Sun Safety Info for Suncare Products
![]()  | 
    
 by ~nawo~ [Jan 22, 2003]  | 
  
*** เนื่องจากโดนพี่ส้มต่อว่า ว่าเขียนเกี่ยวกับสารเคมี แล้วทำไมเขียนไม่เคลียร์ อ่านยาก จึงมาสานต่อให้จบ ครั้งนี้รับรองอ่านเข้าใจง่ายค่ะ ***
| 
 อันตรายจากรังสียูวีต่อผิวมีมากมาย ถ้าคุณยังไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง กรุณา คลิกที่นี่เพื่อดูอันตรายเกี่ยวกับแสงยูวี  | 
    
       
  | 
  
แสงยูวี สามารถแบ่งย่อยได้เป็น 3 ช่วง
| 1.
        UVA ความยาวคลื่นตั้งแต่ 320-400 nm  | 
      เป็นสาเหตุของรอยเหี่ยวย่น
        อาการการแพ้แสงแดด
        และหากได้รับ
        UVA นานๆ
        ก็อาจเป็นสาเหตุของมะเร็วผิวหนังได้
         UVA สามารถแบ่งย่อยออกได้เป็น UVA-I (340-400 nm) และ UVA-II (320-340 nm)  | 
    
| 2.
        UVB ความยาวคลื่นตังแต่ 280-320 nm  | 
      เป็นสาเหตุของผิวหนังไหม้ มะเร็งผิวหนัง | 
| 3.
        
        UVC ความยาวคลื่นตังแต่ 100-280 nm  | 
      ความยาวคลื่นสั้น จึงสามารถถูกกรองด้วยชั้นโอโซนในบรรยากาศชั้น stratosphere | 
วิธีการที่มนุษย์ใช้ปกป้องแสงแดดมีอยู่ดวยกันหลายวิธี
เช่น
หลบเลี่ยงการโดนแสงในช่วงที่แสงแดดจัดๆ
หรือ สวมหมวก 
อีกวิธีหนึ่งที่ใช้กันมาก
และเป็นที่น่าเชื่อถือ
ก็คือการใช้
สารกันแดด
ดังนั้น สารกันแดดที่ดี นอกจากจะทาแล้วซึมซาบเร็ว เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ สำคัญที่สุดคือต้องกันรังสีได้ครบทั้ง UVA และ UVB
วิธีการดูว่าผลิตภัณฑ์กันแดดสามารถกันแดดได้ครบทั้ง
UVA และ UVB หรือไม่ แบบง้าย
ง่าย ![]()

Sun Jargon : คำอธิบายศัพท์เกี่ยวกับสารกันแดด
| SPF
        : Sun Protection Factor
         เป็นค่าที่ใช้บอกว่าเราจะสามารถยืนกลางแดดโดยทาสารกันแดดนั้นๆ โดยผิวหนังไม่ถูกเผาไหม้ ได้นานเท่าใด เปรียบเทียบกับผิวที่ไม่ได้ใช้สารกันแดด โดยค่าที่วัด จะเป็นการวัดเฉพาะการปกป้อง UVB เท่านั้น ดังนั้นหากกันแดดนั้นไม่ได้บอกค่า PA คุณก็ควรเลือกอันที่ระบุไว้ว่า "broad-spectrum" 
  | 
    ||||||||||
| PA
        : Protection of UVA
         PA
        เป็นค่าการวัดการปกป้องรังสี
        UVA
        โดยประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้ริเริ่มนำมาใช้
        และแพร่หลายอยู่ในเอเซีย
        ค่า PA
        จะสัมพันธ์กับเครื่องหมาย
        +  ค่า PA ที่บอกถึงระดับในการป้องกันรังสี UVA 
 
 
  | 
    ||||||||||
| PABA
        Free : 
         PABA หรือ Para-Aminobenzoic Acid เป็นสารกันแดดที่สามารถป้องกัน UVB ได้ แต่มีหลายคนที่แพ้สารตัวนี้ และ PABA ยังทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่เปรอะเปื้อนได้ด้วย หากคุณมีผิวที่แพ้ง่าย หรือเป็น eczema กรุณาหลีกเลี่ยงกันแดดที่ผสมสารนี้ หรือที่เขียนว่า PABA free 
  | 
    ||||||||||
| Sunblock
        & Sunscreen : 
         Sunblock
        คือสารกันแดดที่มีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์กันแดดแบบ
        
        Physical 
        หรือเป็นสารอนินทรีย์
        มีอยู่ 2 ตัว ได้แก่ titanium dioxide
        และ zinc oxide  Sunscreen
        คือสารที่มีส่วนผสมที่ออกฤทธิ์กันแดดแบบ 
        Chemical 
        เป็นสารอินทรีย์
        สารจำพวกนี้มีมากมาย
        เช่น Aminobenzoic
        acid หรือ Octyl methoxycinnamate
        เป็นต้น 
  | 
    ||||||||||
| Waterproof
        & Water-resistant  : 
         FDA ได้กำหนดไว้ว่า Water-resistant หมายถึง สารกันแดดที่ยังสามารถรักษาระดับของ SPF ให้เท่าเดิมหลังจากโดนน้ำไปแล้วเป็นเวลา 40 นาที Waterproof หมายถึง สารกันแดดที่ยังสามารถรักษาระดับของ SPF ให้เท่าเดิมหลังจากโดนน้ำไปแล้วเป็นเวลา 80 นาที 
 
  | 
    
Sunscreen Tips
| 
         1. ทากันแดดแค่ไหน จึงจะเรียกว่ามากพอ คุณทราบหรือไม่ว่าเวลาทำการทดสอบค่า SPF มีการใช้ปริมาณสารกันแดด 2 มิลลิกรัม ต่อ 1 ตร.ซม. แต่โดยเฉลี่ยคนส่วนใหญ่ทาสารกันแดดที่ปริมาณเพียง 0.5 to 1.3 มิลลิกรัม ต่อ 1 ตร.ซม. แล้วทาแค่ไหนจึงจะพอ (ข้อมูลบางส่วนได้รับการสงเคราะห์โดยพี่รำเพย) หากเราเอาปริมาณ 2 มิลลิกรัม ต่อ 1 ตร.ซม. เป็นหลัก แล้วประมาณเอาว่า ร่างกายคนมีพื้นที่ผิว 1.73 ตร.ม. ก็ต้องใช้ปริมาณสารกันแดด 35 มิลลิกรัม จึงจะพอทาทั้งตัว จากการคำนวณอย่างรวดเร็ว 
 
  | 
    |||||||||||||
| 2.
        ในระหว่างวัน
        ต้องทากันแดดซ้ำหรือไม่
        
         แน่นอน ควรทากันแดดซ้ำทุก 2 ช.ม. เพื่อประสิทธิภาพในการกันแดดสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณต้องทำกิจกรรมที่ต้องโดนน้ำ โดนลม มีความชื้นมาเกี่ยวข้อง คุณก็ควรจะทากันแดดซ้ำให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ 
  | 
    |||||||||||||
| 3.
        ระหว่าง Sunscreen
        กับ Sunblock
        มีวิธิใช้ต่างกันหรือไม่
        
         หากคุณใช้กันแดดแบบ sunscreen คุณควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้เวลาสารกันแดดได้ดูดซึมลงผิวคุณ แต่หากคุณใช้ sunblock คุณควรล้างหน้าให้สะอาด เพราะสารที่ใช้ใน sunblock สามารถทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขนได้ง่าย 
  | 
    
References:
http://www.solumedia.com/sunscreen3.htm
http://www.newasiawoman.com.sg/beauty/beauty_sunny.shtml
http://www.melanomafoundation.org/2001/sunscreenfacts.htm
http://www.helioshealth.com/cgi-bin/news/news.cgi?95
http://archderm.ama-assn.org/issues/v138n6/ffull/dlt0602-3.html
http://surgery.org/article_archive_html_pgs/new&improved.html
http://www.scrippshealth.org/595_603.asp
http://www.msu.edu/~aslocum/sun/sunscreen.htm