Skip Navigation


 

โลกของคนหูหนวก


English Version หน้าแรก Thai Version

นักศึกษาพิการ"ธรรมศาสตร์" ความเท่าเทียมทางสังคม

โดย กรรณิการ ฉิมสร้อย

ด้วยความแน่วแน่ในการเป็นมหาวิทยาลัยของประชาชน ที่ยึดมั่นในความเสมอภาคทางการศึกษา "มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" (มธ.) จึงเปิดโอกาสให้ประชาชนทั้งฐานะดีและยากจน ไม่ว่าชนบทหรือในเมือง โดยเฉพาะผู้พิการ ได้รับการศึกษาเรียนรู้อย่างเท่าเทียมในสังคม

สิ่งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดำเนินการเพื่อรองรับกับเรื่องนี้ คือการเปิดรับ "นักศึกษาพิการ" ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และการเปิด "ศูนย์บริการนักศึกษาพิการ" ซึ่งที่ผ่านมามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้เปิดรับนักศึกษาที่มีความพิการเข้ามาศึกษาเป็นจำนวน 70 คน

*ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงรายละเอียดเรื่องนี้ ว่า การเปิดรับนักศึกษาพิการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเปลี่ยนทัศนคติของสังคมที่มีต่อคนพิการ และสร้างสำนึกจิตอาสาให้แก่เยาวชน นิสิต นักศึกษา เป็นการพัฒนาความรู้ด้านการช่วยเหลือคนพิการ และช่วย

พัฒนาศักยภาพของคนพิการให้ทัดเทียมกับคนทั่วไปในสังคม

"เพราะธรรมศาสตร์ยึดมั่นในความเป็นธรรมและความเสมอภาคในทุกด้าน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการศึกษา จึงพยายามเปิดโอกาสให้ประชาชนทั้งที่มีฐานะดีและยากจนไม่ว่าในเมืองหรือชนบทได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง โดยเชื่อมั่นว่ากระบวนทัศน์ใหม่นี้ นอกจากจะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของคนพิการแล้ว ยังจะมีส่วนช่วยทำให้สังคมไทยเข้มแข็งและอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขเพิ่มขึ้น รัฐบาลจะใช้งบประมาณเพื่อช่วยเหลือคนพิการน้อยลงในระยะยาว แต่ได้รับผลการลงทุนครั้งนี้มากขึ้น" คำกล่าวของอธิการบดี มธ.

นอกจากมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพของนักศึกษาผู้พิการแล้ว ยังเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปการศึกษาตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ และยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการขยายโอกาสทางการศึกษาให้ผู้พิการที่มีศักยภาพในการศึกษาตามความสมัครใจและความถนัดของผู้พิการเอง โดยให้ผู้พิการมีโอกาสศึกษาร่วมกับนักศึกษาปกติในชั้นเรียนเดียวกัน เรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมได้อย่างสมานฉันท์

อธิการบดีกล่าวเพิ่มเติมว่า มหาวิทยาลัยได้เปิดรับนักศึกษาที่มีความพิการเข้าเรียนในระดับปริญญาตรี ตั้งแต่ปีการศึกษา 2546 ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแรกในประเทศไทย และต่อมาได้เปิด "ศูนย์บริการนักศึกษาพิการ" ขึ้น ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อปี 2548 หลังจากพบว่านักศึกษาพิการส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จในการเรียน เพราะขาดปัจจัย อุปกรณ์ และระบบต่างๆ ที่เกื้อหนุนต่อการเรียนรู้ของเขา
1.สุเนตรตรา วณิชกุล 2.อรรถพล พรมดี โชว์ความสามารถการเขียนด้วยมือที่พิการ


ดังนั้น การเปิด "ศูนย์บริการนักศึกษาพิการ" มาทำหน้าที่ดูแลให้บริการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวก ให้คำปรึกษาตลอดจนจัดหางานให้แก่นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจึงเป็นการพัฒนาคุณภาพของนักศึกษาพิการอย่างครบวงจร

สำหรับปีการศึกษา 2551 มีนักศึกษามาใช้บริการจากศูนย์ รวม 68 คน นักศึกษาเหล่านี้ได้เกรดเฉลี่ยสูงกว่า 2.00 มากกว่าร้อยละ 91 และมหาวิทยาลัยยังจัดหาทุนการศึกษาให้ด้วย

"นักศึกษาพิการที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้พิการทางการได้ยินที่ใช้เครื่องช่วยฟังได้ ผู้พิการทางกายหรือการเคลื่อนไหวที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน และผู้พิการทางการมองเห็น เพราะคนเหล่านี้ยังสามารถทำอะไรได้หลายๆ อย่างเฉกเช่นเดียวกับคนปกติ และไม่เฉพาะแต่ปริญญาตรีเท่านั้น เรายังมีนักศึกษาพิการเรียนระดับปริญญาโทในคณะนิติศาสตร์ และคณะศิลปศาสตร์อีก 2 คนด้วย" อธิการบดีกล่าว

ด้านนักศึกษาพิการ "น้องมิว-สุเนตรตรา วณิชกุล" ผู้พิการทางสายตา เข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ มธ. กล่าวถึงโอกาสที่ได้รับจากรั้วเหลืองแดง ว่า มีความฝันมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าอยากเรียนกฎหมาย เพราะกฎหมายเป็นสิ่งที่ทำให้คนอยู่ในกรอบซึ่งนำไปสู่สังคมสันติสุข และยังช่วยให้คนเราดำเนินชีวิตในวิถีทางที่ถูกต้อง จึงคิดอยู่เสมอว่าต้องเข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังที่ มธ.เปิดโอกาสให้กับคนพิการ

"เป็นคนระยอง ที่บ้านทำอาชีพค้าขาย ซึ่งทีแรกไม่คิดว่าจะมีโอกาส แต่ธรรมศาสตร์เปิดโอกาสและอำนวยความสะดวกให้แก่คนพิการในด้านต่างๆ มากมาย ทำให้เราได้แสดงศักยภาพที่มีได้อย่างเต็มที่ และนำไปสู่ความร่วมมือกันของทั้งคนพิการและคนที่มีร่างกายปกติในการพัฒนาสังคมของเราในองค์รวม

"ในแง่ของคนพิการแล้ว ยังเห็นว่าสังคมปัจจุบันความเหลื่อมล้ำทางด้านสิทธิและเสรีภาพของคนพิการยังมีอยู่มาก อาจเป็นเพราะที่ผ่านมาประเทศไทยเรายังมีกฎหมายที่ให้สิทธิและคุ้มครองเสรีภาพของคนพิการน้อยมาก จึงเป็นความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะศึกษาและนำความรู้ทางด้านกฎหมายไปผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมกันยิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป"
ดร.สุรพล นิติไกรพจน์


ในอนาคต น้องมิวบอกว่า ตั้งใจจะประกอบอาชีพเป็นนักกฎหมาย เพราะทำให้มีโอกาสได้ช่วยเหลือและให้คำแนะนำทางด้านกฎหมายกับคนอื่นๆ นับเป็นอีกทางหนึ่งที่จะได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และให้คนพิการเข้ามาอยู่ในสังคมปกติต่อไปได้

"น้องแพร-เหมือนแพร วัฒนะโชติ" นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มธ. มีความพิการทางการได้ยิน กล่าวว่า ที่เลือกเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ เพราะได้เห็นตัวอย่างจากพ่อที่ทำงานในบริษัทหลักทรัพย์ และเคยไปเข้าค่ายเศรษฐศาสตร์แล้วชอบ เพราะรู้สึกว่าวิชาเศรษฐศาสตร์ทำให้คิดอย่างมีระบบ มีเหตุผล มากขึ้น และสามารถนำไปปรับใช้ช่วยเหลือสังคมประเทศชาติ

"ที่ชอบมากคือแนวคิดของอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ทำให้มีแรงบันดาลใจอยากจะเรียนด้านนี้มากยิ่งขึ้น และการที่ธรรมศาสตร์เปิดโอกาสให้นักศึกษาพิการเข้ามาศึกษาที่นี้ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ช่วยให้พวกเรามีความหวังในอนาคต มีความหวังที่จะอยู่ในสังคมอย่างมีคุณค่า ได้ทำตามอุดมการณ์ที่ได้เรียนมา ได้ช่วยเหลือคนในสังคมผู้พิการคนอื่นๆ ขอบคุณธรรมศาสตร์กับโอกาสที่ให้แก่คนพิการ"

"อรรถพล พรมดี" เป็นอีกหนึ่งนักศึกษาในโครงการนี้ เขาบอกเล่าอย่างอารมณ์ดีว่า พ่อแม่ค้าขายอยู่ จ.พิจิตร แต่มีความมุ่งมั่นมากอยากมาเรียนธรรมศาสตร์ เพราะไม่มองข้ามคนพิการ และยังมีสาขาวิชาที่ต้องการเรียน คือ สาขาปกครอง

"ไม่เฉพาะสาขาที่ผมชอบเท่านั้น ธรรมศาสตร์ยังมีสาขาอื่น คณะอื่นให้คนพิการอื่นๆ ได้เข้าเรียน ส่วนผมนั้นสนใจเรื่องของการเมืองการปกครอง เพราะจะได้นำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อตนเองและสังคม ที่สำคัญนำความรู้กลับไปพัฒนาท้องถิ่นบ้านเกิด ปลื้มใจมาก ไม่คาดคิดว่าจะได้เรียนในธรรมศาสตร์ และนับต่อจากนี้จะเดินตามความฝันให้ได้ ตั้งใจเรียนไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก"

ในอนาคต อรรถพลบอกว่า อยากไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ โดยจะพยายามสอบทุน ก.พ.ให้ได้

"ที่ผมอยากเรียนต่อโท เพราะอยากเรียนให้สูงมีความรู้ให้มาก ด้านการปกครองเป็นเรื่องที่ต้องสะสมความรู้ และคิดว่าความพิการของร่างกายผมไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนด้านนี้แต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาเรียนร่วมกับเพื่อนๆ ในธรรมศาสตร์ที่เป็นคนปกติ ไม่มีเพื่อนคนไหนรังเกียจเลย มีแต่จะคอยถาม คอยช่วยเหลือ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ดีมากๆ"

คนพิการตามปกติแล้วเป็นเสมือนประชาชนชั้นสองในสังคม โดยเฉพาะทางด้านการศึกษา โครงการนักศึกษาพิการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงเป็นอีกความหวังหนึ่งของเยาวชนพิการที่จะมีโอกาสได้เล่าเรียนมหาวิทยาลัยได้เช่นคนปกติในสังคม ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ต่างจากเยาวชนคนปกติอื่นๆ หากได้รับการเหลียวแลและเอาใจใส่ ได้รับการฟื้นฟูบำบัดอย่างถูกต้อง

นักศึกษาพิการก็คืออนาคตสำคัญยิ่งของประเทศ

ศูนย์บริการนักศึกษาพิการ

จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของอธิการบดี ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2548 มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลให้บริการ จัดหาสิ่งอำนวยความสะดวก อบรม ให้คำปรึกษา และจัดหางาน แก่นักศึกษาพิการสังกัดธรรมศาสตร์

ปัจจุบันมีนักศึกษาพิการ หลังจากศูนย์บริการนักศึกษาพิการดำเนินงานได้ 1 ปี จึงประเมินผล พบว่า นักศึกษาพิการ 73.33% มีคะแนนเกรดเฉลี่ยสูงกว่า 2.00 และนักศึกษาที่มีเกรดเฉลี่ยต่ำกว่า 2.00 มี 26.67% ปีการศึกษา 2550 ศูนย์บริการนักศึกษาพิการมีนักศึกษาทั้งสิ้น 56 คน นักศึกษาที่ได้เกรดเฉลี่ยสูงกว่า 2.00 จำนวน 51 คน ต่ำกว่า 2.00 มีทั้งสิ้น 5 คน คิดเป็นนักศึกษาพิการที่เกรดเฉลี่ยสูงกว่า 2.00 จำนวน 91.07% และต่ำกว่า 2.00 จำนวน 8.93%

สำหรับการเปิดรับนักศึกษาพิการ การคัดเลือกใช้ทดสอบความถนัด และวิชาเฉพาะในบางคณะไม่ได้ใช้ O-NET, A-NET โดยปีการศึกษาแรก 2546 นักศึกษาพิการ 12 คน, ปี 2547 จำนวน 6 คน, ปี 2548 จำนวน 12 คน, ปี 2549 จำนวน 22 คน, ปี 2550 จำนวน 16 คน และปี 2551 มีนักศึกษาพิการจำนวน 19 คน

มติชนรายวัน วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11177 หน้า 21

กลับไปหน้าแรก