
ความสัมพันธ์ระหว่างพระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ คือ วิชาที่ว่าด้วยเหตุและผล อะไรที่จะเป็นวิทยาศาสตร์ได้ต้องเป็นเหตุผล วิทยาศาสตร์จึงต้องมีการทดลองมากมายเพื่อทำการพิสูจน์หาเหตุผล ทดลองเพื่อที่จะได้ผลของการทดลอง เช่นเดียวกัน พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่สอนให้ใช้เหตุผล พระพุทธศาสนามิได้สอนให้เชื่อในเรื่องของการงมงายต่างๆ แต่สอนให้ใช้ปัญญาพิจารณาตริตรองหาเหตุผลความเป็นจริง คำสอนของพระพุทธศาสนาจึงเป็นคำสอนที่มีเหตุผลเสมอ เช่น ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมสนอง คบคนพาลพาลพาไปหาผิดคบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล
อีกนัยหนึ่งที่ว่าพระพุทธศาสนามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ซึ่งปรากฏให้เห็นชัดในสมัยพุทธกาลตอนที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ อริยสัจ4 พระพุทธองค์ทรงมีวิธีคิดซึ่งวิธีคิดของพระองค์นั้นก็เป็นการคิดแบบวิทยาศาสตร์ คือ ทรงพิสูจน์ทดลอง วิธีคิดของพระพุทธเจ้าแบบนี้เรียกว่า วิธีคิดแบบอริยสัจ ซึ่งจะเปรียบเทียบกับวิธีคิดทางวิทยาศาสตร์ได้ดังนี้
๑.ขั้นกำหนดทุกข์ ให้รู้ว่าทุกข์หรือปัญหาคืออะไร อยู่ที่ไหน มีขอบเขตอย่างไร อันเป็นขั้นกำหนดปัญหา
๒.ขั้นถึงสมุทัย หยั่งสาเหตุของทุกข์หรือปัญหานั้น อยู่ในขั้นกำหนดปัญหาเช่นกัน
๓.ขั้นเก็งนิโรธ ให้เห็นกระบวนการที่แสดงว่าการดับทุกข์เป็นไปได้อย่างไร เป็นขั้นตั้งสมมุติฐาน
๔.ขั้นเฟ้นหามรรค แยกออกเป็นสามขั้นคือ
มรรค1 เอสนา แสวงหาข้อพิสูจน์ ทอลอง เป็นขั้นทดลองและเก็บข้อมูล
มรรค2 วิมังสา ตรวจสอบ เลือกเก็บข้อมูลที่ถูกต้องใช้ได้จริง คือ ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
มรรค3 อนุโพธ คัดข้อที่ผิดออก เลือกไว้แต่มรรคแท้คือหนทางที่ถูกต้องที่จะนำ ไปสู่ผลหรือแก้ปัญหาได้ คือ ขั้นสรุป
พระพุทธศาสนาเป็นรากฐานของวิทยาศาสตร์ได้ เพราะระหว่างพระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ต่างเพื่อค้นหาความจริงของธรรมชาติที่มีอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล ดังที่พระธรรมปิฎก(ป.อ.ปยุทธ์ ปยุตฺโต) ครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระเทพเวทีได้กล่าวไว้ว่า "...เจตคติของพุทธก็ตามของวิทยาศาสตร์ก็ตามมีความหมายที่ตรงกันก็คือการมองสิ่งทั้งหลายตามหลักการแพ่งเหตุและผล หรือท่าทีแห่งการมองสิ่งทั้งหลายตามเหตุปัจจัยในเวลาที่พบเห็นอะไรก็ตาม
คนที่มีเจตคติหรือเจตคติพุทธก็จะมองตามเหตุปัจจัย พอมองแบบนี้ก็เท่ากับมองไปในแง่ของการค้นหาความจริง..."
และไอน์สไตน์ก็ได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจเช่นกันว่า "สำนึกทางศาสนาที่หยั่งโยงสรรพสิ่งทั่วสากลนี้ เป็นแรงจูงใจที่แรงกล้าและประเสริฐที่สุดสำหรับการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์...พุทธศาสนา...มีสภาวะที่เรียกว่า cosmic religious feeling คือ ความรู้สึกหรือสำนึกทางศาสนาอันหยั่งโยงสรรพสิ่งทั่วสากลนี้อย่างเข้มข้นหรือแรงกล้ามาก..."