor เป็น "บวก" นั่นเองครับ ครั้งหน้าที่ต้องไปปฏิบัติหน้าที่เข็นรถเข็นของ ลองทดสอบดูอย่างนี้ครับ พลิกให้ล้ออยู่ด้านหน้าแกน (negative castor) แล้วลองเข็นให้รถตรง จะพบว่าทำได้ยาก ล้อจะปัดไปปัดมา แล้วก็จะพยายามพลิกไปอยู่ด้านหลัง นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับรถยนต์เช่นเดียวกันครับ ถ้าเซ็ทค่า castor ให้เป็น "ลบ" มากเกินไป
ทั้งมุม camber และ castor ไม่สามารถปรับตั้งได้ ถ้าเพี้ยนไปมักเกิดจากอุบัติเหตุ มีอะไรบางอย่างในระบบกันสะเทือนเสียหาย หักงอ ต้องตรวจเช็คดูโดยละเอียดครับ