'คนพิการ'ซัด
พปช.อย่าแทรกแซงท่าขยุ้มจมูกแทน'หมัก'ชี้หากจะเปลี่ยนให้ออกเงินระดมกึ๋น!
ที่รัฐสภา นายวิริยะ
นามศิริพงษ์พันธุ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ในฐานะประธานสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทยกล่าวถึง
กรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่าแกนนำพรรคพลังประชาชนไม่พอใจที่ล่ามแปลภาษามือที่ใช้สัญลักษณ์เป็นมือขยุ้มจมูกแทนชื่อนายสมัคร
สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีว่า หลังจากที่พรรคพลังประชาชนเห็นว่าคนหูหนวกใช้ท่านี้แทนนายสมัคร
คนรู้จักของตนที่อยู่พปช.ก็โทรมาหาตนว่าเป็นไปได้
หรือไม่ที่จะเปลี่ยนท่า ซึ่งตนได้อธิบายไปว่าการใช้สัญลักษณ์นี้ไม่ใช่การดูถูกนายสมัคร
แต่คนหูหนวกจะใช้ท่านี้แทนนายสมัครมานานหลายสิบป
ีแล้วเพราะเป็นนักการเมืองเก่าแก่ ถ้าใช้แบบอื่นก็จะสื่อสารกันไม่เข้าใจ
อย่างไรก็ตาม หากทางพรรคพลังประชาชน ไม่ต้องการให้ใช้สัญลักษณ์นี้
ก็ต้องออกค่าใช้จ่ายจัดสัมมนาโดยเชิญผู้เกี่ยวข้องเป็นร้อยคนมาทำความเข้าใจกันและหาข้อตกลงร่วมกันว่าจะใช้สัญลักษณ์อื่น
แต่ถามว่าจะคุ้มหรือไม่กับการจัดสัมมนาใหญ่เพื่อคนๆเดียว
หรืออาจจะในโอกาสนี้คิดภาษาแทนนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร
พร้อมกันไปด้วย และหากมีการสร้างภาษามือขึ้นมาใหม่ก็จะทำให้การสื่อสารไม่เป็นธรรมชาติ
กลายเป็นภาษาประดิษฐ์จะทำให้คนหูหนวกเข้าใจ
ยากกว่าภาษาที่เป็นธรรมชาติ
'การสื่อสารด้วยภาษามือมี
2 ลักษณะคือ 1. เป็นไปโดยธรรมชาติเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยหยิบเอาจุดเด่นของบุคคลมากำหนดเป็นสัญลักษณ์เช่นกรณี
ของนายสมัครที่ล่ามทำท่าขยุ้มจมูกและ 2.สื่อสารด้วยการทำนิ้วมือเป็นตัวสะกด
ซึ่งในกรณีของนายสมัครหากต้องสะกดทีละตัว อาจจะไม่ทัน
และคนหูหนวกจำนวนหนึ่งก็สะกดคำไม่ได้และยากต่อการเข้าใจของเขาขอยืนยันว่าการใช้ภาษามืออย่างนี้ไม่ได้เป็นการดูถูกหรือดูหมิ่นใดๆทั้งสิ้น
แต่เป็นการหยิบเอาสิ่งที่เข้าใจตรงกันมากำหนดเป็นภาษามือเท่านั้น
ดังนั้นการเข้ามาแทรกแซงเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
ไม่อยากให้พรรคพลังประชาชน
คิดมากในเรื่องนี้ เพราะประเทศชาติมีเรื่องอื่นที่จะทำอีกมาก
ทั้งนี้หากต้องการสร้างมาตรฐานในภาษาของคนพิการก็ควรจะจัดตั้งสถาบันล่ามแห่งชาติ
ขึ้นมาเพื่อบัญญัติศัพท์ของคนพิการเช่นเดียวกับราชบัณฑิตยสภา'
นายวิริยะ กล่าว
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่
30 มกราคม มีรายงานข่าวแจ้งว่า ที่ปรึกษาพรรคพลังประชาชนได้โทรศัพท์มาต่อว่าแสดงความไม่พอใจในการแปลภาษามือ
ในขั้นตอนการเอ่ยชื่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีโดยการทำมือครอบจมูก
เรียกร้องให้เปลี่ยนท่าทางนั้น แม้ว่าจมูกจะเป็นจุดเด่น
ของนายสมัครแต่สร้างความไม่พอใจให้กับหลายคน
ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษามือรายหนึ่งชี้แจ้งว่า
ผู้ที่เป็นล่ามมีหน้าที่สื่อสารให้คนหูหนวกเข้าใจมากที่สุด
ล่ามเป็นเพียงสื่อกลาง เรื่องนี้เป็นเรื่องของ
วัฒนธรรม การที่คนหูปกติเสียดสีกัน แต่วัฒนธรรมของคนหูหนวกนั้นไม่ได้มองเช่นนั้น
เป็นเพียงการมองจุดเด่นของแต่ละบุคคลมากกว่า
การเห็นจุดเด่นของนายสมัครที่จมูกและนำมาเป็นสัญลักษณ์แทนนั้น
ไม่ได้เป็นการว่านายสมัคร ถ้าคนอื่นไม่เข้าใจและมองว่าเป็นการต่อว่านายสมัคร
เท่ากับเขาเหล่านั้นยังไม่เข้าใจในวิถีชีวิตของคนหูหนวกดี
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษามืออีกรายกล่าวว่า
ภาษามือของไทยนั้นได้รับการรับรองว่าเป็นภาษาประจำชาติของคนหูหนวกไปแล้ว
เป็นภาษาที่
คนหูหนวกใช้ประจำกลุ่มของพวกเขา หากจะมีการเปลี่ยนภาษามือเรียกนายสมัคร
คนที่จะเปลี่ยนก็ไม่ใช่ล่าม ต้องถามคนหูหนวก เพราะพวกเขาคือ
ผู้ที่รับรู้และเข้าใจในท่าทางดังกล่าว หรือไม่ก็ต้องมีการไปพบนายสมัครว่าท่านต้องการแบบไหนและคนหูหนวกทั้งประเทศรับได้หรือไม่
ผู้พิการหูหนวกรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า
ภาษามือของคนหูหนวกรับรู้กันมานานแล้วว่านายสมัครมีสัญลักษณ์เป็นการทำมือครอบจมูก
หากจะให้เปลี่ยน
นั้นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะมันก็เป็นภาษาของพวกตน ที่ทุกคนเข้าใจร่วมกัน
|