Skip Navigation


 

โลกของคนหูหนวก


English Version หน้าแรก Thai Version

เอไอเอสดึงคนหูหนวกเป็นคอลเซ็นเตอร์!!

ผู้พิการทางหูที่ต้องการรับข้อมูลจากเอไอเอสไม่จำเป็นต้องขอให้คนปกติโทรศัพท์เข้ามาสอบถามคอลเซ็นเตอร์ แล้วให้คนผู้นั้นแปลเป็นภาษามือกลับไปยังผู้พิการต่ออีกชั้นแล้ว
เพราะวันนี้เอไอเอสเปิดตัวโครงการคอลเซ็นเตอร์เพื่อคนพิการทางหู เปิดโอกาสให้ลูกค้าสอบถามข้อมูลผ่านเว็บแคมด้วยตนเอง ระบุเจตนาหลักคืออยากให้ผู้พิการมีงานทำ
ย้ำภาพความรับผิดชอบสังคมผ่านกระบวนการ CSR ด้วยเงินกว่า 300 ล้านบาท

นายสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) กล่าวว่าเอไอเอสมีความต้องการในการดำเนินโครงการ Corporate Social
Responsibility หรือ CSR อย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญต้องทุ่มเททุกอย่างทั้งงบประมาณและเวลา เพื่อให้โครงการต่างๆ เกิดประโยชน์ต่อสังคมในด้านต่างๆ ซึ่งในส่วนของผู้พิการ
นั้นเอไอเอสให้ความสำคัญในการเปิดโอกาส เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพให้ผู้พิการ ด้วยหวังที่จะเห็นผู้พิการเกิดความภูมิใจในตนเอง สามารถแสดงขีดความสามารถที่มีอยู่และ
ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนปกติ โดยไม่เป็นภาระต่อครอบครัวและสังคม

'คนพิการไม่ได้ต้องการความเห็นใจหรือความสงสาร แต่ต้องการโอกาสในสังคมมากกว่า ซึ่งงบประมาณสำหรับโครงการ CSR ทั้งหมดของเอไอเอสอยู่ที่ 300 ล้านบาท
โดยส่วนหนึ่งจะนำมาใช้เพื่อพัฒนาและให้โอกาสคนพิการในการเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์'

ในปีที่ผ่านมาเอไอเอสได้เริ่มโครงการเอไอเอสสร้างอาชีพคอลเซ็นเตอร์แก่ผู้พิการทางสายตาด้วยการรับผู้พิการทางสายตาเข้าเป็นพนักงานประจำของบริษัทโดยปฏิบัติหน้าท
ี่คอลเซ็นเตอร์ด้วยการนำความรู้ความสามารถด้านไอทีหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่มาใช้ในการประกอบอาชีพโดยเอไอเอสได้มอบสวัสดิการต่างๆ เหมือนกับพนักงานปกติของ
เอไอเอส

ปัจจุบันมีพนักงาน คอลเซ็นเตอร์ ผู้พิการทางสายตา 22 คน โดย 11 คน ปฏิบัติงานประจำอยู่ที่บริษัท และอีก 11 คน ปฏิบัติงานประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการ คอลเซ็นเตอร์แด่
ผู้พิการทางสายตา มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นอกจากนี้เอไอเอสได้ขยายโอกาสไปยังเขตภูมิภาค โดยร่วมมือกับโรงเรียนสอนคนตาบอด
ภาคเหนือ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดศูนย์ปฏิบัติการ คอลเซ็นเตอร์แก่ผู้พิการทางสายตา มีพนักงานจำนวน 8 คน ซึ่งเอไอเอสให้การสนับสนุนเครื่องมือ
อุปกรณ์ ความรู้ต่างๆโดยให้โรงเรียนเป็นผู้ดูแล

นายสมประสงค์กล่าวว่าเอไอเอสได้ขยายโอกาสการเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์มาสู่ผู้พิการทางการได้ยิน (หูหนวก) ซึ่งข้อมูลจาก สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพ
คนพิการแห่งชาติ พบว่ากว่า 100,000 คน ที่จดทะเบียนเป็นผู้พิการทางการได้ยินนั้น มีเพียง 1% หรือประมาณ 1,000 คนเท่านั้นที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี
และในจำนวนนี้มีโอกาสได้เข้าทำงานในบริษัทได้ไม่ถึง 10% โดยส่วนใหญ่จะทำงานด้านการจัดเอกสาร การตรวจพิสูจน์อักษร จึงทำให้ส่วนใหญ่ของผู้พิการทางการได้ยิน
ไม่ได้รับโอกาสในการนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่มาใช้ในการทำงาน ที่สำคัญด้วยคุณสมบัติของผู้พิการทางการได้ยินพบว่ามีความสามารถพร้อมเรียนรู้และหา
ประสบการณ์ใหม่ ทั้งมีความตั้งใจ มีสมาธิในการทำงานสูงกว่าคนปกติทั่วไป

'เอไอเอสจึงเปิดโอกาสให้ผู้พิการทางการได้ยินเข้ามาเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์จำนวน 8 คน และพนักงานกลุ่มนี้ จะได้รับสิทธิ และสวัสดิการต่างๆ เช่นเดียวกับพนักงาน
ผู้พิการทางสายตา และพนักงานปกติทั่วไปของบริษัทฯ ซึ่งเอไอเอสยังอยู่ระหว่างวางแผนเพื่อสร้างอาชีพให้ผู้พิการซ้ำซ้อนด้วย'

นางวิลาสินี พุทธิการันต์ รองกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหารลูกค้าและการบริการ เอไอเอส กล่าวว่า เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการมอบโอกาสทางอาชีพแด่ผู้พิการ
อย่างต่อเนื่อง เอไอเอสจึงขยายโอกาสนี้สู่ผู้พิการทางการได้ยิน(หูหนวก) ด้วยการเปิดรับสมัครผู้พิการกลุ่มนี้เป็นพนักงานประจำ โดยทุกคนต้องผ่านกระบวนการการคัดสรร
ตามเกณฑ์และมาตรฐานที่วางไว้เช่นเดียวกับพนักงานปกติทั่วไป

ปัจจุบันพนักงานกลุ่มนี้มีจำนวน 8 คน ได้เริ่มงานร่วมกับเอไอเอสมาเป็นระยะเวลา 1 ปี ในช่วงแรกพนักงานกลุ่มนี้จะได้รับการอบรมด้านข้อมูลการบริการต่างๆ มีการทดสอบ
ความถนัด ความชำนาญของผู้พิการ โดยทำหน้าที่ให้บริการตอบคำถามข้อมูลต่างๆ ผ่านบริการที่เรียกว่า Real Talk ภาษามือ (iSign) ผ่านเว็บแคมจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งมี
ผู้พิการทางการได้ยินซึ่งเป็นลูกค้าเอไอเอสประมาณเกือบ 2 หมื่นคนเป็นผู้ใช้บริการหลัก โดยพนักงานกลุ่มนี้จะให้บริการแก้ไขข้อมูล ปรับเปลี่ยน หรือยกเลิกข้อมูล เช่น
กรณีลูกค้าติดต่อขอยกเลิก คอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการ หรือโหลด GPRS โหลดเพลงคอลลิ่ง เมโลดี้

'ผู้พิการทางการได้ยินจะใช้บริการส่ง SMS หรือ ดาวน์โหลดรูปภาพต่างๆ รวมทั้งการสอบถามเรื่องโปรโมชัน การที่มีพนักงานคอลเซ็นเตอร์พิการทางการได้ยินเหมือนกัน
ทำให้สามารถสื่อสารได้โดยตรงผ่านเว็บแคมของพีซีที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งจะทำให้ได้รับความสะดวกมากขึ้น จากเดิมที่ต้องมีคนกลางสื่อสารให้ ซึ่งผู้พิการทางการได้ยิน
ได้รับประโยชน์ทั้งสองทางคือได้โอกาสในการทำงานและได้รับบริการตรงผ่านพนักงาน คอลเซ็นเตอร์ผู้พิการด้วยกันนั่นเอง'

นางวิลาสินี กล่าวว่า เพื่อย้ำเป้าหมายที่ต้องการเห็นผู้พิการสามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนปกติได้อย่างมีความสุข เอไอเอสได้เตรียมความพร้อมโดยจัดส่งทีมงานที่เกี่ยวข้อง
เข้าอบรมเรียนรู้ภาษามือควบคู่ไปกับการจัดทำวิดีโอแนะนำภาษามือเผยแพร่ภายในองค์กร เพื่อให้พนักงานปกติทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้และนำมาใช้ในการสื่อสารกับพนักงาน
คอลเซ็นเตอร์ผู้พิการทางการได้ยิน

ทั้งนี้เอไอเอส มีโครงการ CSR หลายโครงการอย่าง เอไอเอสแฟมิลี่ แรลลี่เพื่อสายใจไทย ที่จัดทำมานานกว่า 16 ปี โครงการสานรักสนับสนุนสถาบันครอบครัว ก้าวสู่ปีที่ 9
โครงการถังน้ำใจเอไอเอสเพื่อไทยไม่ขาดน้ำ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 ตุลาคม 2551 11:29 น.

กลับไปหน้าแรก