by ~nawo~

Product

หมายเหตุ [จาก ~nawo~] : ความคิดเห็นด้านล่างคัดลอกจาก pantip.com สืบเนื่องจากมีผู้มาตั้งกระทู้ในห้องสวนลุม ว่าใช้เซตาฟิลแล้วแพ้ เกิดอาการขึ้นขุยค่ะ ความเห็นที่คัดลอกมามีของคุณหมูอ้วนตัวใหญ่ คุณรำเพย และของนาวเอง เพราะนอกเหนือจากนั้น ไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของความเห็นจึงไม่สามารถคัดลอกมาได้ อย่างไรก็ตาม ความเห็นที่ไม่ได้คัดลอกมา มีบางท่านบอกว่าใช้แล้วมีอาการแพ้นะคะ แต่ลองอ่านรีวิวด้านล่างประกอบก็แล้วกันค่ะ 

1. Reviewed from Pantip.ccom :
ขึ้นขุยด้วย Cetaphil เนี่ยนะ ไม่น่าค่ะ เพราะมี emollient ตั้งหลายอย่าง ถ้าล้าง Cetaphil แล้วขึ้นขุย คงต้องหันไปใช้พวก Cleansing Milk แทนแล้วล่ะค่ะ เพราะเจลล้างหน้าอื่น ๆ ส่วนใหญ่มีสาร surfactant ในปริมาณสูงกว่านี้ และไม่ค่อยมี emollient ผสมด้วย ไม่ว่าจะเป็น Neutrogena, Lancome, Biotherm, Clinique, Bobbi Brown ฯลฯ

จากคุณ : หมูอ้วนตัวใหญ่ - [ 12 ธ.ค. 45 00:07:50 ]

2. Reviewed from Pantip.ccom :
ROC เจลล้างหน้าที่เป็นน้ำใส ๆ หลอดใหญ่ (จำชื่อรุ่นไม่ได้ แต่เป็นรุ่นที่บอกว่าสำหรับผิวผสมถึงผิวมัน--คิดว่ามีเจลล้างหน้ารุ่นเดียวนะคะ) ก็ใช้สาร surfactant ทั่วไปนี่แหละค่ะ คิดว่าไม่น่าจะอ่อนกว่าอย่างอื่นทั่วไปนะคะ หมูอ้วนเคยใช้เหมือนกัน เจลของ ROC ล้างแล้วแห้งกว่า Cetaphil ค่ะ แต่ก็อีกแหละค่ะ ผิวคนเราไม่เหมือนกันนี่เนอะ บางอย่างหมูอ้วน ฯ ใช้ดี คุณอาจใช้แล้วไม่ดี และหมูอ้วน ฯ คงไม่กล้าเถียงหมอที่บอกคุณมา แต่ข้อมูลด้านล่างนี้ เป็นสิ่งที่ทราบมาน่ะค่ะ

แอลกอฮอล์ใน Cetaphil ไม่ได้เป็นอัลกอฮอล์อย่างเอธิลอัลกอฮอล์ หรือ SD Alcohol ที่ผสมในพวกโทนเนอร์หรอกค่ะ แต่เป็น Cetyl Alcohol, Stearyl Alcohol ซึ่งเป็น Fatty Alcohol คือเมื่อเราสกัด Fatty Acids จนเจือจางลง เราจะได้ Fatty Alcohol ซึ่งเป็น emollient หรือ cleansing agent ได้ค่ะ

ส่วนผสมของ Cetaphil Gentle Skin Cleanser ได้แก่ น้ำ, Cetyl Alcohol, propylene glycol, sodium lauryl sulfate, stearyl alcohol นอกนั้นเป็นสารกันเสียตระกูลพาราเบน 3 อย่างค่ะ

จะเห็นว่า Alcohol ที่ผสมมี 2 อย่างคือ Cetyl Alcohol กับ Stearyl Alcohol ทั้ง 2 อย่างนี้เป็น Fatty Alcohol คือเป็นสารให้ความชุ่มชื้นทั้งคู่ ไม่ได้อยู่ในประเภทที่ควรกังวลอย่าง ethyl alcohol, alcohol denat. (ที่ผสมใน Clarifying lotion ของ Clinique)

ด้านล่างนี้เป็น reference ค่ะ


Alcohol.
Organic compounds that have a vast range of forms and uses in cosmetics. In some benign forms they are glycols used as humectants and help deliver ingredients into skin. When fats and oils are chemically reduced, they become a group of less-dense alcohols called "fatty alcohols" that can have emollient properties or become detergent cleansing agents. When alcohols have low molecular weights they can be drying and irritating. The alcohols to be concerned about in skin-care products are ethanol, denatured alcohol, ethyl alcohol, methanol, benzyl alcohol, isopropyl, and SD alcohol. These can be extremely drying and irritating to skin.

Cetyl alcohol is a fatty alcohol used as an emollient emulsifier, thickener, and carrying agent for other ingredients. Can be derived naturally, as in coconut fatty alcohol, or synthetically. It is NOT an irritant and UNRELATED to SD alcohol or ethyl alcohol.

Begoun, Paula. 2001. DON'T GO TO COSMETICS COUNTER WITHOUT ME, 5th edition. page 1037 & 1045

จากคุณ : หมูอ้วนตัวใหญ่ - [ 12 ธ.ค. 45 02:21:51 ]

3. Reviewed from Pantip.ccom :
Physiogel สารทำความสะอาดคือ Sodium Cocoyl Isethionate ส่วนอย่างอื่นไม่ทราบเพราะไม่ได้ระบุไว้ในฉลากค่ะ

Sodium Cocoyl Isethionate: Derived from coconut and is a somewhat mild detergent cleansing agent. (source เดียวกับข้างบนค่ะ หน้า 1072)


สารประเภท surfactant ทั้งหลาย มีหน้าที่ชะไขมันและทำให้สิ่งสกปรกลอยตัวออกจากผิว จะได้ชะล้างออกไปได้ด้วยน้ำ surfactant นี้จะมีใน cleanser ทุกประเภท แต่จะใช้ตัวไหนก็แล้วแต่ ส่วนใหญ่จะอ่อนโยนและใช้ได้ผลกับทุกสภาพผิว แต่อาจระคายเคืองได้ในบางประเภทผิว (จากแหล่งข้อมูลเดิม หน้า 1074 ค่ะ)

จากคุณ : หมูอ้วนตัวใหญ่ - [ 12 ธ.ค. 45 02:27:27 ]

4. Reviewed from Pantip.ccom :
http://www.cfsan.fda.gov/~dms/cos-227.html

บทความนี้จากเว็บอย.อเมริกา เกี่ยวกับเรื่องคำว่า Alcohol-free ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ว่าส่วนใหญ่จะหมายถึงแค่ไม่มี ehtyl alcohol หรือ isopropyl alcohol เท่านั้น แต่อัลกอฮอล์เป็นสารเคมีกลุ่มใหญ่ มีหลายประเภท หลายชื่อ ดังนั้นสิ่งที่ alcohol-free อาจมีอัลกอฮอล์ประเภทอื่นอย่าง cetyl, stearyl, lanolin alcohol ได้ และบอกต่อว่า อัลกอฮอล์ในกลุ่มนี้ออกฤทธิ์ต่างกันสิ้นเชิงกับ ethyl alcohol หรือ isopropyl alcohol ซึ่งทำให้ผิวแห้ง ในขณะที่ 3 ตัวข้างบนเป็น fatty alcohol (ซึ่งเป็น emollient)

จากคุณ : หมูอ้วนตัวใหญ่ - [ 12 ธ.ค. 45 03:01:49 ]

5. Reviewed from Pantip.ccom :
สรุปว่า
จริงอยู่ที่การล้างหน้าด้วย Cetaphil ทุกวัน เป็นการเอาอัลกอฮอล์ทาหน้าอย่างที่คุณหมอคนนั้นบอก แต่อย่าลืมว่า อัลกอฮอล์มีหลายประเภท ไม่ได้มีแต่ ethyl alcohol ที่ทำให้ผิวแห้งอย่างเดียว ประเภทอื่นที่ไม่ทำให้ผิวแห้งก็มีค่ะ

จากคุณ : หมูอ้วนตัวใหญ่ - [ 12 ธ.ค. 45 03:04:25 ]

6. Reviewed from Pantip.ccom :
คุณๆคะ cetaphil น่ะยังไงๆ มันก็สารเคมีนะคะ ต่อให้อ่อนแค่ไหนก็สารเคมี สำหรับคนที่ผิวแพ้และไวง่ายๆน่ะ จะเห่อคันจาก sodium lauryl sulphate ได้ค่ะ (แค่คันนะ ไม่เป็นอะไรมากกว่านั้นหรอก คันแล้วก็แห้ง แค่นั้นน่ะ แล้วไม่ต้องเอาไปคิดว่ามันมี SLS ต้องก่อมะเร็งแน่เลย ย้ำนะคะ ว่าเรื่องไม่จริง) ส่วนเรื่องแอลกอฮอล์น่ะ ไม่เกี่ยวนา เพราะว่ามันเป็น fatty acid

ถ้าคนแพ้มากๆ อะไรๆมันก็แพ้น่ะค่ะ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก็แพ้คลอรีนได้เหมือนกัน ถึงcetaphilเองก็เหอะ คิดว่ามันปลอดภัย เอามาล้างหน้าใหญ่เลย ล้างวันละสี่ห้ารอบ ผิวไม่แห้งก็ให้มันรู้ไปสิ

ผิวคนนะคะ ต่อให้ cetaphil มันอ่อนแค่ไหน ถ้าคุณใช้สารเคมีไม่ลืมหูลืมตาน่ะ รับรองว่าผิวทนไม่ได้หรอก

จากคุณ : รำเพย - [ 12 ธ.ค. 45 04:39:24 ]

7. Reviewed from Pantip.ccom :
เห็นด้วยเต็มที่เลยค่า คุณรำเพย ถ้าใน Cetaphil มีอะไรที่ทำให้ผิวแห้งได้ล่ะก็ ก็ต้องเป็น SLS นี่แหละ ถึงจะมีปริมาณน้อยมาก ๆ ก็เหอะ แต่คนที่ผิวไวก็คงแห้งได้ง่ายอย่างว่า

จากคุณ : หมูอ้วนตัวใหญ่ - [ 12 ธ.ค. 45 04:46:30 ]

8. Reviewed from Pantip.ccom :
สำหรับเด็ก (เด็กจริงๆ 3 ขวบน่ะค่ะ) ที่เป็น eczema หรือว่า atopic dermatitis หมอจะแนะนำให้อาบน้ำด้วย cetaphil หรือ Aveeno และไม่อาบน้ำบ่อย ไม่ใช้น้ำร้อน เพราะจะทำให้ภูมิแพ้เห่อขึ้นมาอีก ถ้าอยู่เมืองหนาวน่ะ เค้าให้อาบน้ำวันเว้นวันด้วยซ้ำ หรือ ทุกๆสองถึงสามวันน่ะ

อะไรมากไปก็ไม่ดี อาบน้ำหรือล้างหน้าบ่อยๆไขมันของผิวหนังตามธรรมชาติมันก็ถูกล้างออกไปหมด ล้างหน้าแค่วันละสองหนเช้า-เย็นก็พอค่ะ จริงๆแล้วล้างด้วยอะไรก็ตาม ล้างแค่ตอนเย็นอย่างเดียวก็พอ ส่วนตอนเช้าเอาน้ำล้างเฉยๆน่ะพอแล้ว เพราะคุณไม่ได้ทำอะไรกับหน้านี่นาตอนนอนน่ะ ไม่ได้แต่งหน้านอนนิ

จะล้างหน้า หรือจะทาครีมอะไรก็ตาม....เชื่อคนอื่นไม่ดีทั้งนั้น....ให้เชื่อผิวหน้าตัวเองดีที่สุด...ถ้ามันแห้งไป ก็ทาครีม ถ้ามันสกปรกก็ล้าง....ไม่ใช่เชื่อหมอไปหมด...หมอไม่ได้อยู่กับคุณ 24 ชมนะคะ ไม่ได้บอกให้ไม่ฟังหมอนะ ฟังหมอน่ะดี แต่ต้องฟังอย่างไม่งมงาย เพราะหมอไม่ได้มีโอกาสดูผิวหน้าคุณตลอดเวลา จะดูได้ก็เฉพาะเวลาที่คุณไปหาเท่านั้นน่ะ ทางที่ดีที่สุดคือฟังหมอควบคู่ไปกับการสังเกตผิวตนเองน่ะดีสุด

ส่วนว่าใช้อะไรแล้วดีน่ะ ก็ หาอะไรที่คุณใช้แล้วไม่แพ้ ใช้แล้วไม่แสบ ใช้แล้วหน้าไม่แห้ง นั่นน่ะดีที่สุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็น cetaphil หรือ ฟิสิโอเจลหรอก อะไรก็ได้ที่คุณไม่แพ้น่ะดีทั้งนั้นแหละค่ะ ....การเปลี่ยนสารเคมีที่คุณเอามาล้างหน้าบ่อยๆก็ไม่ใช่เรื่องดี ไม่ดีแน่ๆ คิดเอาอย่างหลักการธรรมดา....คนผิวแพ้ง่าย แพ้สารง่ายๆ พยายามจำกัดจำนวนสารที่ใช้ให้น้อยที่สุดย่อมดีกว่า.....ใช้เฉพาะที่จำเป็นดีที่สุด....ถ้าคุณเจอสารล้างหน้าที่คุณไม่แพ้ จะเปลี่ยนไปทำไมล่ะ มันเสี่ยงกับการที่ผิวหน้าจะเกิดปฏิกิริยากับสารใหม่นะคะ

"ยกเว้น".....คนที่อยู่ในประเทศที่อากาศเปลี่ยนแปลงมาก หน้าหนาวและหน้าร้อน ผิวเปลี่ยน อันนี้เกิดความจำเป็นต้องเปลี่ยน skincare product ตามสภาพผิวและอากาศที่เปลี่ยนไป อันนี้เรื่องช่วยไม่ได้และจำเป็นต้องเปลี่ยนค่ะ

จากคุณ : รำเพย - [ 12 ธ.ค. 45 06:05:46 ]

9. Reviewed from Pantip.ccom :
เสริมเจ้รำเพยอีกนิดค่ะ
ไม่มีหลักฐานอะไรที่ยืนยันว่า SLS เป็นสารก่อมะเร็งค่ะ
แต่เท่าที่อ่านเจอ ตัวที่เป็นสารก่อมะเร็งคือNDELA (N-nitrosodicthanolamine)
เป็นสารจำพวก nitrosamines
ซึ่งมักจะปนเปื้อนมากับ SLS ค่ะ
http://goodelyfe.healingwell.com/homoeopathy/sls.htm

อีกนิดนึงอ่ะค่ะ อันนี้ไม่ใช่สาระสำคัญค่ะ แต่ก็ไม่อยากให้เกิดการเข้าใจผิด
คุณหมูอ้วน คหหที่ 7
ที่บอกว่าเมื่อสกัด fatty acid จนเจือจางลงจะได้ fatty alcohol
น่าจะเข้าใจผิดนะคะ เพระว่า การเจือจาง ก็หมายถึงการทำให้ความเข้นข้นต่ำลง
ไม่ได้ทำให้ functional group เปลี่ยนจาก acid มาเป็น alcohol ได้นะคะ
แต่น่าจะหมายถึง การสกัดแยกเอา fatty alcohol ออกจาก fatty acid มากกว่าค่ะ

จากคุณ : ~nawo~ - [ 12 ธ.ค. 45 13:30:50 ]

10. Reviewed from Pantip.ccom :
คุณ nawo

ที่ใช้คำว่าสกัดให้เจือจางนั้น ในต้นฉบับใช้ว่า chemically reduced กับ less dense น่ะค่ะ

When fats and oils are chemically reduced, they become a group of less-dense alcohols called "fatty alcohols"

ถ้าเข้าใจผิดก็ขออำภัยค่า

จากคุณ : หมูอ้วนตัวใหญ่ - [ 12 ธ.ค. 45 14:33:26 ]

11. Reviewed from Pantip.ccom :
มาขยายความให้นะคะคุณนาว

มีงานวิจัยจาก the Georgia University medical centre ในสหรัฐอเมริกาพบว่า สาร sodium laureth sulphate และ sodium lauryl sulphate นั้นน่ะ สามารถทำปฏิกิริยากับ สารเคมีตัวอื่นๆในเครื่องสำอาง แล้วก็ก่อให้เกิด nitrosamines และ 1,4 dioxine ซึ่งnitrosamine และ 1,4 dioxine นั้นน่ะเป็น carcinogens(หรือสารที่เร่งให้เซลในร่างกายเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วผิดปกติ "มะเร็ง"ค่ะ).... ด้วยตัวของมันเองน่ะ SLS ไม่ได้อันตรายมากกว่าระคายเคือง แต่พอปนกับสารอื่นต่างหากที่ทำให้มันกลายสภาพเป็นอันตรายไปได้ ถ้าเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมากๆ

ทีนี้สารอะไรล่ะ ที่มันทำปฏิกิริยากับ SLS แล้วก่อ niosamine ? อันนี้ก็เวปเดียวกับที่คุณนาวบอกน่ะค่ะ เค้าเขียนไว้ แต่ว่าจะเอามาลิสให้ดูกันนะคะ
2 - bromo - 2 - nitropropane - I ,3-diol
Cocoyl sarcosine
Diethanolamine (DEA)
Diethanolamine (DEA) plus any chemical
Imidazolidinyl urea
Formaldehyde
Hydrolyzed animal Protein
Lauryl sarcosine
Monethanolamine (MEA)
Monethanolamine (MEA) plus any chemical
Quaternium-7, 15, 31, 60, etc.
Sodium methyl cocoyl taurate
Triethanolamine (TEA)
TriethanoIamine (TEA) Plus any chemical

จากคุณ : รำเพย - [ 12 ธ.ค. 45 14:51:20 ]

12. Reviewed from Pantip.ccom :
แฮะๆ
ตอนแรก นาวเองก็ขี้เกียจอ่านตรงที่เป็นภาษาอังกฤษนะคะ
แต่พออ่านแล้วอ่ะ ก็เข้าใจละค่ะ ขอแก้ คหหที่ 16 ของตัวเองด้วย อิ อิ
คือสรุปว่า มันไม่ใช่การสกัดนะคะ
แต่เป็นการ transform ค่ะ คือประมาณว่าเป็นการแปรรูปจากกรด เป็นแอลกอฮลล์ค่ะ
ซึ่งมันจะมีกระบวนการทางเคมี ที่ยิ่งพูดยิ่งยาว
เอาเป็นว่า จะใช้คำว่าสกัด ที่คุณหมูอ้วนบอก หรือสกัดแยก แบบที่นาวบอกที่ค หห 16 นั้นผิดค่ะ

จากคุณ : ~nawo~ - [ 12 ธ.ค. 45 14:53:53 ]

13. Reviewed from Pantip.ccom :
สำหรับเด็ก (เด็กจริงๆ 3 ขวบน่ะค่ะ) ที่เป็น eczema หรือว่า atopic dermatitis หมอจะแนะนำให้อาบน้ำด้วย cetaphil หรือ Aveeno และไม่อาบน้ำบ่อย ไม่ใช้น้ำร้อน เพราะจะทำให้ภูมิแพ้เห่อขึ้นมาอีก ถ้าอยู่เมืองหนาวน่ะ เค้าให้อาบน้ำวันเว้นวันด้วยซ้ำ หรือ ทุกๆสองถึงสามวันน่ะ
อันนี้เอามาจากเวปที่หมอคุยกับคนไข้ค่ะ ไม่ใช่เวปของบริษัทจ้า http://www.toad.net/~annapderm/NewPages/faq.html
ส่วนอันอื่นก็เอามาจาก American Academy of Dermatology นั่นแหละค่ะ

เป็น seb derm เหมือนกันค่ะ บางวัน cetaphil ก็ใช้ไม่ได้ด้วยซ้ำ ต้องใช้ sorbolene แทน เป็นน้ำมันกับน้ำเลยค่ะ ล้างแล้วหน้ามันสนิท คุณ xxx เป็นเหมือน seb derm แล้วเอาอะไรล้างหน้าอ่ะคะ? แต่ยังดีอ่ะ เป็นผู้ชายไม่ได้แต่งหน้า ล้างด้วยน้ำเปล่าก็พอไหว น้องตังเมกับรำเพยเป็น seb derm ทั้งคู่ บางวันก็ล้างด้วย cetaphil ไม่ได้เหมือนกันแหละค่ะ

ขอบอกเจ้าของกระทู้ไว้ด้วยนะคะ ไม่ใช่ว่า cetaphil จะดีสำหรับผิวทุกคนนะคะ ไม่มีหรอกอะไรที่ดีไปหมดน่ะ จะใช้ก็ใช้ไปแต่ว่าอย่าหลงคิดว่ามันปลอดภัยแล้วล้างหน้าวันละสี่ห้าหนล่ะ หน้าจะพังเอานา

ล้างหน้าวันละหลายๆหนไม่ดีนะคะ เพราะว่ามันจะทำให้น้ำมันตามธรรมชาติหายไปอ่ะ หน้าแห้งเปล่าๆ เสียสมดุลย์อ่ะค่ะ

จากคุณ : รำเพย - [ 13 ธ.ค. 45 03:36:37 ]

1. Reviewed by ~nawo~ [Jan 22, 2003] :
Avobenzone ป้องกัน UVA-I และ UVA-II
Octocrylene ป้องกัน UVB
แต่ปกติ ถ้าAvobenzone อยู่ตัวเดียว มันจะสลายตัวเมื่อโดนแสง แต่อันนี้อยู่กับ Octocrylene โอเคค่ะ ใช้ได้ ไม่สลายตัว และป้องกันรังสีได้ครบทุกช่วงคลื่นด้วย

Rating : N/A

1. Reviewed from Pantip.com :
ไม่เคยใช้เซตาฟิล แต่มีคนมาถามบ่อยอ่ะค่ะ
เลยอยากให้ทุกท่านที่เคยใช้ เขามาแชร์ประสบกาณ์ด้วยกันค่ะ

มีคนบอกมาอ่ะค่ะ ว่าเซตาฟิลล้างพวกน้ำมันออกได้ไม่ดี

แต่เท่าที่ดูส่วนผสม ใส่สารลดแรงตึงผิว (surfactant) ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่ชำระล้าง หลายตัวเลยค่ะ

- PEG-200 Hydrogenated Glyceryl Palmate น่าจะเป็น amphoteric surfactant
- PEG-7 Glyceryl Cocoate เป็น non-ionic surfactant
- Sodium Lauroyl Sarcosinate เป็น Anionic surfactant
- Sodium Laureth Sulfate เป็น amphoteric surfactant
- PEG-60 Hydrogenated Castor Oil เป็น non-ionic surfactant

น่าจะหมดแล้ว ข้อมูลอาจจะคลาดเคลื่อนได้ ทักท้วงได้นะคะ

สงสัยว่า มันล้างพวกออยได้ไม่ดีจริงเหรอคะ

ใครใช้อยู่บอกหน่อยค่ะ

จากคุณ : ~nawo~ - [ 5 มี.ค. 46 10:41:21 ]

ข้อแตกต่างอีกข้อนึงคือ daily facial wash มีน้ำหอมแบบที่เค้าเรียกว่า masking fragrance หรือว่ากลิ่นที่ใส่ไว้กลบกลิ่นสารเคมี ไม่ใช่กลิ่นหอมนะคะ

เจ้า cetaphil daily facial wash น่ะ อะไรก็ดี แต่ว่าไม่มีขายในเมืองไทยค่ะ

Rating : N/A