I need you

By … Nana

วันเกิดของผมนั้น 4 ปีมีครั้ง ใช่แล้วล่ะ ผมเกิดวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ถึงจะ 4 ปีมีครั้งก็ตาม แต่พ่อแม่ของผมก็ไม่คิดว่ามันจะสำคัญอะไรเลย มันเหมือนกับว่าผมไม่มีวันเกิดซะด้วยซ้ำ ทุกๆ 4 ปีในวันเกิดของผม ผมมักจะเกิดอาการผิดปกติกับร่างกายของผม ผมจะปวดหัวและไข้ขึ้นสูงทุกครั้ง แถมยังได้ยินเสียงของผู้ชายเรียกชื่อผมอีก พรุ่งนี้ก็คงจะเหมือนกัน เพราพรุ่งนี้เป็นวันเกิดของผม ตอนนี้ผมย้ายออกมาอยู่แมนชั่นคนเดียวแล้ว โดยที่พ่อกับแม่ของผมอนุญาตแล้ว ที่จริงพวกท่านไม่ค่อยจะสนใจว่าผมจะทำอะไรอยู่แล้ว พวกท่านสนแต่เรื่องของตัวเองซะมากกว่าเรื่องของผมซะอีก พรุ่ง นี้ผมก็จะอายุครบ 16 ปีแล้ว ผมหวังอย่างมากถ้ามันจะไม่เกิดอะไรแปลกๆ ขึ้นกับผมอีก

---------------------------------------------------

11.45 PM. อีก 15 นาทีก็จะเป็นวันเกิดของผมแล้ว ทำไมถึงได้รู้สึกตื่นเต้นผิดปกติอย่างนี้นะ อยากจะนอนแต่ก็นอนไม่หลับ ต้องมีอะไรซักอย่างแน่ๆ ผมคิดไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน ผมหันไปมองนอกหน้าต่าง มันเหมือนมีอะไรมาดลใจผม จู่ๆ ก็มีแสงวาบขึ้นมาตรงหน้าผม แล้วผมก็สลบไป…….

“…เฮ้! นาย…นี่นายน่ะ ตื่นซะทีสิ!” เสียงของใครกันนะ ถ้าเป็นเสียงของผู้หญิงคงจะดีกว่านี้ แต่นี่กลับเป็นเสียงของผู้ชาย …หนวกหูจัง

“ตื่นซะทีเถอะ! โอ้ย! ตื่น! ตื่น! ตื่น!!” เสียงนั้นยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ผมชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ นี่ถ้าไม่เกรงใจคนข้างห้องล่ะก็ผมไม่สนอยู่แล้ว ผมจึงลุกพรวดพลาดขึ้นมา

“หนวกหูน่า! ปลุกอยู่ไ….” ผมนิ่งอึ้งและแปลกใจกับชายตรงหน้า ใครกันผมไม่เห็นจะรู้จักเลย แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่ห้องของผมได้ล่ะ? ชายหนุ่มผมดำยาวปะบ่าตรงหน้าผม “ตื่นซะทีนะ นายนี่หลับเป็นตายเลยนะ” ชายหนุ่มไม่วายจะพูดกัด

“นะ…นาย…นายเป็นใครกัน?…” ผมถามออกไปด้วยเสียงสั่น

“อ้อ! เกือบลืมแนะนำตัวไป ฉันชื่อ Takuro นาย Jiro สินะ?”

“เฮ้ย! ทำไมรู้จักชื่อฉันล่ะ!?” ผมยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ใครกันผมไม่เห็นจะรู้จักมักจี้ด้วยซะหน่อย แล้วมารู้จักผมได้ไงกัน ….เอ๊ะ! ทำไมเค้าเงียบไปล่ะ แปลกจัง ผมพอจะดึงสติกลับมาได้จึงถามคำถามเดิมขึ้นอีกครั้ง

“นาย? เงียบทำไม? เมื่อตะกี้ยังจ้ออยู่เลย บอกมาวะทีสิว่ารู้จักฉันได้ไงกัน?”

“ไม่นานนายก็จะรู้เอง นี่ก็ใกล้จะตี 2 แล้ว ฉันว่าได้เวลาที่เราจะต้องไปกันแล้วนะ”

“ไปไหน?”

“แล้วนายก็จะรู้เอง” ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรเค้าก็ดึงแขนผมให้ลุกขึ้น แล้วตามเค้าไป เค้าพาผมไปที่ระเบียงนอกห้องโดยเร็ว พอผมจะพูดอะไรขึ้นเค้าก็กลับปิดปากผมซะนี่

‘หือ? อะไรกัน? คงไม่คิดจะโดดลงไปหรอกนะ’ ผมคิด แต่แล้วจู่ๆ เค้าก็อุ้มผมแล้วกระโดดขึ้นไปบนราวระเบียง

“ว้าก~!! นี่มันชั้น 4 นะ นายคงไม่คิดที่จะกระโดดลงไปหรอกนะ?” ผมเกิดอาการตกตะลึงปนความกลัวขึ้นเมื่อมองไปลงด้านล่าง ก็มันออกจะสูงขนาดนี้!!

“ไม่หรอก เราจะไม่กระโดดลงไป แต่จะหายตัวไป”

"หายตัว?” ผมยังไม่ทันที่จะได้ตกใจอะไรเลย จู่ๆ ก็มีแสงวาบขึ้นมา จนผมต้องหลับตาปี๋

---------------------------------------------------

“ลืมตาได้แล้วล่ะ Jiro” ผมลืมตาขึ้นก็ต้องตกใจอีกครั้ง ตรงหน้าผมมีปราสาทอาหรับราตรีตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลทรายอย่างโอ่อ่า มันช่างใหญ่โตซะจริง

“เอ่อ…งั้นนายก็ปล่อยฉันลงได้รึยังล่ะ?”

“เรียกชื่อฉันก่อนสิ” หนอย~ เรื่องมากชิบ (- -“)

“ก็ได้ๆ Takuro แล้วไงปล่อยฉันลงซะทีสิ” พอผมพูจบก็ต้องเจ็บตัวทันทีเลย ก็จะอะไรซะอีกล่ะ ก็เจ้าหมอนี่ดันปล่อยตัวผมลงกับพื้นอย่างแรง จนผมต้องเจ็บตัวอย่างนี้น่ะสิ

“ปล่อยดีๆ ไม่เป็นเรอะ!?” ผมชักโมโหก็เค้าทำผมเจ็บขนาดนี้นี่ แถมยังนิ่งเฉยไม่คิดจะช่วย

ผมเลย ทำเอาผมอยากจะตะโกนด่ากลับซักชุดจริงๆ ไม่ทันที่ผมจะได้ด่าว่าอะไรกลับ เจ้าหมอนี่…เอ่อ…Takuro ก็ดึงแขนผมให้ลุกขึ้น แล้วลากให้ตามไป ผมถูกพาไปห้องห้องหนึ่งซึ่งถูกจัดไว้ซะสวยหรู จะว่าไปก็หรูเริดมากๆ เลยล่ะ

“นี่ห้องของนาย จำไว้ว่าอย่าออกไปไหนถ้าฉันไม่มาตาม เข้าใจนะ!”

“ห๊า!? อะไรนะ!? ทำไมฉันต้องทำอะไรแบบนั้นด้วยเล่า!?” ฮึม~…หนอย~ เจ้าหมอนี่ ผมโมโหสุดเลยนะ ไม่เคยเจอใครแบบนี้มาก่อน แถมมาสั่งอะไรพิลึกๆ แบบนั้นหน้าตาเฉยอีก ชักทนไม่ไหวแล้วนะ คอยดูเถอะฉันจะหาทางหนีออกไปจากที่นี่ให้ได้เลย คอยดู

--------------------------------------------

ค่ำวันนั้น หลังจากที่ผมได้รับประทานอาหารเย็นที่สาวใช้ (ผมคิดว่างั้นนะ) นำมาให้ ผมก็เริ่มปฏิบัติการตามแผนที่วางไว้ ผมเอาผ้าปูที่นอนมาแดให้ได้ยาวที่สุดแล้วมัดต่อกัน ผมผูกปลายด้านหนึ่งไว้ที่ขาเตียง อีกด้านก็ปล่อยลงไปด้านนอกหน้าต่าง แม้ผมนี่ช่างฉลาดอะไรอย่างนี้นะ พอผมลงมาถึงข้างล่างก็พบว่าไม่มีใครเลยซักคน แหมดีจัง

“ฮึ ฮึ…ทางสะดวก ไม่มีคนเลย”

"จะไปไหนมิทราบ?” แหงะมาอีกแล้วเจ้าเก่า ก็ดูต้นทางดีๆ แล้วเชียวนะ ยังโผล่มาอีก!!

“จะตามไปถึงไหนกันฟะเจ้าบ้านี่!! ฉันจ..” ไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบก็ถูกริมฝีปากของเจ้าหมอนี่ประกบลงที่ริมฝีปากผมซะก่อน จูบที่เล่าร้อนของเค้าทำเอาผมถึงกับอ่อนแรงลง จนแทบจะยืนไม่ไหวด้วยซ้ำ ทำไมนะร่างกายถึงได้รู้สึกร้อนขึ้นมา ร่างกายของผมนี่ช่ายไม่ซื่อสัตย์ซะจริง อย่างกับไม่ใช่ร่างกายของผม โอ้~ย! อารายกาน~เนี่ย! ไอ้ความรู้สึกแปลกๆ นี้

“ปะ…ปล่อย…แฮ่กๆ..”

“อะไรกันนี่แค่จูบเบาๆ เองนะ”

‘เบาบ้าอะไรเล่า! ดันสอดลิ้นเข้ามาด้วย!’ ผมอยากจะเถียงใจจะขาด แต่ปากมันดันไม่ขยับเอาซะเลย

“ทีหลังอย่าเรียกฉันว่า ‘เจ้าบ้า’ อีกนะ ไม่งั้นนายคงต้องเจ็บสะโพกแน่ๆ ชื่อของฉันจำได้ไม่ใช่เหรอ?” หนอ~ย อย่ามาทำหน้าระรื่นแบบนั้นนะเฟ้ย! ไม่ทันที่ผมจะได้รู้ตัวอะไร ผมเจอเข้าอีกแล้ว แต่คราวนี้กลับเป็นจูบที่อ่อนโยนและแสนจะอ่อนหวาน ทำเอาผมเคลิ้มไปเลยทีเดียว ขาผมอ่อนแรงจนแทบจะยืนไม่อยู่ ไม่ทันไรผมก็ถูกเค้าอุ้มพาไปยังห้องห้องหนึ่ง ไม่ใช่ห้องเดิมที่ผมอยู่ เพราะมันใหญ่โตกว่ามาก แถมยังดูหรูหรายิ่งกว่าอีก บรรยากาศภายในห้องนี้มันช่างอบอุ่นซะจริง น่าอยู่กว่าห้องนั้นอีก Takuro วางร่างของผมลงบนเตียงอย่างเบามือ พลางเข้ามากระซิบด้วยเสียงอันอ่อนโยนที่ข้างหูว่า

“อยู่ที่นี่นะ…ฉันจะดูแลนายเอง” อะไรกันเนี่ย หลังจากจูบก็มานี่เลยเหรอ เจ้าคนเขียนบ้า! (- -) ผมอึ้งจนไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่คิดว่าจะทำไงดี จนผล็อยหลับไป