พัฒนาการนโยบายรัฐบาล
เกี่ยวกับจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส
 
..
   
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
   

 

รายงานการประชุมในแต่ละกลุ่ม
วันที่ 23 เมษายน 2545
ณ โรงแรมซีเอสปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี

โจทย์?
     1. ท่านมีความเห็นอย่างไรต่อนโยบายชายแดนใต้
     2. ท่านมีข้อเสนอแนะอย่างไรต่อนโยบายชายแดนใต้
          - มีข้อมูลอะไร? เพื่อหนุนเสริมการปรับนโยบาย
          - ยุทธศาสตร์ที่มีอยู่แล้วจะปฏิบัติอย่างไร? ให้บรรลุวัตถุประสงค์เริ่มอย่างไร?      ในระดับรัฐและชุมชน
          - มีตัวปลดล็อกปัญหาเชิงซ้อนอย่างไร

ความคิดเห็นต่อนโยบายชายแดนใต้หรือความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับจังหวัดชายแดนใต      - มีความเห็นด้วยทุกประการกับนโยบายชายแดนใต้
     - สภาพปัญหาที่นี้อยู่ใต้มาตรฐานปกติ (จึงต้องเป็นพื้นที่พิเศษ) เพราะชายแดนใต้ มีโครงสร้าง ทางสังคม ที่แตกต่างจากที่อื่น

สถานบันสันติวิธี
     1. คีย์ (Key) ของนโยบาย ใช้ได้หรือไม่ สอดคล้องกับพื้นที่ หรือตรงกับความต้องการ ของประชาชน
     2. อะไรคือตัวปลดล็อกปัญหาอื่นๆที่เป็นลูกโซ่ ปัญหาซ้อน
          - ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนฐานล่าง
          - เจ้าหน้าที่ควรเดินแบบไหนจึงเป็นปลดล็อกได้
     3. แผนพัฒนาฯฉบับที่ 9 กับรัฐธรรมนูญใหม่ การเอาคนเป็นตัวตั้ง การมีส่วนร่วม ของประชาชน ให้เกียรติ ศักดิ์ศรีมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน
     4. ต้องการความรู้ ที่จะมาหนุนเสริมเพื่อปลดล็อก

ข้อเสนอแนะต่อนโยบายชายแดนใต้
     นโยบายความสัมพันธ์ประชาชนกับรัฐ
          - นโยบายรัฐ ควรให้ความสำคัญ กับการให้การศึกษาประชาชนทุกระดับ ไม่ใช่เฉพาะ ระดับอุดมศึกษา ให้ใช้สื่อ ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

เสนอต่อผู้บริหารระดับนโยบายรัฐบาล
     - การแก้ไขระเบียบกฎหมายป่าสงวนที่ดินสาธารณะเอื้อประโยชน์ของประชาชน เช่น การทำสวนยาง
     - บูรณาการนโยบายทุกด้าน
     - เพิ่มโรงเรียนในเขตพื้นที่ทุรักกันดาร
     - รัฐบาลควรกำหนดมาตรการให้กระทรวง ทบวง กรมนำนโยบายไปปฏิบัติในต้นสังกัด
     - ทบทวนว่า ควรมีนโยบายความมั่งคง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือจะปรับเป็นนโยบาย พัฒนาพื้นที่ จังหวัดชายแดนใต้
     - การปรับดุลยภาพพลังอำนาจต่างๆในจังหวัดสมดูลย์
     - พัฒนาภาพพจน์จังหวัดชายแดนใต้ (ใหม่) อย่ายึดติดกับภาพพจน์เก่า
     - เสนอรัฐบาลแยกนโยบายส่งเสริมการลงทุนจากเดิม 14 จังหวัดมาเหลือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มสิทธิพิเศษ
     - โรงงานแปรรูปยางพารา
     - โรงงานแปรรูปผลไม้
     - ประมงเกือบอิ่มตัวแล้ว
     - นโยบายปลดล็อกให้ประชาชนวิจารณ์นโยบายความมั่นคงได้
     - นโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการศึกษาต่างประเทศ มุสลิมควรเป็นอย่างไร
     - ปฏิรูปสมัยใหม่ รูปภาพวิถีวัฒนธรรมสังคม (ตะวันตก+ตะวันออก)

เสนอต่อองค์กรพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
     - ปฏิบัติอย่างไรจึงบรรลุนโยบายจึงจะดีขึ้น
     - ต้องการการหนุนเสริมข้อมูลความรู้อย่างไร เริ่มอย่างไร พลเรือน ทหาร ตำรวจ
     - ให้ มอ.ปัตตานีแยกออกจาก ม.อ. หาดใหญ่ มีสภาพมหาวิทยาลัยคณะต่างๆ มีความเข้มแข็งพัฒนาการศึกษาชาวมุสลิม
     - ความรู้ด้านการจัดการเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้
     - สร้างความศรัทธาให้ประชาชนยอมรับโดยเฉพาะองค์กรต่างๆในพื้นที่
     - ปรับวิธีปฏิบัติให้ชัดเจน
     - หน่วยงานราชการในพื้นที่ ควรนำนโยบายความมั่นคง ของรัฐบาล มาบูรณาการ ในพื้นที่ (ศอ.บต. , พตท.43 , สยช.+ฯลฯ)
     - ตั้งตลาดกลาง(ผัก) ชายแดนภาคใต้ ให้เกิดจากเกษตรกร โดยอาศัย นักวิชาการ ที่มีความรู้ มาช่วยฝึกช่วยศึกษา

เสนอให้ชุมชนดำเนินการแก้ปัญหา
     - ไม่มีการปลูกผัก ผักจากจังหวัดอื่นเข้ามา
     - แก้ปัญหาที่รากหญ้า (ทางการศึกษา)
     - บุคคลภายนอกมาทำงานร่ำรวยมหาศาล แต่คนในพื้นที่ยากจน
     - อดทนทางด้านอาชีพได้ แต่ไม่สามารถอดทนทางสังคมได้
     - ชาวมุสลิมอยู่อย่างมุสลิม มุสลิมจะต้องเรียนรู้ตั้งแต่ในเปลจนถึงหลุมฝังศพ

ข้อเสนอแนะในที่ประชุม (จากการเขียนในการ์ด)
     - เสนอให้มีการจักตั้งสถาบันยางพาราแยกออกจาก พ.ร.บ.ป่าไม้
     - เสนอเขตเศรษฐกิจพิเศษ 3 จังหวัดเฉพาะบางสาขา (เช่น ไม้ยางพารา,ประมงฯ)
     - ข้าราชการที่ปฏิบัติ ทั้งระดับภูมิภาค / กลาง มีความคิดบางอย่าง ที่น่าจะทำความเข้าใจ คือ ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเป็นจำนวนมาก รักภาษามาลายูท้องถิ่น ภาษาอาหรับ รู้วิชาศาสนา (คือเรียนในโรงเรียนเยาวชน สอนศาสนา แต่ไม่ได้เรียนสายสามัญ) มีบางส่วนที่เรียนจบชั้น 10 ของสายศาสนา และเรียนจบภาษาไทย แค่ชั้นป.4 หรือไม่ได้เรียนเลย มุมมองของข้าราชการ โดยเฉพาะสายการศึกษ าและสายอื่นๆ มองว่าบุคคลเหล่านั้น ไม่มีการศึกษา อ่าน เขียน ไม่ได้ (คงหมายถึงอ่าน เขียน พูดภาษาไทยไม่ได้) ตัวเลขคนไร้การศึกษาจึงดูมาก ปัญหาต้องการปรึกษาหารือ คือ วิชาการที่ราษฎรใน 3 จังหวัดเรียน คือ วิชาภาษามาลายูท้องถิ่น วิชาศาสนาที่เป็นภาษามาลายูท้องถิ่นและภาษาอาหรับ คือว่าเป็นคนไร้การศึกษา ในส่วนของทางราชการใช่หรือไม่ เหตุผล คือ ในแบบสำรวจต่างๆ ของทางราชการ จะมีการกล่าวถึงระดับการศึกษาและสารใหม่ หมายถึงการศึกษาในประเทศที่เป็นภาษาไทย เรื่องนี้ความเข้าใจอย่างนี้ น่าขัดกับนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ เกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ การพัฒนาศักยภาพของคนและสังคม ข้อ1 ข้อ 2
     - ไม่ทราบนโยบาย รมช.
     - ไม่ตั้งใจมาอยู่
     - ความไม่เกี่ยวกันเพราะภาษา ศาสนา วัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เกิดการห่างเหิน
     - ควรให้พินิจเห็นกันในทุกด้านเพื่อให้เกิดความสมดุล
     - การลงทุน ค่าไถ่ ค่าคุ้มครอง
     - การศึกษา
     - ต้องการให้คนใน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้รับการศึกษาให้ทั่วถึงกัน และมีคุณภาพ และประสิทธิภาพ ต้องการแยกให้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีออกจาก ม.อ.หาดใหญ่ เพื่อให้วิทยาเขตปัตตานีตั้งเป็นมหาวิทยาลัยอิสระ เพราะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นี้ เป็นชาวมุสลิมประมาณ 85% อยากให้ปัตตานีเป็นศูนย์ใหญ่ อยากให้มหาวิทยาลัยของปัตตานี หรือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีคณะแพทย์ศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์, นิติศาสตร์และคณะอื่นๆ ที่มีและความต้องการของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อแยกออกมาและทางมหาวิทยาลัย มีความอิสระ ในการช่วยออกมาพัฒนาชุมชนมุสลิมเป็นส่วนใหญ่ โดยทั่วถึงกัน จะได้ใช้มหาวิทยาลัยได้จัดอบรมบุคลากรด้านการศึกษา ให้มีประสิทธิภาพขึ้น เมื่อใดที่ประชาชนมีความรู้ ความสามารถทั่วถึงกัน ตอนนั้นแหละที่จะเริ่มแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้
     - ขอให้นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ เกี่ยวกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการระบุไว้เป็นนโยบายของรัฐบาลทุกสมัย ทุกรัฐบาล อาจเป็นข้อเดียวสรุปหัวใจสำคัญของนโยบายความมั่นคงฯทุกข้อ เพื่อให้กระทรวง ทบวง กรมยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ

     เมื่อทุกอย่าง ได้ผ่านกระบวนการการวิจัย จนสำเร็จแล้วจึงขอเสนอแนะว่า
     1. ควรทำความเข้าใจ กับหน่วยงานและบุคลากร เข้าใจให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแนวนโยบายและด้านการปฏิบัติหมายถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ว่าผู้บริหารของเอกชน รัฐ โรงเรียน เป็นต้น เพราะทุกวันนี้ ปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากผู้บริหารไม่เข้าใจ หรือเข้าใจ แต่ไม่ยอมทำตาม ก็เลยทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาเสมอๆ
     2. ควรทำความเข้าใจ กับภาคประชาชน ด้วยเพื่อให้ประชาชนปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง โดยใช้สื่อหรือเข้าพบประชาชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจ จนสามารถนำไปใช้ได้

      ขณะนี้กำลังจะประสบปัญหาคือ บัณฑิตว่างงาน เพราะ
     1. ไม่มีงานรองรับให้เขาทำ ทั้งๆ ที่เขาเรียนจบมีปริญญา
     2. บัณฑิต ถูกปลูกฝั่งค่านิยม ให้มีความหวัง ที่จะทำงานประเภทเงินเดือนเท่านั้น ความภูมิใจต่ออาชีพของบรรพบุรุษนั้น ได้ถูกลดน้อยลงแล้ว จนกลายเป็นว่าปฏิเสธการกรีดยาง ทำนา ไปแล้ว

      ข้อเสนอแนะ
     1. ให้รัฐบาลมีการแนะแนวประชาชนเพื่อลดค่านิยม
     2. ควรเพิ่มหรือขยายสถานที่ทำงานให้มีมากกว่านี้

     ขอสนับสนุนกับคำว่า “อยู่อย่างมุสลิม” แต่ขอเสนอว่าการสร้างสังคม และแก้ปัญหาสังคมตรงนี้ ก็ควรเป็นดังนี้
     1. ควรให้ความสำคัญกับการศึกษา และให้การศึกษากับประชาชนทุกระดับ เพราะคำสอนของศาสนาอิสลามได้บัญญัติไว้ว่า มุสลิมต้องหาความรู้ ตั้งแต่อยู่ในเปลจนถึงหลุมฝั่งศพ ไม่ใช่ให้ความรู้ตั้งแต่อายุ 3 ปี – 25 ปี เท่านั้น คือในระบบเท่านั้น แต่จะต้องให้การศึกษา ทั้งในและนอกระบบ (ชาวบ้านผู้ด้อยโอกาสด้วย)
     2. การศึกษาที่ให้นั้น ควรคู่กันระหว่างความรู้ศาสนาและสามัญ แต่จะไม่ไปแตะต้อง ในส่วนที่เป็นบทบัญญัติของศาสนา ที่เขาได้ทำอยู่ และในการให้ความรู้ควรเป็นภาษามาลายู เพราะประชาชนจะเข้าใจ
     3. ควรให้นักวิชาการที่เป็นมุสลิม มีบทบาทให้มากที่สุด ในการที่จะกำหนดทุกๆ กระบวนการ และการดำเนินการนโยบาย การพัฒนาคุณภาพชีวิต ของคนยากจนและผู้ด้อยโอกาส ให้มีอาชีพมั่นคง มีรายได้เพียงพอ ที่จะดำรงชีพคือการแก้ปัญหาความยากจน ของเกษตรกร ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ ยังไม่ทั่วถึงรากหญ้าอย่างแท้จริงและต่อเนื่อง ไม่มีโครงการต่อเนื่อง ไม่มีการลงทุน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โรงงานแปรรูปเคยคิด ถ้าไม่มีผู้ลงทุน ควรให้รัฐลงทุน ผ่านทางสถาบันเกษตรกรและระบบสหกรณ์ ที่เป็นมติบุคคล

1. ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ข้อเสนอ
- ให้สื่อเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง
- อบต. ของรัฐต้องมีความเข้าใจพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
- เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องมีความจริงใจในการแก้ปัญหา
- การสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง
- ลดอิทธิพลในระดับท้องถิ่น ที่มีความเกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐและการเมืองท้องถิ่น

2. การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่มีประสิทธิภาพ
ข้อเสนอ
     - การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้ประชาชนตรวจสอบได้
     - ให้มีคณะกรรมการระดับจังหวัดคัดเลือกให้ราชการที่ดีปฏิบัติงานในพื้นที่หรือประชาชนเลือก
     - สร้างความเสมอภาค
     - สร้างจิตสำนึกให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
     - มวลชนสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชน
     - ความมีเอกภาพในการปฏิบัติงาน

3. นโยบายรัฐไม่ตรงกับสภาพท้องถิ่น
ข้อเสนอ
     - ให้ประชาชนให้สนใจข่าวสารของรัฐ
     - จัดจิตสำนึกกับประชาชนเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อประชาชน
     - การเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นมีส่วนในการพิจารณาความดีความชอบ
     - ภาคควรมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมโดยเด็ดขาด
     - ส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้กล้าแสดงออก
     - ขจัดอำนาจมืดในพื้นที่ให้หมดไป
     - ประชาชนต้องเรียนรู้ในการบริหาร

กลุ่มเศรษฐกิจ

ปัญหา
สาเหตุ
เงื่อนไข
ผลกระทบ
การแก้ไข/ข้อเสนอแนะ
     - ที่ประชุมเสนอจาก สกย. แก้เป็น หน่วยงาน รับซื้อยาง ผ่านสหกรณ์ (อสย.)
     - เสนอตลาดกลางเกษตร
     - ยางล้นตลาดตามฤดูกาล (เห็นด้วย)
     - ถูกกำหนดโดยผู้ซื้อ ระเบียบกฎหมายเก่า เปลี่ยนหลังปี42
     - ชาวบ้าน รับข้อมูลข่าวสาร อาจผิดพลาด
     - ชาวบ้านจะผลิตยางชั้น4-5(ในพื้นที่ใต้ล่าง)
     - การประชาสัมพันธ์ของรัฐ ไม่ชัดเจนทั่วถึง ชาวบ้านขาดโอกาส การรับรู้ข่าวสาร
     - ประเพณีท้องถิ่น
     - รับซื้อยางชั้น 1-2-3-4 ยางรมควันรับซื้อ 1-3
     - ยางแห้ง 1-2
     - ยางชั้นดีทำยากเสียเวลา การแทรกแซงไม่ต่อเนื่อง
     - ถูกกำหนดโดยสิงคโปร์ (เดิม)
     - น้ำยาดิบไม่ได้แทรกแซง
     - เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป
     - การจัดการ ไม่ตรงกับ เทคโนโลยี
     - หนี้สิน ขัดแย้ง ครอบครัวแตกแยก
     - ถูกกำหนดราคาโดยต่างประเทศ
     - หนี้ ธ.ก.ส. หนี้ชาวบ้าน
     - ย้ายไปมาเลย์
     - ย้ายไปตามฤดูกาล(ชั่วคราว)
     - ไปทำงานอย่างอื่นเปลี่ยนอาชีพปกติ
     - ตั้งกลุ่มสมาคมเจ้าของสวนยาง (เดิมมีอยู่แล้ว)
     - รัฐต้องมีการสำรวจ ทั้งต่างประเทศ และในประเทศ ต้องมีข้อมูล ในแต่ละประเทศอย่างไร
     - ประชาคมประชารัฐ
     - แจกแจงให้ชาวบ้าน ทราบเรื่องคุณภาพยางดีหรือไม่ดี
     - เปลี่ยนระบบ การรับซื้อยาง เป็นน้ำยางข้น
     - ให้เจ้าของสวนยาง ทำวิจัย ยางพาราร่วมกัน
     - การประชาสัมพันธ์ภาครัฐ
     - ตลาดกลาง ให้ชัดเจนขึ้น ตั้งแต่ท้องถิ่น
     - เข้มงวดการส่งออก (น้ำยาง) ออกไปต่างประเทศ
     - ให้แก้ปัญหา 3 ฝ่าย
     - เจ้าหน้าที่กองทุน เจ้าหน้าที่ ส่งเสริม เจ้าหน้าที่เกษตร
     - สงเคราะห์ยาง ไม่ทันใจชาวสวน ในการช่วยดูแล ชาวบ้านไปตัดยาง ที่มาเลย์แทน


กลุ่มสังคม

ปัญหา วิเคราะห์ถึงข้อเสนอ ของเวทีชาวบ้าน
สาเหตุของปัญหา (เห็นด้วยกับข้อเสนอ)
เงื่อนไขปัญหา (เห็นด้วยกับข้อเสนอ)
ผลกระทบ (เห็นด้วยกับข้อเสนอ)
การแก้ปัญหา (เห็นด้วยกับข้อเสนอ)
1. การจัดการศึกษาใน 3 จังหวัด ยังไม่สอดคล้อง กับสภาพท้องถิ่น
2. ประชาชน ยังมีความรู้สึกว่ารัฐ ไม่ค่อยจริงใจ และจริงจัง กับการแก้ปัญหา
เพิ่ม
1.รัฐไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร กับภูมิปัญญาของท้องถิ่น
2.รัฐไม่ได้ใช้สื่อที่มีอยู่ ให้เป็นประโยชน์ต่อคุณภาพ
1.รัฐควรดูแลอย่างจริงจัง
2.สร้างจิตสำนึก ให้กับผู้ประกอบการบางประเภท ที่เกี่ยวกับเด็ก
เพิ่ม
1.มีการมั่วสุม ระหว่างกันชายหญิง เด็กและเยาวชน
2. เกิดอาการสมองไหล บุคลากรมีคุณภาพ ไม่อยากไปสู่ 3 จังหวัด
เพิ่ม
1.รัฐส่งเสริมการศึกษาตอนต้น อนุบาลเด็กเล็ก และคนอื่นๆ อย่างเท่าเทียมกัน
2. ศาสนาให้เข้มแข็ง และให้มีส่วนร่วมในการแก้

ข้อเสนอในการแก้ปัญหา
     1. พิจารณาเป็นครอบครัว และชุมชนให้เข้มแข็ง และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา
     2. รัฐต้องใช้มาตรฐานที่แตกต่าง ในการแก้ปัญหา ใน 3 จังหวัด

ผอ.เจ๊ะอูเซ็ง เจ๊ะอูบง
     การพัฒนาการศึกษา ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นหัวใจสำคัญที่สุด และพัฒนาทุกๆ เรื่อง เพราะจะแก้ปัญหาทุกๆ เรื่อง ตามลำดับ ตราบใดการศึกษาไม่ดี มีปัญหาต่างๆ ตามมา
ถามว่าทำอย่างไร? เราต้องแก้ปัญหาการศึกษาให้เทียบเท่ากับภาคอื่นๆ

กลุ่มวิเคราะห์ว่าการศึกษาความเห็นของชาวบ้านเห็นด้วยอย่างไร
     1. เห็นด้วยกับการที่ประชาชนบอกว่าบางส่วนไม่สอดคล้องกับสภาพท้องถิ่น
     2. ชาวบ้านเบื่อตนเอง 50 ปีรัฐมองข้าม

การวิเคราะห์ของกลุ่ม
     ประชาชนมีความรู้สึกว่ารัฐบางส่วน ไม่จริงใจในการแก้ปัญหาที่มีอยู่ คล้ายกับว่านโยบายดี แต่รัฐเอาจริงหรือเอาใจ ทางกลุ่มมีความเห็นเพิ่ม ปัญหา ประชาชนบางส่วน ขาดความรู้พื้นฐาน จำเป็นของตนเอง เช่นการสาธารณสุข ประชาธิปไตย

สาเหตุ ที่ประชาชนบอกว่ารับอารยธรรม ทางกลุ่มเห็นด้วย
     ทางกลุ่มมีความเห็นเพิ่ม รัฐไม่ให้ความสำคัญ ภูมิปัญญาท้องถิ่น กระทรวงศึกษาออกระเบียบตาดีกา ศูนย์เด็กเล็กรัฐต้องให้การสนับสนุน รัฐใช้มาตรฐานในการแก้ปัญหาการศึกษา
เงื่อนไข เยาวชนมีการมั่วสุม ทางกลุ่มได้วิเคราะห์ เช่น การประกวดร้องเพลง ทางกลุ่มมีความเห็นเพิ่ม รัฐยังดูแลไม่ทั่วถึงของชีวิตประชาชน การสร้างจิตสำนึก ให้ผู้ประกอบการบางประเภท ที่เกี่ยวกับเด็ก ผลกระทบ ทางกลุ่มเห็นด้วย มีการมั่วสุมหลายแบบ ความเห็นเพิ่มเติมของกลุ่ม รัฐต้องสร้างเสริมอนุบาล ตาดีกาอย่างเท่าเทียมกัน

ปัญหาอื่นๆ
     - ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
     - การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพ
     - นโยบายไม่ตรงกับสภาพท้องถิ่น สภาพที่เป็นอยู่
     - คำถามประชาชนต้องการเจ้าหน้าที่แบบใด?
     - ปัญหาโครงสร้างทางด้านสังคม ชาวบ้านไม่กล้าร้องเรียนเดือดร้อน 3 ฝ่าย
     - ประชาชนกลัวมาก คือเจ้าหน้าที่รัฐบาล ทหาร ปกครอง กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน อบต. นักการเมืองท้องถิ่น ครู เกษตร สาธารณสุข ปัญหาน้อย
     - ระบบการตรวจสอบโดยประชาชนต่อเจ้าหน้าทีรัฐมีมากขึ้น(ประชาธิปไตย)
     - หน่วยงานในภูมิภาคซับซ้อน ข่าวรัฐช้า
     - ชุมชนใน 3 จังหวัดมีลักษณะเชื่อมโยงเครือข่ายอยู่แล้ว
     - เจ้าหน้าที่รัฐถูกมองว่ายังเป็นปัญหาเรื้อรังแก้ไขไม่ได้สักที่ (10-20ปี)
     - ชาวบ้านคิดไม่ใช่นโยบายรัฐไม่ตรง
     - รัฐคิด ความไม่เป็นเอกภาพของรัฐ มท1 สอช. ระดับภูมิภาคความคิดไม่ตรงกัน นโยบายจึงไม่ตรง สั่งการไม่ตรง การปฏิบัติจึงไม่ตรง
     - มาตรการการลงโทษเจ้าหน้าที่ช้า (ช่วยลูกน้อง) 90วันไม่เสนอสร้างเงื่อนไขวิ่งเต้น2ปีไม่เสร็จไม่ย้าย
     - การสื่อสารเร็วขึ้นในหมู่ประชาชน
     - ระบบการศึกษาในเกณฑ์ได้รับการศึกษาน้อย
     - เรียนวิชาสามัญน้อยไม่สามารถสอบแข่งขันเรียนต่อได้
     - แข่งขันการเข้ารับทำงาน ได้น้อย(ว่างงาน)ยากจน คนจนกล้าทำผิดกฎหมาย
     - เจ้าหน้าที่ไม่รู้นโยบายหรือนำไปใช้ในทางที่ผิด การร้องเรียนสูงขึ้นทุกปี
     - บัญชีนายเรียกค่าคุ้มครอง ชิ่งทรัพย์
     - การลงทุน 3 จังหวัดน้อย ทุเรียน ลองกอง มังคุด การตลาดไม่ดี
     - ร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นจริง 50% คุณภาพตำรวจภาค9 ดีกว่าภาคกลางแต่พยานบุคคลไม่สามารถหาพยานได้ใช้เทคโนโลยีไม่ดีไม่มีงบประมาณพื้นที่กว้างใหญ่
     - เรื่องที่เกิดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มักถูกมองว่าพิเศษ ทั้งที่ปัญหาเหมือนกันทุกแห่ง
     - ทรัพยากรธรรมชาติ ดินฟ้าอากาศเอื้อต่อการลงทุน
     - ข่าวจากกทางการออกว่าชาวบ้านถูกหมายจับเกิดปัญหาความไม่ปลอดภัย

แนวทางแก้ไข
     - บูรนาการไม่แยกส่วน
     - สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน ส่วนตัว ทางการ
     - หมุนเวียนเน้นประชาสัมพันธ์
     - เจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่ายร่วมกับประชาชนร่วมกันทำงานร่วมกัน
     - เจ้าหน้าที่จริงใจในการปฏิบัติงานและไม่สร้างเงื่อนไข ผิดตรงไหน? แก้ให้ถูกตรงจุดต่อเนื่องอย่าคลุ่มเครือ
     - การประชาสัมพันธ์
     - ให้เวลา อบต. อบจ.พัฒนาตนเอง
     - ฤาจะไม่ต้องสวมเสื้อแบบฟอร์มเจ้าหน้าที่รัฐ
     - ร่วมคิดกันวิเคราะห์ข่าว/คุยกันจะให้ข้อมูล
     - ประชาชนต้องการผู้ไปช่วยเกลี่ยเขาด้านความมั่งคง ความมั่งคั่ง
     - ตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
     - จริงใจกับประชาชน การให้ประชาชนเข้ามาตรวจสอบ
     - การกระจ่ายอำนาจให้ประชาชนมีสวนร่วม ให้คนในพื้นที่เป็นเจ้าหน้าที่
     - สร้างจิตสำนึก ปรับโครงสร้าง ช่วยกันแก้ไขลดอิทธิพลท้องถิ่น ลดการแสวงหาผลประโยชน์
     - เป็นข้อมูลเสนอ สมช.ในการประเมินผลเชิงนโยบาย
     - รัฐเปิดใจกว้างจูนกันนโยบายปกติ ภาค จังหวัด พื้นที่
     - ผู้สูงอายุสามารถช่วยทำงานแทนเทคโนโลยีได้ในการดูแลความสงบ (ทรัพยากรบุคล)

ความคิดเห็นต่อนโยบายชายแดนใต้หรือนโยบายความมั่นคงแห่งชาติ ในเวทีรวม
     - มีความเห็นด้วยทุกประการกับนโยบายชายแดนใต้ สภาพปัญหาที่นี้อยู่ใต้มาตรฐานในปกติ (จึงต้องเป็นพื้นมีที่พิเศษเพราะชายแดนใต้มีโครงสร้างทางสังคมที่แตกต่างจากที่อื่น)
     - ชาวปัตตานีไม่ได้มีการทำอาชีพที่สร้างรายได้มาก ส่วนใหญ่เป็นนายทุนจากที่อื่นเช่นระยอง
     - นโยบายการแก้ปัญหาความยากจนและการว่างงาน
     - ส่งเสริมการลงทุนเขต 3ทีเท่าเทียมกันแต่พื้นที่ขาดความพร้อม
     - ความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชการและประชาชนจะส่งเสริมอย่างไร
     - เราขาดความศรัทธาจากประชาชน/ โดยเฉพาะระดับองค์กร
     - รัฐบาลไม่รับรองวุฒิการศึกษาคนที่จบจากต่างประเทศ (ตะวันออกกลาง)เรียนศาสนาแก้โดยกำหนดพื้นที่เพิ่มสิทธิพิเศษ ลงทุนทางต้นยาง
     - จะนำไปสู่การสร้างศรัทธาจากประชาชน ประชาชนไม่สามารถอดทนต่อปัญหาสังคมจิตวิทยา (แต่ทาง เศรษฐกิจทนได้
     - ปัญหาเกิดจากความสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่รัฐบาลและประชาชนไมดีและความรู้ที่ไมปลดล็อกไม่มี
     - กฎหมายระเบียบราชการไม่เอื้อต่อการดำรงชีพของประชาชน
     - ควรมีนโยบายความมั่นคงชายแดนใต้ตอนล่างหรือไม่ ?
     - ทุกภูมิภาคของประเทศก็มีความแตกต่างหลากหลาย มีปัญหามากเช่นกัน
     - องค์กรประชาชนกำลังตรวจสอบ สอบถามว่านโยบายที่ว่าดีนั้นดีตรงไหน? ดีอย่างไร? ขาดความเป็นรูปธรรมของนโยบาย นโยบายขาดรูปธรรม
     - สนับสนุนชาวไทยมุสลิมอยู่อย่างมุสลิม
     - กำหนดเขตเศรษฐกิจเฉพาะทีมีการปฏิบัติอย่างจริงจัง
     - ประชาธิปไตยอยู่ระหว่างการพัฒนาขอให้นำผลการวิจัยจากเวทีไปใช้จริง
     - เหตุการณ์รุนแรงเกิดทั่วประเทศทุกยุคทุกสมัย
     - สังคมจิตวิทยา เหตุการณ์เกิดแล้วเกิดอีก (ฝังใจ/ซ้ำซาก)
     - ขาดการสร้างความเข้าใจซึงกันและกัน
     - นโยบายชายแดนใต้ดีอยู่แล้ว สนับสนุนนโยบายความมั่งคงเป็นนโยบายนำอาสาเปลี่ยนนโยบายความมั่งคงเป็นนโยบายการพัฒนาชายแดนภาคใต้
     - พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พัฒนาทางศาสนา ภาพพจน์ของจังหวัดชายแดนใต้ถูกมองในแง่ลบ
     - ความร่วมมือของหน่วยงานรัฐกับเอกชนที่ไม่คัดกับหลักศาสนา
     - ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความหลากหลายเชื่อมโยงกัน
     - ความยากจนเป็นบ่อเกิดของความมั่งคง
     - เรากำลังมองมุสลิมกับพุทธในพื้นทีแยกส่วนกัน
     - นโยบายรัฐกับนโยบายความมั่งคงต่างกัน
     - มาตรการบูรณาการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ
     - ไม่มีการทำนโยบายในพื้นที่ (หน่วยงาน)มาบูรณาการ
     - รายได้ประชากรจังหวัดนราธิวาสต่ำกว่าที่อื่นๆ
     - ไม่มีการพูดคุยถึงปัญหานาร้าง
     - การศึกษา จบป.6 อ่านหนังสือไม่ออก สื่อภาษา ว่างงาน พื้นฐานการศึกษาไม่เท่ากัน ไม่ทั่วถึง เด็กมุสลิมสู่เขาไม่ได้
     - ชาวบ้านซื้อผักจากพื้นที่อื่น รัฐส่งเสริมการลงทุนบนความหลากหลายที่แตกต่างจากภาคอื่นๆได้หรือไม่
     - เน้นศาสนาไม่เน้นโลก ส่งเสริมโรงเรียน
     - ม.อ.ปัตตานีไม่สามารถมีอิสระในการบริหาร
     - การปฏิบัติเป็นองค์กร ให้มุสลิมอยู่อย่างมุสลิม