จัดการ"เมาแล้วขับ"เจอสูตร2-4-12-24

นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวในงานแถลงข่าว โครงการ "เมาไม่ขับ ไม่ใช่แค่ปรับ จะถูกจับคุมประพฤติ" ว่า กรมคุมประพฤติร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิเมาไม่ขับ กองบังคับการตำรวจจราจรและพันธมิตร รณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกประชาชนทั่วไป ไม่ให้ขับขี่รถขณะเมาสุรา ซึ่งปี 2547 ที่ผ่านมามีคดีความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.จราจรทางบกและขับรถประมาท รวม 38,450 ราย ศาลสั่งทำงานบริการสังคม 30,962 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นคดีเมาแล้วขับ 3,814 ราย ศาลสั่งทำงานบริการสังคม 3,429 ราย คิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้กระทำผิด ซึ่งกรมฯได้จัดกิจกรรมทำงานบริการสังคม เช่น ช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุบนถนน ร่วมกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ดูแลผู้ป่วยร่วมกับโรงพยาบาลตำรวจ ศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยเน้นให้ประชาชนได้รู้ถึงโทษของการเมาแล้วขับ เมื่อถูกจับดำเนินคดีจะต้องได้รับโทษตามสูตร 2-4-12-24 โดยในขั้นแรก เลข 2 คือจะต้องเสียเงินประกันตัว 20,000 บาท มิฉะนั้นก็ต้องถูกคุมขังในคุก เลข 4 คือ ศาลจะสั่งลงโทษปรับ 4,000 บาท เลข 12 คือ ถูกโทษคุมประพฤติเป็นเวลา 1 ปี หรือ 12 เดือน และเลข 24 คือ ถูกสั่งทำงานบริการสังคมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

ด้านพล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล ผบก.จร. กล่าวว่า สถิติการจับกุมคดีเมาแล้วขับ ปี 2547 ที่ผ่านมาใน กทม. มีผู้ถูกดำเนินคดีถึง 13,078 ราย หรือเฉลี่ยเดือนละกว่า 1,000 ราย และในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมากวดขันความเมาทั่วประเทศ เพียง 7 วัน จับกุมได้ 6,624 ราย จึงขอให้ประชาชนตระหนักถึงโทษของการขับขี่ขณะเมาสุรา โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ เพราะไม่เพียงแต่ถูกจับเสียค่าปรับเท่านั้น จะต้องส่งฟ้องศาล และถูกทำงานบริการ สังคมด้วย ทั้งนี้ บก.จร. ได้ร่วมจัดกิจกรรมสำหรับผู้ถูกคุมประพฤติ ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นอาสาจราจร ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถและพาเด็กข้ามถนน โดยจะเริ่มโครงการในวันที่ 2 เม.ย. นี้